'นายกฯ' แจ้ง ครม.เยือนกัมพูชา สางปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ -อาชญากรรมชายแดน

'นายกฯ' แจ้ง ครม.เยือนกัมพูชา  สางปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์  -อาชญากรรมชายแดน

"นายกฯ" แจ้ง ครม.เยือนกัมพูชา สานต่อแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง ยกระดับคุมชายแดนป้องอาชญากรรมทุกรูปแบบ

29 เมษายน  2568ที่มหาวิทยาลัยนครพนม จ.นครพนม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 16  ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ของการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดนครพนม ตามกลุ่มจังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน  โดยนายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องการเยือนประเทศกัมพูชาอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ

ได้เดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาตามคำเชิญของรัฐบาลกัมพูชาเนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับกัมพูชานั้น ประเทศไทยกับกัมพูชามีการร่วมมือกัน ในการปราบปรามอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระหว่างชายแดน โดยทั้ง 2 ประเทศ และมีความร่วมมือกันใน 4 ด้านประกอบด้วย

1.ทั้งสองประเทศจะร่วมกัน แลกเปลี่ยนหลักฐาน หรือข้อมูลต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ในการปราบปรามอาชญากรรมระหว่างกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2. ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันปิดกั้น( Block )สัญญาณโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต ที่เกิดจากเครือข่ายในการก่ออาชญากรรมออนไลน์
3. ทั้งสองประเทศจะยกระดับมาตรการ ในการควบคุมชายแดนให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะป้องกันอาชญากรรมในทุกประเภท รวมทั้งการลักลอบ ขนส่งสิ่งของผิดกฎหมายข้ามแดน เช่น ยาเสพติด 
4.  ทั้งสองประเทศ จะร่วมมือกันตรวจสอบ คนไทยที่ทำงานในประเทศกัมพูชานั้นจะต้องมีใบอนุญาตการทำงานที่ถูกต้อง 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการ กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวง DE กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง กรมศุลกากร หน่วยงานความมั่นคง ตำรวจ ทหาร กสทช. รวมทั้งประสานความร่วมมือกับบริษัทเอกชนที่ให้บริการเครือข่าย ร่วมมือกันปราบปรามปัญหานี้อย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศ มีความปลอดภัยในการดำรงชีวิต และยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นต่อไป 

นอกจากนี้ ประเทศไทยและกัมพูชาตกลงที่จะจัดประชุม Mini Joint cabinet meeting ระหว่าง 2 ประเทศ ที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาระหว่างชายแดนทั้ง 2 ประเทศร่วมกัน ในเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์  PM 2.5  ยาเสพติด  การค้ามนุษย์( Human Trafficking )

ซึ่งคาดว่า ดำเนินการในเดือนกรกฎาคมปีนี้ จึงขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการประสานความร่วมมือดังกล่าวเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของทั้งสองประเทศ