สว.สำรอง ตะเพิด กกต.บางคนพันปมสินบน ออกจากคณะสอบปมฮั้ว สว.

สว.สำรอง ตะเพิด กกต.บางคนพันปมสินบน ออกจากคณะสอบปมฮั้ว สว.

สว.สำรอง ทวงถามความคืบหน้า กกต.สอบปมฮั้วเลือก สว. ค้าน กกต.บางคนพันคดีสินบนเลื่อนตำแหน่ง 'บิ๊ก สตง.' ส่อผิดจริยธรรมร้ายแรง

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลุ่ม สว.สำรอง จำนวนหนึ่ง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เดินทางมาทวงถามความคืบหน้าข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือก สว. โดย พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า กลุ่ม สว.สำรอง ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธาน กกต.มาอย่างต่อเนื่อง กว่า 10 ฉบับและเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ กกต.แล้วได้สาระบ้าง แต่ยังไม่ได้ความกระจ่างมากนักเพราะยังไม่ได้พบกับผู้บริหาร โดยเฉพาะข้อร้องเรียนให้วินิจฉัยความบกพร่องของนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ที่เราร้องซ้ำ ทราบความคืบหน้าว่าจะมีการ เรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล ในวันที่ 2 พ.ค.นี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังเป็นเรื่องค้างคาใจและยังไม่มีการสื่อสารกันมากนัก

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนร่วมระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษกับกกต. มีความคืบหน้าไปมาก ใกล้งวดเต็มทีแล้ว แต่เนื่องจากต้องส่งสรุปให้กับคณะกรรมการอีกครั้งนั้น ในส่วนนี้ตนค่อนข้างกังวลใจเนื่องจากตอนนี้มี กกต. 1 คน ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีใช้เงินกว่า 3 แสนบาท วิ่งเต้นเลื่อนขั้นของข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จนถูกแจ้งความลงบันทึกประจำวันตั้งแต่เดือน มี.ค. 2567 ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ องค์กรข้าราชการปกติต้องรายงานตัวการต้องคดี แล้วอาจถูกผู้บังคับบัญชาตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอาจถูกสั่งพักราชการ หรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน แล้วแต่โทษของข้อกล่าวหา แต่เนื่องจาก กกต.อาจจะไม่มีระเบียบระบุไว้ชัดเจนว่า จะต้องทำอย่างไรทั้งหมด จึงขึ้นอยู่กับคุณธรรมประจำใจ ของ กกต.ว่าจะพิจารณาอย่างไร แต่ตามมาตรา 10 ของ พ.ร.บ.กกต ระบุถึงคุณสมบัติผู้ที่จะมาเป็น กกต. ในข้อที่ 24 ต้องไม่มีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

สว.สำรอง ตะเพิด กกต.บางคนพันปมสินบน ออกจากคณะสอบปมฮั้ว สว.

“ว่ากันตามข้อกล่าวหาที่ท่านถูกกล่าวหานั้นเข้าข่ายว่าท่านละเมิดมาตรฐานจริยธรรมข้อนี้อย่างร้ายแรง ดังนั้นเราจึงมีความไม่สบายใจอย่างยิ่งหากท่านยังนั่งเป็นกรรมการ 1 ท่านที่ต้องมาพิจารณาคดีร้องเรียน สว. เพราะการที่ท่านเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการวิ่งเต้นในการสอบเลื่อนตำแหน่งของ สตง.นั้น เป็นเรื่องของการทุจริตใช้เงินทอง เพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่ง ในลักษณะที่ค่อนข้างชัดเจน ในขณะที่หน้าที่ของท่าน ทำงานใน กกต.ก็เกี่ยวข้องกับการพิจารณาว่าใครจะมีโอกาสถูกตรวจสอบหรือไม่ เราจึงค่อนข้างไม่สบายใจ เกรงว่า ไม่รู้ว่าใครจะเอาอะไรมาวิ่งเต้นหรือเปล่า จึงฝาก กกต.ที่เหลืออยู่ ช่วยนำประเด็นนี้ไปหารือในวงของ กกต.ด้วยเพื่อให้เกิดความสง่างาม เกิดความน่าเชื่อถือที่จะวินิจฉัยคดีเลือกตั้งต่อ ๆ ไป” พล.ต.ท.คำรบ กล่าว 

สว.สำรอง ตะเพิด กกต.บางคนพันปมสินบน ออกจากคณะสอบปมฮั้ว สว.

ขณะที่ นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนชริตกุล ตัวแทนกลุ่ม สว.สำรอง กล่าวว่า ตอนนี้เข้าเดือนที่ 10 หลังเลือก สว.แล้ว แต่ กกต.ยังทำงานอย่างดึงเช็ง ไม่กระตือรือร้น นำกระบวนการที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยมาพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงการเลือก สว.ถูกต้องตามกฎหมาย สุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ เพราะมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมากต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กกต.จัดการเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ประชาชน ก็เห็นว่า กกต.อาจ มีส่วนร่วมในการสนับสนุนหรือเอื้อประโยชน์ให้กับ กลุ่มคณะบุคคล หรือไม่อย่างไร แล้ววันนี้ก็ยังมีปัญหาที่เราต้องมาชี้แจงอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะทุกคนรู้ แต่มีนายแสวง ที่ยังไม่รู้ บอกว่าโพยไม่ผิดแล้ว เข้าไปในห้องเลือก สว.ได้ หนังสือชี้แจงล่าสุดก็บอกว่า การนำโพยเข้าหน่วย เลือกตั้งไม่ผิดตามคำสั่งศาลปกครอง ทั้ง ๆ ที่คนร้องศาลปกครองเนื่องจาก หนังสือแนะนำตัวในใบสว. 3 นั้นมีแค่ 5 บรรทัดทำให้เขาไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทำงานเพื่อประเทศชาติมาทั้งชีวิต แต่จะให้บรรยายแค่ 5 บรรทัดจะไปรู้เรื่องได้อย่างไร ซึ่ง ศาลมีคำสั่งคุ้มครองว่าให้สามารถแนะนำตนเองได้ในกระดาษ A4 

ส่วนใบสว. 3 ที่ผู้สมัคร ทุกกลุ่มอาชีพผ่านรับอำเภอ มาระดับจังหวัด และระดับประเทศ จะได้รับแต่ละเล่มจะมีหน้าตาไม่เหมือนกัน โดยจะมีข้อมูลแค่ของกลุ่มนั้น ๆ สามารถนำเข้าคูหาได้  ชอบใครก็พับเอาไว้ แต่สิ่งที่เขาห้าม และเป็นสิ่งที่ผิดปกติ ที่เราจะต้องมาบอกเลขาฯ แสวง ซึ่งเป็นคนคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องว่า โพยผิดคือ ผู้สมัครในบางจังหวัด รู้ได้อย่างไรว่ามีใครจะเข้ามาในช่วงบ่ายบ้าง จึงแอบเขียนโพยเอาไว้ในสว.3 ซึ่งก็มีการแจ้งเรื่องต่อกกต. แต่กลับบอกว่าปล่อยให้เอาเข้าไป การที่เขารู้ได้อย่างไรนั้นสรุปว่าก็คือเกิดการทำโพย ทำใบสั่งให้เลือก เป็นหนังสือเอกสารเฉลยคำตอบว่า เลือกตามนี้ทุกคนได้เป็นสว.แน่นอน นี่แหละคือสิ่งที่ผิด เป็นขบวนการที่ทำมาเป็นล่ำเป็นสัน มีการลงทุน มีเส้นเงินมีการจ่ายเงินจ่ายทอง ทุกคนรู้ทั้งประเทศว่ามีกระบวนการจ่ายเงิน มูลค่าหลายร้อยล้านบาท แต่นายแสวงยังดันทุรังว่าไม่ผิด อย่างไรก็ตาม ตอนเช้าให้เอาเข้าได้ แต่ตอนบ่ายบอกว่าไม่ให้เอาเข้า เป็นการย้อนแย้งกับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น

สว.สำรอง ตะเพิด กกต.บางคนพันปมสินบน ออกจากคณะสอบปมฮั้ว สว.

“ถ้าบริสุทธิ์ใจว่าสามารถนำเข้าไปได้ตั้งแต่รอบเช้าแล้วทำไมถึงไม่ปล่อยเข้าไปเลยทั้งวัน ช่วงบ่ายทำไมถึงบอกว่าผิดนี่จึงเป็นเหตุผลว่าคุณเมาอะไรหรือเปล่า วันนั้นถ้าคุณวางกระป๋องกาว คุณจะไม่เมาอย่างนั้นเลย หัวใจจะมีเรื่องความสุจริตเที่ยงธรรม เป็นกรรมการอย่างตรงไปตรงมา ไม่เอนเอียงไปรับใช้ใคร รู้ว่าอยู่บ้านเดียวกัน อยู่จังหวัดเดียวกัน แต่ไม่ใช่มาย่ำยีกับประเทศชาติแบบนี้ จึงขอให้นายแสวงขอให้กลับตัวกลับใจ และอย่าเข้ามายุ่งในเรื่องการสืบสวนสอบสวนของคณะสืบสวนชุดที่ตั้งขึ้นมาใหม่ งานเขาจะสำเร็จอยู่แล้วออกไปพักผ่อนได้แล้ว” นายอัครวัฒน์ กล่าว

นายอัครวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ กกต.หนึ่งคนที่เกี่ยวข้องกับการวิ่งเต้นสอบเลื่อนขั้นของสตง.นั้นขอให้หยุด หรือออกจากคณะสอบสวนไปก่อนแล้วให้คณะกรรมการที่เหลือดำเนินการ ส่วนกรณีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ส่งถึงปลัดจังหวัดทุกแห่งเกี่ยวกับกรณีที่ดีเอสไอจะลงไปสอบถามข้อมูลฮั้ว สว.แล้วให้บอกว่าคนไม่พอ หรือให้ระวังเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล หรือไม่ได้รับความปลอดภัยนั้น เห็นว่า ตอนจัดเลือกตั้งต่าง ๆ ก็ให้ความร่วมมือ แต่พอเมื่อมีปัญหากลับหาวิธีสกัดกั้น ดังนั้นถ้าไม่ให้ที่ว่าการอำเภอ สอบสวนพยานหลักฐาน แนะนำให้กระทรวงยุติธรรม เปิดเรือนจำ เชิญมาให้ข้อมูลในนั้นซึ่งมีกำแพงหนาแน่น คิดว่าจะได้ข้อมูลที่ชัดเจน คดีนี้เป็นคดีที่ทำลายระบอบประชาธิปไตย คดีปล้นบ้านปล้นเมือง ทำความเสียหายให้กับคนไทยทั้งประเทศ วันนี้จึงขอฝากว่า หาก กกต.มีจิตสำนึก ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ขอให้กลับเนื้อกลับตัวตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติ นายอิทธิพร บุญประคอง ในฐานะประธาน กกต.อย่าอยู่เหนือปัญหา ใครส่งอะไรมาให้ก็อ่านบ้าง อย่าเซ็นชื่ออย่างเดียว เพราะคนเกษียณหนังสือไม่รู้ว่าได้รับกล้วยกี่หวี เกษียณหนังสือโดยไม่สนใจอะไร แต่ประชาชนจับได้ไล่ทันหมดแล้ว