นายกฯย้ำราคายางต้องอิงกลไกตลาดโลก

นายกฯย้ำราคายางต้องอิงกลไกตลาดโลก

"ยิ่งลักษณ์"พร้อมรับฟังปัญหาชาวสวนยาง ชี้ราคายางต้องอิงกับกลไกตลาดโลก วอนอย่าปิดถนน

น.ส.ยิ่งลักษณ์​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีม็อบสวนยางชุมนุมปิดถนนเรียกร้องรัฐบาลปรับราคา ว่า รัฐบาลห่วงใยปัญหาของพี่น้องชาวสวนยาง และได้ติดตามอยู่ โดยช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ (26 ส.ค.) ก็ได้เร่งรัดให้นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เร่งหารือ ขณะเดียวกันนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็ได้ลงพื้นที่กับผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือและรับฟังปัญหาจากชาวสวนยาง จะได้นำกลับมาแก้ไข และจะเร่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยเร็ว อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าปัญหาตรงนี้อาจจะมีรายละเอียดค่อนข้างมาก แต่ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความห่วงใยกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และยินดีรับเรื่องราวต่างๆมาพิจารณาให้สัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว

เมื่อถามว่าราคารับซื้อที่ชาวสวนยางเรียกร้อง 120 บาทต่อกิโลกรัม มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ราคายางเป็นกลไกที่เราต้องอ้างอิงกับราคาตลาดโลก ดังนั้นต้องมาดูตามหลักสมดุลว่าต้นทุนจริงๆ เป็นอย่างไร อย่างน้อยต้องไม่ให้ชาวสวนยางขาดทุน มีรายได้พออยู่ได้

"ขณะเดียวกันก็กราบขอความเห็นใจจริงๆ ว่าเราไม่สามารถที่จะผลักราคาไปเท่ากับราคาตลาดโลกได้ เพราะปริมาณยางเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ของเรายังถือว่าน้อย คงต้องไปอิงกับกลไกจริงๆ อย่างไรก็ตามเราก็เข้าใจปัญหาต่างๆ ก็จะเร่งให้กระทรวงเกษตรฯศึกษาผลกระทบ และหาทางออกที่พี่น้องประชาชนพอใจ วันนี้รัฐบาลคงต้องขอร้องให้มาพูดคุยกันมากกว่าการปิดถนน ซึ่งได้ส่งตัวแทนไปแล้ว ยืนยันว่าทุกความกังวลใจ เราจะรับเรื่องมาพิจารณา และยินดีรับฟังปัญหาโดยตรงกับตัวแทนชาวสวนยาง ขอให้ส่งตัวแทนมาคุยกับทางกระทรวงเกษตรฯได้เลย ซึ่งเราจะได้ตั้งคณะทำงานมาพูดคุยกัน และร่วมกันแก้ไขปัญหาได้ ไม่อยากให้ปิดถนนเลย เพราะจะทำให้เกิดความเดือดร้อนในพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงนี้อากาศร้อน" นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ที่ ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้อาจจะนำเรื่องนี้มาเคลื่อนไหวเป็นเรื่องการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือ เราไม่อยากเห็นการนำเอาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องการเมือง เพราะการแก้ไขปัญหาก็จะไม่ถูกวิธี ถ้าเราได้รับฟังปัญหาจริงๆ ก็พร้อมที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ แต่วันนี้ส่วนใหญ่แล้วการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรมักจะเป็นการแก้เฉพาะหน้า เราอยากให้มีการพูดคุยกันเพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวว่าทำอย่างไรถึงจะอยูได้ รวมทั้งการส่งเสริมด้านการแปรรูปการวิจัย ซึ่งถือเป็นพื้นที่กลางน้ำคงต้องมาเร่งทำให้มากขึ้นอย่างจริงจัง และส่งเสริมการลงทุนด้านอุตสาหกรรมในแต่ละจังหวัดที่มีสินค้าต้นน้ำให้มากกว่านี้