'ประยุทธ์'ร่ายยาวแถลงคืนความสุขให้ปชช.

เมื่อเวลา 21 40 น. วานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกรายการพิเศษ"คืนความสุขให้คนในชาติ"ผ่านทีวีพูล ได้แถลงข่าวถึงภารกิจของ คสช. นับจากวันที่ 22 พฤษภาคม- 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมานั้น สถานการณ์โดยรวมถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ส่วนทมี่สาเหตุที่คสช.ต้องเข้ามาบริหารประเทศในตอนนี้ก็มีสาเหตุมาจากเกิดความแตกแยกของประชาชนที่หยั่งรากลึกด้วยเหตุผลหลายประการทั้งผิดและถูก มีการชุมนุมประท้วงที่ยาวนานตลอดจนเหตุการณ์ความรุนแรงมีการใช้อาวุธสงคราม รวมทั้งมีการทุจริตและทำผิดกฎหมายเป็นผลให้ประชาชนไม่มีความสุขและไม่มีความปลอดภัย รัฐบาลรักษาการไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายปกติได้ และไม่สามารถบริหารราชแผ่นดินได้ดีอย่างเพียงพอ การใช้จ่ายงบประมาณปี 2557 นั้น เกิดความติดขัดไม่สามารถดำเนินการได้

ด้วยกฎหมายข้อบังคับคำสั่ง และระเบียบต่างๆที่มีอยู่ การทำงบประมาณปี 2558 มีความล่าช้า ปัญหาเหล่านี้หากปล่อยไว้ให้ยืดเยื้ออย่างยาวนานจะส่งกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของคนไทยโดยรวม และประเทศไทย รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อมิตรประเทศที่มีอยู่ในประเทศไทย และพันธะสัญญาต่างๆ ที่ได้ทำไว้ร่วมกันยาวนาน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การเข้ามาควบคุมของคสช.เป็นการเข้ามาเพื่อยุติความรุนแรง ปลดล็อคข้อจำกัดเล็กน้อยต่างๆ ที่มีอยู่ในกระบวนการที่รออนุมัติจากรัฐบาลอยู่อีกจำนวนมากมาย และเพื่อคืนความสุขให้คนไทยทั้งชาติ รวมทั้งแก้ไขความเดือดร้อนเร่งด่วนเฉพาะหน้าเป็นการชั่วคราว เพื่แอให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่ามีความสุข และมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนทุกประเทศโดยรวม และที่สำคัญที่สุดสถาบันพระมหากษัติรย์ทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวงตลอดมา และได้รับการปกป้องจากคนไทยทุกคน การทำงานของคสช.มีหน้าที่อยู่ 2 ประการหลักๆ คือ 1. งานรักษาความสงบเรียบร้อยทั่วราชอาณาจักร โดยการประกาศใช้กฎอัยการศึกนั้นมีความจำเป็น เพราะต้องให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไประงับเหตุได้ทันที เนื่องจากกฎหมายในปัจจุบันไม่สามารถยุติความขัดแย้งได้เลย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของประชาชน อีกทั้งให้ประชาชนได้เรียนรู้กฎหมาย โดยทั้งหมดนี้ได้ยึดหลักกฎหมาย และสิทธิมนุษยชน

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะใช้กฎหมายเท่าที่มีอยู่ และเท่าทีมีความจำเป็นโดยไม่ให้เกินเลยเกินขอบเขต รวมทั้งจะระมัดระวังการละเมิดสิทธมนุษยชน หากสถาการณ์เข้าไปสู่สภ่าวะปกติเราก็จะได้กลับไปใช้กฎหมายตามปกติให้เร็วที่สุด ส่วนการประกาศใช้เคอร์ฟิวนั้น เพื่อต้องการควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยให้เข้าสู่สภาวะปกติให้ได้โดยเร็ว ซึ่งอาจจะมีผลกระทบอยู่บ้าง แต่ในเวลานี้ก็ได้มีการผ่อนคลายด้วยการลดเวลาการประกาศใช้เคอร์ฟิวลงจากเดิม ดังนั้นหากพื้นที่ใดไม่มีสถานการณ์ หรือเป็นพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวจะได้รับการพิจารณาลดมาตราการลง เพื่อให้ธุรกิจการท่องเที่ยวได้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การประกาศยกเลิกในที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่พวกเราอยู่ในการเผชิญกับสภาวะความขัดแย้งมาเป็นเวลาอันยาวนาน นานกว่า 9 ปีเต็ม ซึ่งการเชิญตัวบุคคลต่างให้มารายงานตัวนั้น ได้มีการเชิญตัวบุคคลที่ขัดแย้งทั้งทางตรงและทางอ้อมให้มารายงานตัว เช่น แกนนำ ผู้สนับสนุน นักวิชาการ และอื่นๆ รวมทั้งบุคคลบางคนที่อาจจะเป็นสัญญาลักษณ์ในการระดมมวลชนที่อาจจะสร้างความขัดแย้งขึ้นมาอีก จากกระบวนการแสดงความคิดเห็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อความสงบสุขโดยรวมก็อาจจะต้องถูกเชิญตัวมาคัดแยกไปดูแล เพื่อไปสงบสติอารมณ์ และคิดทบทวนไปว่าในอดีตที่ผ่านมานั้นได้ไปทำอะไรมาบ้าง ซึ่งอาจจะผิดบ้างถูกบ้างตามความเชื่อของตัวเอง ซึ่งระยะเวลาในการควบคุมจะมีตั้งแต่ 1 - 7 วัน ซึ่งหากมีบางคนที่มีพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรงอาจจะต้องถูกควบคุมนานกว่านั้น ซึ่งการควบคุมดูแลจะได้รับการดูแลอย่างดี ไม่มีการพันธนาการ ไม่มีการซ้อม หรือขู่เข็น และละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ที่ไม่มารายงานตัวนั้น เราจะถือว่าเป็นบุคคลที่ไม่ให้ความร่วมมือ และยังคงที่จะมุ่งมั่นเอาชนะและฝ่าฝืนไม่เคารพกฎหมายสูงสุดในปัจจุบัน ซึ่งจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

"ตอนนี้เราจะยึดเอาแนวทางของตนเอง หรือยึดตีความในทางกฎหมายเข้าข้างตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว เพราะมีแต่ก่อให้เกิดความแตกแยกไม่มีที่สิ้นสุด คนส่วนใหญ่ทั้งประเทศไม่มีความสุข ประเทศขาดเสถียรภาพ ดังนั้นทุกกลุ่มทุกฝ่ายจะต้องมาส่งเสริมความรักความสามัคคี ความปรองดองสมานฉันท์ สิ่งใดที่เป็นความเห็นต่างนั้น เราจะต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ก่อน และให้นำมาหารือให้เป็นที่ยอมรับ เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ การชุมนุมแสดงต่อต้านนั้น คสช.มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะเราไม่อาจจะให้ใครมาชุมนุมต่อต้านได้ เนื่องจากจะเป็นเหตุให้ฝ่ายอื่นๆ ออกมาต่อสู้กันอีก ซึ่งจะอาจจะทำให้เหตุการณ์บานปลายขยายตัว ดังนั้นจึงอยากจะขอร้องทุกกลุ่มทุกฝ่ายอย่าออกมาชุมนุมในช่วงนี้ เพื่อจะได้ไม่มีการปะทะ หรือมีปัญหาเกิดขึ้นมาเพิ่มเติม " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่ออีกว่า การระงับสื่อบางประเภท บางระบบนั้น ในช่วงนี้ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา และการชุมนุมล่าสุดก็มีการใช้สื่อทุกประเภท และสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ มาบิดเบือน มาต่อสู้ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งถูกและผิด แต่ก็ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ อีกทั้งทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับผู้ที่เห็นต่าง หรือประชาชนที่อยู่ตรงกลาง รวมทั้งทำให้เกิดความสับสนในสังคม ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาเกิดความยุง่ยากเข้าไปอีก ดังนั้นคสช.จึงมีความจำเป็นที่จะต้องระงับสื่อดังกล่าว อย่างไรก็ตามคสช.ไม่มีนโยบายในการปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ทุกประเภทแต่อย่างใด

หัวหน้าคสช. กล่าวต่อว่า การขับเคลื่อนนโยบายบริหารราชแผ่นดินนั้น หลังจากที่การบริหารราชได้เกิดการสะดุดหยุดกับที่มาหลายเดือน คสช.จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปลดล็อคหาทางออกด้วยการหารัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม ที่จะเข้ามาจัดการทำงบประมาณประจำปี 2558 ให้เร็วที่สุด เนื่องจากในขณะนี้กำลังจะสิ้นปีงบประมาณปี 2557 รวมทั้งเราจะต้องเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามการสั่งงานหน่วยงานราชการนั้น คสช.จะไม่เข้าไปสั่งการให้ข้าราชการกระทำการที่ผิดระเบียบ หรือไปกระทำการเพื่อผลประโยชน์ใครแต่ประการใด โดยการดำเนินการจะมีการจัดทำเป็นรูปของคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ ให้เข้าไปดำเนินการให้ขับเคลื่อนงานให้มีประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว และโปร่งใส ส่วนความเป็นห่วงที่กลัวว่าคสช.จะเข้ามาใช้งบประมาณอย่างไม่จำกัดนั้น ขอเรียนว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามระเบียบวินัยการเงินการคลังของทุกกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งเรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการใช้จ่ายเงินงบประมาณจะต้องไม่ใช้จ่ายจนเสียวินัยการเงินการคลังของประเทศ และไม่ให้เกินยอดหนี้สาธารณะ ซึ่งตอนนี้กำลังตรวจสอบตัวเลขกันอยู่ โดยทั้งนี้เราจะให้ดำเนินการจัดงบประมาณให้ทันเดือนตุลาคมนี้

" การจัดทำงานประมาณในโครงการต่างๆ นั้น จะดำเนินการให้สามารถเข้ามาตรวจสอบได้จากหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบ โดยโครงการแต่ละโครงการนั้นจะไม่ให้แตกต่างกับการมีรัฐบาลในสภาวะปกติ อีกทั้งจะไม่ให้ก่อเป็นปัญหาให้กับรัฐบาลชุดต่อไป ส่วนมาตราการช่วยเหลือพืชพพันธุ์สินค้าทางการเกษตรนั้น ในขณะนี้กำลังดำเนินการหามาตรการดูแลให้เกิดความหยั่งยืน ทั้งนี้เราไม่ต้องการให้นำไปสู่โครงการประชานิยมที่จะทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมายในอนาคต " หัวหน้า คสช. กล่าว

หัวหน้าคสช. ยังกล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องของด้านพลังงาน ขณะนี้เรากำลังดูว่าจะดำเนินการให้มีการดำเนินการปรับปรุงได้มากน้อยอย่างไรบ้าง แต่ทุกอย่างจะต้องอยู่ในกติกา ระเบียบวินัยการเงิน การคลัง และกฎเกณฑ์กติกาของตลาดหลักทรัพย์ บริษัทมหาชน รวมทั้งการพิจารณาจัดตั้งกองทุนในภาคเอกชน รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนประเทศขนาดใหญ่เพื่อลดการลงทุนของรัฐ ส่วนคณะกรรมการบอร์ดในรัฐวิสาหกิจต่างๆ นั้นจะต้องมีการปรับให้อยู่ในระเบียบมีมาตรฐาน มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมาบริหารงานให้มีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าที่ผ่านมาประเทศ และประชาชนชาวไทย ยังมีปัญหามากมายที่จะต้องได้รับการแก้ไข และจัดระเบียบ อีกทั้งจะต้องมีการแก้ไขให้ได้โดยเร็ว ที่ผ่านมานั้นเวลาการแก้ไขปัญหานั้นได้สูญเปล่าไปกับความขัดแย้งของคนภายในชาติไปมากพอแล้ว เราจะต้องเดินหน้าต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับโรดแมปของ คสช. คือ ระยะที่ 1 ช่วงแรกของการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ จะดำเนินการเรื่องความปรองดองสมานฉันท์ให้เร็วที่สุด ในกรอบเวลา 2 - 3 เดือน นอกจากด้านความมั่นคงและขับเคลื่อน ได้เริ่มจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปทั้งในส่วนกลางและระดับพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปในระยะที่ 2 ทั้งนี้ทุกพื้นที่ต้องเริ่มจากครอบครัว หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด คสช.ได้มอบหมายให้ กอ.รมน. รับผิดชอบในการดำเนินการ รวมทั้งจัดตั้งคณะทำงานเตรียมการปฏิรูป เพื่อเตรียมการสู่การปฏิบัติให้พร้อมในระยะที่ 2 โดยปราศจากความขัดแย้งตั้งแต่บัดนี้ ซึ่งจะไม่ปรับโครงสร้างของหน่วยราชการใด ๆ หรือเรียกผลประโยชน์ ค่าตอบแทน หรือการนิรโทษกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น

ระยะที่ 2 การใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ซึ่งกำลังดำเนินการจัดทำอยู่ในฝ่ายกฎหมาย ซึ่งจะมีการจัดตั้งสภานิติบัญญัติ สรรหานายกฯ ตั้ง ครม. เพื่อบริหารราชการ ร่างจัดทำรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งการตั้งสภาปฏิรูป เพื่อปฏิรูปทุกเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องการ เป็นที่ยอมรับ ซึ่งน่าจะใช้เวลา 1 ปี อาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกฝ่าย เมื่อสถานการณ์เรียบร้อยเป็นปกติ ปฏิรูปสำเร็จ เกิดความปรองดองทุกฝ่าย ประชาชนสามัคคีกัน ก็จะก้าวเข้าสู่ระยะที่ 3

ระยะที่ 3 การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ที่ทุกฝ่ายพอใจ มีกฎหมายที่ทันสมัยทุกด้าน แก้ไขกฎกติกาให้ได้คนดีเข้ามาปกครองบ้านเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่อาจสำเร็จได้โดยเร็ว หากความสงบไม่เกิดขึ้น การประท้วงโดยไม่เข้าใจระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่เข้าใจสาเหตุการควบคุมอำนาจครั้งนี้ ว่าทำเพื่อคนไทยทุกคน จะส่งผลดีต่อประเทศได้ในอนาคตอันใกล้ คิดว่าคนไทยทุกคนเหมือนตนไม่มีความสงบสุขมา 9 ปีแล้ว ประชาชนอยู่สงบ เป็นสุขมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 - 22 พ.ค. เป็นต้นมา

"คสช.ไม่ต้องการเข้าสู่อำนาจ ใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อผลประโยชน์ใด ๆ เลย แต่ประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ แล้วถ้าทหาร ข้าราชการ ไม่ทำอะไรเลย ใครจะแก้ปัญหาให้ท่าน ในเมื่อประชาธิปไตยโดยสมบูรร์เดินหน้าไม่ได้ ขอให้เชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ขอให้ความร่วมมือ ให้กำลังกันและกัน ส่วนความรู้สึกของต่างประเทศ เราเข้าใจดี แต่ให้เวลาเราปรับเปลี่ยนทัศนคติ ให้ประชาธิปไตยของไทย ถูกต้อง ชอบธรรม นึกถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อยต้องได้รับความพอใจทั่วถึงกัน หากประชาชนร่วมมือกันจะนำพาประเทศไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ยั่งยืน"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว