จับ'แก๊งค์แอฟริกัน'26ราย หลอกเอาเงินสาวไทย
ตร.แถลงจับ "แก๊งค์แอฟริกัน" 26ราย แฉพฤติกรรมคนร้าย มักหลอกเหยื่อสาวไทย ผ่านระบบแชตหาคู่
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง - เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 มิ.ย.2558 พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ร่วมแถลงข่าวการจับกุมแก๊งชาวแอฟริกัน หลอกลวงเงินสาวไทย ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยมีผู้ต้องหาเป็นชาวแอฟริกัน 26 ราย พร้อมด้วยของกลางได้แก่ โทรศัพท์มือถือ 151 เครื่อง, หนังสือเดินทางปลอม 25 เล่ม, หนังสือเดินทาง , ตราประทับสถานทูตออสเตรเลีย และสถานทูตไนจีเรียปลอม , สมุดบัญชีธนาคาร 78 เล่ม , คอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง
พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากที่ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีการเตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการร่วมมือกับประเทศภาคีสมาชิก 10 ประเทศ ในการจัดการกับปัญหาในเรื่องของอาชญากรรมข้ามชาติ ด้วยเหตุนี้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้รวมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ดำเนินการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกวาดล้างอาชญากรรมให้หมดไปอย่างจิงจัง ก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
พล.ต.ท. ฐิติราช กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าตำรวจสอบสวนกลางกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการตรวจค้นแหล่งกบดานผู้ต้องหาทั้งหมด 40 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และสามารถตามจับกุมผู้ต้องหาได้ในจังหวัด กรุงเทพฯ, ปทุมธานี, อยุธยา โดยพฤติกรรมของคนร้ายแก๊งนี้ จะใช้รูปแบบการหลอกลวงเหยื่อผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยวิธีการตามความถนัดเฉพาะตัว 2 ลักษณะคือ การส่งอีเมล์ที่มีไวรัสไปหาเหยื่อ เพื่อขโมยข้อมูลรหัสผ่านอีเมล์ โดยเลือกเหยื่อที่เป็นบริษัททำการค้า จากนั้นก็จะทำการปลอมแปลงอีเมล์ดังกล่าว เพื่อหลอกให้บริษัทคู่ค้าหลอกโอนเงินมาให้
ส่วนอีกวิธีการคือ หลอกว่าตนเองเป็นนายทหาร นักบิน หรือหมอ อยู่ที่ต่างประเทศหลอกลวงเหยื่อที่เป็นหญิงไทย ว่าจะแต่งงานด้วย โดยสร้างเรื่องว่าได้ทำการส่งของหมั่นมาให้แต่ติดอยู่ที่ศุลกากร ต้องให้เหยื่อโอนเงินเป็นค่าภาษีเพื่อไถ่ออก หรือแสร้งว่ากำลังเดินทางมาแต่งงานด้วย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ ตม.กักตัวเอาไว้ ต้องโอนเงินมาเสียค่าปรับจึงจะออกไปได้ หรือใช้วิธีการคบกับหญิงชาวไทยเพื่อหลอกเอาบัญชีของเหยื่อไปทำธุรกรรม โดยอ้างว่าทำธุรกรรมเพื่อทำธุรกิจ โดยมีผู้หญิงหลงเชื่อสูญเสียเงินไปหลายแสน ซึ่งส่วนใหญ่เป้าหมายเป็นหญิงไทย ประมาณ 40-60 ปี
ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน โดยเฉพาะหญิงสาว โปรดระมัดระวังคนร้ายที่อาจปลอมตัวมาในคราบบุคคลที่มีอาชีพการงานที่ดี เพื่อหลอกลวงให้เสียหายได้ นอกจากนี้สำหรับผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บก.ปอท. 02-142-2557, บก.ปอศ. 02-235-7535, สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155, กองปราบ 1195