รัฐบาลย้ำ! ม.44 "เมา-ขับ-ยึดรถ" บังคับใช้ทุกวัน ไม่เว้นวันหย
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม. ว่า นายกรัฐมนตรีได้ปรารภถึงกรณีที่พยายามลดอุบัติเหตุลง
เมื่อเวลา 14.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนมีความสุข สะดวก เดินทางไปกลับในช่วงเทศกาลได้อย่างปลอดภัย ซึ่งหลายคนมีการยกตัวเลขขึ้นมาเป็นที่ตั้งซึ่งถ้าดูแล้วเหมือนตัวเลขจะสูงกว่าปกติ แต่รมว.มหาดไทยขยายความเพิ่มเติม ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ทำความเข้าใจประชาชนว่าได้ดำเนินการแล้วอย่างเต็มขีดความสามารถ ทั้งในเรื่องวินัย วัฒนธรรม การสร้างสำนึกความรับผิดชอบในการใช้รถใช้ถนนของประชาชนควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย เช่นมาตรา 44 ที่ออกมาในเรื่องการขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร การดื่มสุราในระหว่างการขับขี่ ซึ่งม.44 นั้นไม่ได้ใช้เฉพาะในช่วงปีใหม่นี้เท่านั้น แต่ถือว่าเป็นกฎหมายที่ใช้ตลอดไปทั้งในวันปกติธรรมดา และนักขัตฤกษ์ เพราะถือว่ารัฐบาลดำเนินการทุกอย่างที่จะทำให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยได้รับการตอบรับจากทุกภาคส่วนว่าเป็นสิ่งที่ดี รถที่ยึดมา ใบขับขี่ที่ขอยึดไว้ก่อน การดำเนินคดี อบรม ต่างๆเป็นมาตรการที่พยายามลดอุบัติเหตุทั้งสิ้น ดังนั้นม.44 นี้ใช้ตลอดไป ดังนั้นทุกคนอาจโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ตรวจจับได้หากประพฤติผิดกฎและหลักเกณฑ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามหากดูสถิติรถที่เกิดอุบัติเหตุย้อนไปหลายปีนั้นตัวเลขสูงถึง 500-600 ต่อปี แต่จากปี 55ถึงปัจจุบันลดลงมาเหลือประมาณ 300 กว่าๆ จึงถือว่ามาตรการที่ออกไปนั้นได้ผล ไม่ได้ทำให้เสียกำลังใจ
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าแม้เพียง 1 ชีวิตที่ต้องสูญเสียในการใช้รถใช้ถนนก็ถือว่าเป็นความทุกข์ของเราทุกคน แต่ตัวเลขที่สื่อแสดงออกไปนั้นต้องดูรายละเอียดด้วยเนื่องจากทุกวันนี้ปริมาณรถมีมากกว่าเดิมหลายเท่านัก ดังนั้นที่รักษาระดับได้ขณะนี้ถือว่ากฎเกณฑ์ได้ผล และปีนี้อุบัติเหตุจากการเมาสุราก็ลดลงจาก 30% เหลือ 24% เท่านั้น จากการขับรถเร็วลดจาก 27% เหลือ 17% ดังนั้นต้องดูปัจจัยอื่นด้วย อย่าเพียงแค่เปรียบเทียบตัวเลขเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามอย่างเต็มที่ ขอประชาชนมีสำนึกที่ต้องรักตัวเอง ครอบครัว ประเทศชาติ เพื่อไม่ให้สูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และเศรษฐกิจของประเทศ ที่สำคัญประชาชนต้องมีวินัยในการใช้รถใช้ถนน