นายกฯรับ15ข้อเรียกร้องวันแรงงาน แต่ไม่รับปากทำได้หมด
"พล.อ.ประยุทธ์" ปราศรัยเปิดงานวันแรงงาน 59 รับข้อเรียกร้อง 15 ข้อ แต่ไม่รับปากทำได้หมด ชี้ให้ทีเดียวพร้อมกันไม่ได้ ต้องดูผลกระทบส่วนรวมด้วย
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ปะรำพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2559 ภายใต้คำขวัญวันแรงงานแห่งชาติปี 2559 “แรงงานพัฒนา พาเศรษฐกิจมั่นคง ดำรงชาติ ศาสน์ กษัตริย์” โดยมีพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงานข้าราชการ สภาองค์การลูกจ้าง 17 องค์กร องค์กรรัฐวิสาหกิจ และเครือข่ายแรงงานนอกระบบ ร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า วันนี้ถือว่าโชคดีที่อากาศไม่ร้อนเหมือนปีที่ผ่านมา เพราะก่อนวันแรงงานฝนตกลงมาแสดงว่าทุกอย่างกำลังเริ่มจะดี แต่ทุกอย่างย่อมต้องมีเมฆหมอกฝนฟ้าและพายุ แต่พอสงบแล้วทุกอย่างจะสว่างสดใส ตนเองก็จะได้สบายใจและมีความสุขขึ้นอีกนิดหนึ่ง ส่วนสถานการณ์ปัจจุบันเราต้องเร่งสร้างความรับรู้ว่ารัฐบาลได้ทำได้แล้วบ้าง และอะไรที่ไม่ได้ทำ อะไรที่ยังอยู่ในกระบวนการ ส่วนข้อเรียกร้องทั้ง 15 ข้อที่ทางคณะกรรมการแรงงานเสนอมานั้นจำได้ว่าปีที่แล้วบางข้อก็ขอมา บางอย่างก็ทำไปบ้างแล้ว ซึ่งก็จะมีการพิจารณาต่อไป แรงงานถือเป็นกลไกสำคัญของประเทศ ถือเป็นเครื่องจักรที่มีอยู่หลายส่วนทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย คุณธรรม ซึ่งเครื่องจักรทุกตัวต้องช่วยกันเพื่อเดินหน้าประเทศ
นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนรัฐบาลมีวัตถุประสงค์และวิสัยทัศน์ให้เร็วที่สุด อย่างน้อย 5 ปีข้างหน้าเราจะต้องเป็นประเทศที่มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ทั้งหมดจะหยุดในแผนของสภาพัฒน์ฯ แผนฉบับที่ 12-15 ทุก 5 ปีเราจะต้องมีการพัฒนา ซึ่งแรงงานก็อยู่ในส่วนนี้ด้วย ขอร้องว่าเราอย่ามองวันนี้หรือพรุ่งนี้เท่านั้น เราต้องมองไปถึง 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยต้องพัฒนาไปเป็นประเทศ 4.0 ในส่วนของภาคแรงงานรัฐบาลยืนยันว่าจะดูแลทุกภาคส่วนทั้งแรงงานในระบบและแรงงานอิสระ ซึ่งดีใจที่วันนี้ผู้ประกอบอาชีพมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็มาอยู่ในนี้ด้วย ทุกคนจะได้รับประโยชน์จากกองทุนต่างๆ ที่มีอยู่ จะดูแลคุ้มครองคุณภาพของแรงงาน สิ่งสำคัญนอกจากแรงงานในประเทศแล้วก็ต้องมองไปถึงแรงงานนอกประเทศด้วยเพื่อที่เราจะได้ส่งเสริมแรงงานต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการเพราะอีกไม่กี่ปีเศรษฐกิจโลกจะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โลกยุคใหม่ มีการใช้คอมพิวเตอร์ หุ่นยนต์มากขึ้น การใช้แรงงานไม่มีฝีมือจะลดลง เราต้องเตรียมความพร้อม ขณะเดียวกันแม้เราจะมีแรงงานเป็นล้านคนแต่ความต้องการก็ยังไม่เพียงพอกับบางกิจการ ดังนั้นทุกคนจะต้องเพิ่มพูนความรู้ของตัวเอง วันข้างหน้าจะได้สามารถเลือกงานหรือโรงงานได้
“15 ข้อที่ขอมานั้น พูดกันมาสองปีแล้ว แต่จะให้กลับจากหน้ามือเป็นหลังมือสักทีเดียวแล้วให้เกิดคงไม่ได้ เพราะมันพันกันหลายอย่าง ก็ต้องมาดูว่าจะส่งผลกระทบกับคนส่วนใหญ่หรือไม่ขอให้เข้าใจด้วย ผมไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ รัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ประเทศมีความเข้มแข็ง ประชาชนมีรายได้ ขอให้แรงงานทุกคนพัฒนาตัวเองให้มีความพร้อมกับโรงงานที่เรียกว่าอุตสาหกรรมใหม่ ผมไม่ต้องการให้มีการลดคนงาน หรือเงินเดือนเหมือนที่ต่างประเทศทำกัน และไม่ต้องห่วงรัฐบาลเองได้สนับสนุนและเอื้ออำนวยให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาลงทุน ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มงาน อย่างปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู)ที่ผ่านมามีปัญหามาก เราจำเป็นต้องแก้ทั้งระบบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย กฎหมายที่เกี่ยวกับไอยูยูกว่า 90 ฉบับต้องออกใหม่ทั้งหมด ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาทำอะไรกันอยู่ จนต้องมาเดือดร้อนทุกวันนี้ ถ้าทำให้ทุกอย่างดี มีมาตรฐานรวมทั้งกฎหมายที่สร้างความชอบธรรมก็จะไม่เกิดปัญหาหรือผลกระทบต่างๆ” นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า 30 ข้อที่รัฐบาลทำอยู่คือการสนับสนุนให้ทุกคนมีงานและมีรายได้ ไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกระบบ รวมถึงอาชีพอิสระ ทุกคนต้องมีค่าตอบแทนที่ดีและเป็นทำสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์มา 70 ปี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีพระชนมายุปีนี้ 84 พรรษา ตนไม่ได้บอกหวย แต่อยากจะบอกว่าทั้งสองพระองค์ทรงทำงานหนัก เราทุกคนจึงควรทำงานถวาย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้แรงงานต้องมีหลักประกันความมั่นคง มีการจัดรัฐสวัสดิการเหมาะสม สร้างความเข้มแข็งในด้านทักษะแรงงาน วันหน้าค่าแรงจะต้องมากกว่า 400 – 500 บาท แต่เราต้องปรับปรุงตัวเองด้วย โดยในปี 2560 จะเกิดโรงงานใหม่ๆ 5 – 6 พันแห่ง เนื่องจากโรงงานเก่าๆ ต้องปิดตัว โรงงานใหม่เป็นโรงงานที่มีเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น ขณะนี้เรากำลังมีการพัฒนาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะมีการสร้างรถไฟเยอะแยะ ซึ่งต้องมีการจ้างแรงงาน หลังจากเราหยุดพัฒนาไประยะหนึ่ง วันนี้ต้องมาเร่งให้เร็วขึ้น สิ่งที่รัฐบาลและคสช.ทำวันนี้เหมือนหัวขบวนที่คอยขับเคลื่อนประเทศ เพราะหยุดนิ่งมานาน แต่เวลานี้แรงแทบไม่พอ ต้องช่วยกันเข็น เพราะตนเหมือนคนขับหัวรถจักรที่แรงน้อยเต็มทีมาเดินหน้า ถ้าแรงส่งไม่พอทุกคนต้องช่วยกันเข็น อย่าเป็นรถที่สวนขบวนมาก็แล้วกัน แล้วไม่ใช่ปล่อยให้หัวรถจักรไปแค่หัวเดียวแล้วขบวนไม่ตามมา ปล่อยให้พุ่งชน ควรไปกันทั้งขบวนอย่างมั่นคง ซึ่งต้องแก้ปัญหาเป็นชั้นๆ จากอดีตที่ไม่ได้มองดูเลยว่าจะเอาเงินมาจากไหน ท่ามกลางการส่งออกที่ลดลงจากปัญหาเรื่องของคุณภาพ นวัตกรรมที่ไม่เพียงพอ อย่ามองว่าประเทศเราเป็นประเทศเล็ก แต่เป็นประเทศใหญ่ และแรงงานบ้านเรามีความขยัน ดังนั้น เราต้องพัฒนาตัวเองเพื่อให้มีรายได้ที่เพียงพอ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่างเรื่องของการศึกษารัฐบาลก็พยายามปฏิรูปในเรื่องของ 5 แท่ง ใช้มาตรา 44 เข้าไปแก้ปัญหา ไม่เหมือนในอดีตที่งบประมาณแตกออกไปหมดจนรวมกันไม่ได้ ตนไม่อยากพูดปัญหาเก่าๆ แต่ต้องพูดเพื่อเล่าถึงความเป็นมาของปัญหา ดังนั้น แรงงานต้องเรียนรู้เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของแรงงาน ผู้ประกอบการเองต้องมีส่วนช่วยให้แรงงานของตัวเองได้ศึกษาต่อ เพราะวันนี้โลกแข่งขันกันสูง และเราเองอยากให้ประเทศชาติสงบเรียบร้อยอยู่แบบนี้เพื่อเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตย ไม่ใช่มาทะเลาะกัน ขอแค่ 5 ปี ให้มั่นใจว่าสิ่งที่ได้ทำมาไม่ได้ล้มเหลว และที่ทำไม่ได้หวังแม้แต่คะแนนเสียงเดียว เพียงแต่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกคน ยืนยันรัฐบาลดูแลทุกภาคส่วนเท่าเทียมกัน ส่วน 15 ข้อเรียกร้องของแรงงานนั้นตนรับไปดู แต่ไม่รับปากว่าจะทำได้ทั้งหมด ทั้งนี้ ตนกำลังขอความร่วมมือกับมิตรประเทศในเรื่องของการจ้างแรงงานที่ขณะนี้พบว่าต่างประเทศมีความต้องการแม่บ้านที่มีทักษะในการดูแลเด็กและผู้สูงอายุ รวมถึงแม่ครัวร้านอาหารไทยจำนวนมาก ซึ่งแรงงานเหล่านี้ได้เงินมหาศาล เดี๋ยวรัฐบาลจะเปิดช่องทางหาคนที่มีอาชีพเหล่านี้ไปทำงานต่างประเทศ
นายกฯ กล่าวว่า อยากให้ดูการสาธิตฝีมือแรงงานในโทรทัศน์ที่มีทุกช่อง นอกจากดูละคร ตนไม่ได้รังเกียจละคร สมัยก็ดู แต่เดียวนี้ไม่ดูเพราะมาเจอละครชีวิตจริง ตนเปิดดูทีวีไล่ไปหลายช่องเจออะไรก็จำมา อยากให้คิดแบบนี้ แรงงานคนไหนยังไม่ได้เข้าสู่ระบบประกันสังคม ให้เข้ามา วันหน้าต้องสนับสนุนภาคการรวมกลุ่มการผลิตให้ได้ สหพันธ์แรงงานก็ต้องไปดูผู้ที่ประกอบการอยู่ที่บ้านด้วย ประเทศไทยมีคนว่างงานไม่ถึงร้อยละ 1 ส่วนที่ไม่ว่างงานเพราะขยันต่อสู้ รัฐบาลต้องเสริมตรงนี้ ป้องกันเรื่องการหลอกลวงผิดกฎหมาย โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ หรือที่ยังไม่จดทะเบียนมักจะถูกรังแก รวมถึงต้องมีการปรับปรุงการพิสูจน์สัญชาติ เพื่อให้ผู้ประกอบการมั่นใจ
นายกฯ กล่าวว่าปัญหาการค้ามนุษย์ รัฐบาลนี้ไม่มีการปล่อยปะละเลยเหมือนเมื่อก่อน ใครเห็นสิ่งที่เป็นปัญหาหรือเดือดร้อนให้แจ้งมา ใครเรียกรับผลประโยชน์ หรือทุจริตจะตรวจสอบทันที สถานประกอบการที่ไม่ผ่านการตรวจแรงงานใน 5 ปี ต้องตรวจทั้งหมด ถ้าพบไม่ถูกต้องจะเล่นงานผู้ประกอบการ แต่ถ้าดีอยู่แล้วก็อย่าไปประท้วง ผู้ลงทุนที่มาประเทศไทย เขาขออย่างเดียวให้ประเทศไทยสงบสุขแบบที่ตนเข้ามา โดยสิ่งที่เรากำลังดำเนินการในการปฏิรูปทุกระยะ เขาเห็นด้วยทุกประการ วันนี้ไม่ได้กลัวตนที่ว่าตนเข้ามาแบบนี้เขาไม่ขายของ เขาขายทุกคนอยู่ที่ว่าจะขายอย่างไรเท่านั้น เราต้องใช้เวลาเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์
“วันนี้ต้องบริหารทั้งระบบทั้งรัฐ และผู้ประกอบการ และแรงงานทุกประเภท เพิ่มความร่วมมือกับต่างประเทศในยุทธศาสตร์ด้านการต่างประเทศ อันไหนขาดก็เอามาช่วย ส่วนอันไหนที่ดีอยู่แล้วให้ยกเป็นหัวหน้างาน แค่นี้เราก็รวยกันเละแล้ว ประเทศแข็งแรง ที่ผ่านมามีการทำรายจ่ายแบบเกินดุล วันนี้สิทธิในการรักษาฟรีทั้งคนรวย คนจนเท่ากันหมด เป็นสิทธิที่ไม่ว่ากัน ส่วนการศึกษาเรียนฟรี บางคนขอให้ถึงระดับอุดมศึกษา จริงแล้วตนเองอยากส่งให้ถึงระดับต่างประเทศเลยถ้ามีเงิน ซึ่งต้องปรับแก้ในห้วงระยะเวลานี้ไปก่อน แล้วจะต้องดีขึ้น นี่คือสิ่งที่อดทนทำทุกวันนี้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับแรงงานที่ได้รับสารพิษ ไปตรวจมาแล้วก็ฟังหมอบ้าง ส่วนโรงงานที่ได้มาตรฐานแล้วไม่อยากให้เกิด แล้วจะไปทำงานที่ไหนตนก็นึกไม่ออก ต้องทำให้มีคุณภาพ มีมาตรการป้องกันให้ดีขึ้น สิ่งที่มีปัญหาวันนี้คือโครงการลงทุนของรัฐ 4 แสนกว่าล้าน ทำไม่ได้ เพราะมีแรงต้านจากหลายฝ่าย ถ้าปีหน้าทำไม่ได้เงินก็จะค้างท่อ และแรงงานก็ไม่มีงานทำ อยากให้แรงงานทุกคนเป็นเหมือนสมาชิกขององค์กร เพื่อสร้างจริยธรรม ถ้าเราเรียกร้องเกินไปบริษัทก็ต้องปิดตัว เดือดร้อนไปหมด แต่ถ้ามีสิ่งใดไม่เป็นไปตามกฎหมายให้บอกเราจะแก้ให้ ขณะที่การคุ้มครองลูกจ้างผู้ประกันตน เรากำลังทำอยู่ทั้งหมด รวมถึงครอบคลุมแรงงานที่ทำงานบ้าน วันนี้ก็มีค่ารักษาฟันเพิ่มขึ้น ขณะนี้อยู่ในกระบวนการ นี่คือสิ่งที่เพิ่มมาจากค่าแรง 300 บาทที่เราไม่รู้ตัว
ทั้งนี้ระหว่างที่นายกฯกำลังพูดอยู่บนเวทีได้มีแรงงานชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา นายกฯได้หยุดฟังด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเพราะคิดว่าจะมาตะโกนประท้วง จนทำให้นายทหารรักษาความปลอดภัยที่อยู่บนเวทีต้องเข้ามายืนประชิดนายกฯ แต่เมื่อฟังข้อความแล้วรู้ว่าเป็นกองเชียร์ที่มาสนับสนุนนายกฯ เลยยิ้มอารมณ์ดี จากนั้นระหว่างที่พูดมีตัวแทนสหภาพแรงงานคนหนึ่งเป็นลมเนื่องจากสภาพอากาศร้อนอบอ้าว นายกฯจึงหยุดพูดแล้วหันหลังกลับไปกล่าวด้วยว่า “สงสัยร่างกายไม่แข็งแรง ต้องไปวิ่งรอบสนามหลวงสักรอบสองรอบก่อน” ก่อนจะอนุญาตให้ลงไปพักด้านล่างเวที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเช้าที่ผ่านมาพล.อ.ศิริชัยเป็นประธานประกอบพิธีสงฆ์เนื่องในวันแรงงานที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า จากนั้นได้เคลื่อนขบวนเทดพระเกียรติฯ นำโดยรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ข้าราชการ และผู้ใช้แรงงานไปตามถนนราชดำเนินสู่ท้องสนามหลวง สำหรับข้อเรียกร้องสภาองค์การลูกจ้างสภาลูกจ้างแห่งชาติ (สสช.) ในฐานะประธานจัดงานวันแรงงานชาติปี 2559 ยื่นข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติต่อนายกฯจำนวน 15 ข้อ ได้แก่ 1.ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง 2.ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราเท่ากันทั่วประเทศและควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค 3.ให้รัฐบาลปฏิรูปสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และกองทุนเงินทดแทนโดยแก้ไขกฎกระทรวงเกี่ยวกับบัตรรับรองสิทธิให้ใช้ได้ทุกโรงพยาบาล ประกาศให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ขาดจากการเป็นผู้ประกันตนเข้ามาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ได้ใหม่ ตามระยะเวลาที่ สปส.กำหนด และเพิ่มสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนมาตรา 40 ยกระดับการจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วย อุบัติเหตุฉุกเฉินตามความเป็นจริง รวมถึงเพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้จากอุบัติเหตุการทำงานจากเดิมร้อยละ 60 เพิ่มเป็นร้อยละ 100 ของค่าจ้าง
4.ให้รัฐบาลเร่งนำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ… และร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.... ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมของผู้ใช้แรงงานเข้าสู่สภานิติบัญญัติ (สนช.) 5.ให้รัฐบาลตรากฎหมายตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงให้แก่ลูกจ้างในกรณีที่สถานประกอบกิจการปิดกิจการเลิกจ้างไม่จ่ายค่าชดเชย 6.ให้รัฐบาลยกเว้นเก็บภาษีเงินได้กรณีค่าชดเชยของลูกจ้างภาคเอกชนและเงินตอบแทนความชอบของพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงเงินได้อื่นๆ ซึ่งเป็นงวดสุดท้ายของลูกจ้าง 7.ให้รัฐบาลตราพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) การจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบเพื่อเป็นกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างตามบทบัญญัติว่าด้วยกองทุนเงินสงเคราะห์ในหมวด 13 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 8.ให้รัฐบาลสนับสนุนและผลักดันกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ และยุติการแปรรูปหรือแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจให้เป็นบริษัทเอกชน 9.ให้รัฐบาลยกระดับสำนักความปลอดภัยแรงงานเป็นกรมความปลอดภัยแรงงาน
10.ให้รัฐบาลจัดสรรงบสนับสนุนพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย 11.ให้รัฐบาลบังคับให้สถานประกอบกิจการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 11/1 กรณีแรงงานรับเหมาช่วง (ซับคอนแทรกต์) ให้ได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับลูกจ้างประจำโดยเคร่งครัด 12.ให้กระทรวงแรงงานเร่งปรับปรุงกฎหมายเพื่อคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบและให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของแรงงานนอกระบบ รวมทั้งจัดตั้งกรมคุ้มครองส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ 13.ให้กระทรวงแรงงานจัดงบสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปฐมวัยที่ดูแลลูกหลานของผู้ใช้แรงงานที่จัดตั้งขึ้นมาแล้วอย่างต่อเนื่อง 14.รัฐบาลต้องจัดให้มีระบบบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้าเพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่ครอบคลุมประชากรทุกคนและเพียงพอต่อการดำรงชีวิต ไม่ต่ำกว่าเส้นความยากจนหรือสัดส่วนรายได้เฉลี่ยของประเทศไทย และ 15.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องวันแรงงานชาติปี 2559