ไฟเขียวคลังกู้เงินเอดีบีสร้างทางหลวงสายอีสาน

ไฟเขียวคลังกู้เงินเอดีบีสร้างทางหลวงสายอีสาน

"ครม." ไฟเขียวคลังกู้เงิน "ธนาคารพัฒนาเอเชีย" 99.40 ล้านดอลลาร์ สร้างทางหลวงสายอีสาน มูลค่าโครงการ 6,808 ล้านบาท

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบร่างสัญญาเงินกู้โครงการก่อสร้างทางสายหลัก 4 ช่องทางจราจร ระยะที่ 2 ทางหลวงหมายเลข 22 ช่วงอำเภอหนองหาน-อำเภอพังโคน ทางหลวงหมายเลข 22 ช่วงสกลนคร-นครพนม และทางหลวงหมายเลข 23 ช่วงร้อยเอ็ด-ยโสธร โดยกรอบวงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 6,808 ล้านบาท แบ่งเป็นให้กระทรวงการคลังดำเนินการกู้เงินในนามรัฐบาลจากธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี วงเงิน 99.40 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ในการกู้เงินจากเอดีบี ครั้งนี้ กระทรวงการคลังได้รายงานว่า ต้องการกูเพียงครั้งเดียวแล้วดำเนินการบริหารความเสี่ยง เนื่องจากมองว่า สถานการณ์โลกยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยน จึงมองว่า การกู้เพียงครั้งเดียวนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนที่จำเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ และการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์กับผู้กู้มากกว่าการดำเนินการทยอยกู้แบบที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังได้บรรจุแผนการกู้เงินสำหรับโครงการดังกล่าวไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะเรียบร้อยแล้วในปีงบประมาณ 2561 วงเงิน 3,404 ล้านบาท

"สำหรับการกู้ครั้งนี้ ภายใต้กรอบวงเงิน 6,808 ล้านบาท โดยใช้เงินกู้และเงินงบประมาณอัตราส่วน 50:50 ซึ่งครั้งนี้กระทรวงการคลังได้ขอกู้เต็มวงเงิน เพื่อต้องการปิดความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน เพราะสถานการณ์โลกมีความไม่แน่นอน ขณะที่อายุการกู้เงินกำหนด 13 ปี ระยะปลอดดอกเบี้ย 3 ปี สำหรับอัตราดอกเบี้ยคิด ที่ 6MLIBOR บวก Spread-Rebate ต่อปี ตามประกาศของเอดีบี ณ 11 กรกฎาคม 2560 คิดส่วนต่าง หรือ Spread M 0.5% ต่อปี ลดส่วนลดสำหรับประเทศสมาชิกทั้งนี้มีส่วนลดสำหรับประเทศสมาชิก หรือ Rebate 0.05% ต่อปี ด้านค่าธรรมเนียมผูกพันการกู้ คิด 0.15% ต่อปี โดยคำนวณจากยอดเงินกู้ที่ยังไม่เบิกจ่าย และเริ่มคำนวณภายหลังจากวันที่ลงนามในสัญญาเงินกู้แล้ว 60 วัน" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว