'สรรเสริญ' ป้องนาย ซัดคู่กรณีใช้คำก้าวร้าว 'นายกฯ' ก่อน
"พล.ต.สรรเสริญ" ป้องนายไม่ได้ดุผู้ประกอบการประมง แค่อธิบาย ซัดคู่กรณีใช้คำก้าวร้าวรุนแรง ออกไปทางการเมือง
ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จ.สงขลา พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุม คณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) ถึงกรณีมีผู้ประกอบการประมงยื่นเรื่องร้องเรียนต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่จ.ปัตตานี แต่กลับถูกนายกฯ กล่าวตอบโต้ด้วยเสียงดังว่า กรณีดังกล่าวผู้ประกอบการประมงยื่นหนังสือแล้วถูกนายกฯดุเสียงดังทำให้เกิดความไม่สบายใจ ตนในฐานะที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย พบว่าบทสนธนาของผู้ประกอบการเรือประมง ในความเป็นจริง คือใช้คำที่ก้าวร้าวรุนแรง ทั้งๆ ที่มายื่นขอให้รัฐบาลช่วยเหลือโดยที่ไม่ฟังเหตุและผลมาก่อน เช่น นายกฯ รู้ไหมว่าพวกเราเดือดร้อนแสนสาหัสทำไมจึงให้ต่างชาติมาบังคับรัฐบาล ไม่ดูแลชาวประมง ขอให้สนใจชาวประมงไทยอย่าได้นำกฎกติกาของสหภาพยุโรปเข้ามา ซึ่งนายกฯ พยายามชี้แจง แต่ด้วยถือไมโครโฟนอยู่จึงทำให้เสียงดังจึงดูเหมือนนายกฯ ดุกลับทั้งๆ ที่นายกฯกำลังอธิบาย
"นายกฯพยายามอธิบายว่ากติกาของอียูเป็นสากล ถ้าเราไม่ทำ วันหนึ่งชาวประมงทั้งประเทศที่จับปลามาได้จะไม่สามารถขายให้ใครได้เลยนอกประเทศของเรา แต่ต้องบริโภคภายในประเทศให้หมด ผู้คนเขาก็จะบอยคอตเรา จึงจำเป็นต้องทำให้ผู้จับสัตว์น้ำกับสัตว์น้ำที่มีอยู่มีความสมดุลกันด้วยวิธีการต่างๆ เช่น เรือประมงที่มีอุปกรณ์จับปลาตาถี่เกินไปไปจับสัตว์น้ำทั้งที่ยังไม่วางไข่เสียแล้ว หรือที่ผู้ประกอบการบอกว่า วันนี้ให้จับปลาได้ 220 กว่าวัน ขอให้รัฐบาลกำหนดให้สามารถจับปลาปีหนึ่ง 360 วัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะต้องทำตามหลักการสากลของโลกที่จะลดปริมาณการจับปลาให้เหมาะสมจึงอยากทำความเข้าใจว่า นายกฯ ไม่ได้ดุ แต่ต้นเหตุเกิดจากกริยาคำพูดที่ผู้ประกอบการใช้วาจาค่อนข้างรุนแรงและเหมือนออกแนวการเมืองเล็กๆ คือจะบอกว่าอย่าไปสนใจกฎสากล แล้วให้ดูคนไทยเป็นหลักซึ่งมันเป็นไปไม่ได้"พล.ต.สรรเสริญ กล่าว