ประกาศ ก.คลังกู้เงิน2.4หมื่นล. ปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลัง
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ กระทรวงการคลังกู้เงิน 2.4หมื่นล้าน ใช้ปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลัง
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุกเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการกู้เงินระยะสั้นโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ครั้งที่ 1 เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา 16 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะพ.ศ. 2548 และกฎกระทรวงกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขายการโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. 2550 กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 7 มาตรา 14 มาตรา 20 (3) และมาตรา 24 (1) แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ได้ดาเนินการกู้เงินเพื่อนามาปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลัง โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN)โดยมีสาระสาคัญและเงื่อนไขของการกู้เงิน ดังนี้
1. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินระยะสั้น โดยวิธีการออก PN เพื่อนามาใช้ ในการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนด ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 วันที่ 25 กรกฎาคม 2561 และวันที่ 1 สิงหาคม 2561 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ รายละเอียดการกู้ เงินวงเงินที่ 1 เงินกู้ 10,580 ล้านบาท วงเงินที่ 2 เงินกู้ 9,383 ล้านบาท วงเงินที่ 3 เงินกู้ 4,825 ล้านบาท(คลิกอ่านรายละเอียดตารางเงินกู้)
2. การชำระดอกเบี้ย กระทรวงการคลังจะชำระพร้อมต้นเงินกู้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินในวันที่ไถ่ถอน หากวันครบกำหนดชาระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป โดยให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชาระหนี้
3. การชำระคืนต้นเงินกู้ กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนต้นเงินกู้ก่อนครบกำหนดได้ ทั้งจำนวนหรือบางส่วนก็ได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะแจ้งให้สถาบันการเงินทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันทำการ โดยกระทรวงการคลังจะชำระดอกเบี้ยคงค้างของต้นเงินกู้ที่ค้างชำระ พร้อมกับการชำระคืนต้นเงินกู้ก่อนกาหนดนั้น ทั้งนี้ ดอกเบี้ยคงค้างให้คานวณนับตั้งแต่วันที่กระทรวงการคลังชำระคืนดอกเบี้ยครั้งล่าสุด
จนถึงวันก่อนวันที่กระทรวงการคลังชำระคืนต้นเงินกู้ก่อนกำหนด โดยหากวันครบ กาหนดชำระคืนต้นเงินกู้ตรงกับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เลื่อนไปชำระคืน ในวันทำการถัดไป การคำนวณดอกเบี้ยให้ถือว่าหนึ่งปีมี 365 วัน นับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
4. ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ ณ วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ที่มา : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/222/T1.PDF