กกต.สั่งเร่งสอบพปชร. หวั่นช้ากลายเป็นประเด็นทางการเมือง
“จรุงวิทย์” เผยที่ประชุมกกต. สั่งเร่งสอบคลิปแจกบัตรคนจนจูงใจสมัครสมาชิก พปชร.-โต๊ะจีนระดมทุน คาดรู้ผล 30-60 วัน หวั่นล่าช้าจะถูกหยิบประเด็นทางการเมือง ปัดตอบคำถามคุณสมบัติหน.พรรค “อุตตม” อ้างยังไม่เห็นเรื่อง
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.61 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีการเผยแพร่คลิปที่อ้างว่ามีการแจกบัตรคนจนแต่ถูกบังคับให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งเหตุเกิดในพื้นที่จ.ยโสธร ว่า กรณีเหตุต่างๆทั้งที่เกิดขึ้นก่อนหรือหลังการคลายล็อค กกต.ก็จะเก็บเป็นข้อมูลไว้ เช่นเดียวกับกรณีมีการเผยแพร่คลิปจูงใจดังกล่าว ซึ่งให้ด้านสืบสวนสอบสวนแจ้งไปยังหน่วยข่าวทางจังหวัดเพื่อตรวจสอบ. ซึ่งโดยเฉลี่ยจะใช้เวลา 30-60 วันในการสรุปข้อเท็จจริง ก็จะทราบว่าเป็นความผิดตามข้อกฎหมายใด
นอกจากนี้ในช่วงเช้าที่ผ่านมาทางสำนักงานได้รายงานข้อเท็จจริงเบื้องต้นต่อที่ประชุม กกต.รวมถึงกรณีการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพปชร. ซึ่งที่ประชุมได้ซักถามถึงขั้นตอนการทำงาน พร้อมให้แนวปฏิบัติว่าในกรณีที่จะมีการจัดงานหรือมีการกระทำที่เสี่ยงอาจเกิดการกระทำผิดกฎหมาย หากสำนักงานทราบล่วงหน้าก็ควรที่จะเข้าไปติดตามตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ว่าพอเป็นข่าวก็เข้าไปแก้ไข. และการให้ข่าวล่าช้าอาจถูกหยิบไปเป็นประเด็นการเมือง อย่างไรก็ตาม หากสำนักงานฯตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ก็ต้องตรวจสอบพยานหลักฐาน ถ้าพบว่ามีมูลก็ต้องเสนอให้กกต.ตั้งคณะกรรมการไต่สวน
“การตรวจสอบของกกต.จะเริ่มจากการนำเสนอข่าวของสื่อ ครั้งที่ผ่านมา ก็ได้เชิญให้สื่อมาให้ข้อมูล เป็นการค่อยๆก้าวเข้าไปของเจ้าพนักงาน เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงว่าได้ทราบข้อมูลเหล่านี้มาจากที่ไหน เพื่อให้สามารถดำเนินการสืบสวนต่อไปได้ อย่างเรื่องการจัดโต๊ะจีนระดมทุนที่มีการนำเสนอรูปผังที่นั่งในงาน เราก็ต้องเชิญสื่อที่นำเสนอข้อมูลดังกล่าวมาให้ข้อมูลว่าผังดังกล่าวได้มาจากไหน หรือได้มาจากใคร” พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว
เมื่อถามว่า หากพบว่าข้าราชการบริจาคซื้อโต๊ะจีนแล้วต่อมาพรรคพปชร.คืนเงินให้ จะถือเป็นความผิดหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ถ้าเข้าข้อกฎหมายก็ต้องดำเนินการ การคืนเงินผิดหรือไม่ต้องไปดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพราะเรื่องนี้อาจเป็นความผิดทางอาญา ซึ่งต้องพิสูจน์เจตนา หากพบว่ามีมูลความผิดทางอาญาก็จะมีวิธีดำเนินการหลายวิธี เช่น ส่งพนักงานสอบสวน ส่งอัยการ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ร้องให้ตรวจสอบนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพปชร. ที่สมัครเป็นสมาชิกหลังจากที่ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นเรื่อง แต่เรื่องดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงคงตรวจสอบไม่ยาก แต่โดยกฎหมายแล้วหากมีชื่อเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแล้ว ความเป็นสมาชิกจะนับย้อนไปถึงวันที่มายื่นขอยื่นจัดตั้งพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง