'บิ๊กโจ๊ก' รวบหนุ่มนักตุ๋นไซเบอร์ หลอกขายของบนเว็บไซด์

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รองผบช.สตม. พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รองผบช.ทท., พล.ต.ต พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม. 3 พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท. 1 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.ปัญญา กุลไทย รอง ผกก.สส.บก.น.4 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายฐิติพงษ์ พรหมเจริญ (ปาล์ม หรือตาม) อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 174/2562 ลงวันที่ 31 ม.ค.2562 ในฐานความผิด“ข้อหากระทำการโดยทุจริต หรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม” ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจับกุมได้บริเวณสถานีบริการน้ำมัน ย่านถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 2เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 9 เล่ม, บัตรเอทีเอ็ม 6 ใบ และกล่องพัสดุ จำนวน 4 กล่อง

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้แจ้งจากผู้เสียหาย และบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ว่าถูกคนร้าย หลอกขายสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ต เช่น โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์แต่งรถ เหรียญสะสมสมัย รัชกาลที่ 9 แผงโซล่าเซล โดยใช้ช่องทางเฟชบุ๊ก และเว็บไซต์ขายดีดอทคอม และแอพลิเคชั่นไลน์ เป็นต้น โดยคนร้ายจะใช้วิธีการหลอกลวงให้ผู้เสียหายซื้อสินค้า โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร หรือ ทาง True Money Wallet ที่คนร้ายส่งให้แล้ว จากนั้นคนร้ายจะส่งหลักฐานการส่งสินค้า เช่น ภาพถ่ายสำเนาใบส่งของ, ภาพถ่ายรถขณะมารับสินค้า หรือ รหัสการติดตามพัสดุ (Tracking No.)ปลอมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ในกรณีที่ผู้เสียหายต้องการติดตามพัสดุ คนร้ายจ้ะวิธีปลอมคิวอาร์โค๊ด QR Code เพื่อสร้างบัญชีในการติดตามพัสดุทำให้ผู้เสียหายเชื่อมั่นว่าได้มีการส่งสินค้าให้จริง แต่ต่อมาเมื่อถึงกำหนดเวลารับของผู้เสียหายไม่ได้รับพัสดุตามกำหนดนัด และได้ทวงถามผ่านทาง Call Center (ปลอม) ก็มีการสนทนาโต้ตอบเพื่อถ่วงเวลา และไม่สามารถติดต่อได้ในภายหลัง ผู้เสียหายจึงทำการตรวจสอบกับบริษัทจริงจึงทราบว่าได้ถูกคนร้ายหลอกลวงอย่างแนบเนียน

สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นบุคคลที่ลงมือก่อเหตุหลอกลวงขายของ สินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ตจริง โดยหลอกลวงขายของสินค้าประเภทต่างๆ ผ่านเฟสและตั้งชื่อร้านแตกต่างกันออกไป เมื่อมีคนหลงเชื่อจำนวนมากจะปิดเฟสหนีแล้วเปิดในชื่ออื่นอีก ทำมาแล้วประมาณ 1 ปี ได้เงินไปกว่า 5 แสนบาท ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่าปี2555 เคยถูกตำรวจ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จับกุมขณะบวชเป็นพระ หลังขโมยทองของพระในวัดเดียวกันไปขายเพื่อนำเงินไปให้สีการักษาสิวใบหน้า รับโทษจำคุก 2 ปี 3 เดือน ส่วนปัจจุบันหลบหนีการประกันตัวชั้นศาลจังหวัดตลิ่งชั่น เลขที่ 693/2561 ลงวันที่ 12 พ.ย. 61 ข้อหาฉ้อโกง เมื่อพ้นโทษออกมาไม่ได้ประกอบอาชีพใดเป็นหลักแหล่ง จึงเลือกก่อเหตุหลอกลางขายสินค้าทางอินเตอร์เนต เพราะผู้ต้องหามีความสามารถเกี่ยวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี เนื่องจากชอบเล่มเกมส์ออนไลน์ตามร้านบริการอินเตอร์เน็ตอยูเป็นประจำ สาเหตุที่ก่อเหตุวิธีการนี้สามารถหาเงินได้ง่าย ยากต่อการถูกจับกุม ส่วนบัญชีที่ใช้ในการรับเงินโอนจากผู้เสียหายใช้ชื่อตนเองและบางครั้งหยิบบัญชีเพื่อน แฟนสาว และแม่ หลังจากนี้จะทำการสอบสวนอย่างละเอียดและตรวจสอบว่ามีบุคคลใดร่วมกระทำการดังกล่าวหรือไม่ หากมีผู้เสียหายรายใดเป็นเหยื่อลักษณะดังกล่าวให้เข้ามาติดต่อได้ที่ศปอส.ตร. หมายเลขโทรศัพท์ 1155