'สนธิรัตน์' นำทีมผู้สมัครขึ้นรถกระบะหาเสียง เตาปูน บางซื่อ
"เลขาฯ พปชร." ระบุ ต้นสัปดาห์หน้ารู้แนว-รูปแบบ วาง "ประยุทธ์" ช่วยหาเสียง ย้ำหลักการสำคัญไม่กินเวลาราชการ ดีเบตหรือไม่ดูความเหมาะสม เชื่อบุคลิกโผงผางไม่กระทบ ถึงเวลาอาจน่ารัก-นุ่มนวลขึ้น
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.62 ที่ศูนย์ประสานงาน เขตดุสิต-บางซื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี 36 "นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" เลขาธิการพรรค และคณะลงพื้นที่ช่วยหาเสียง "น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์" เบอร์ 4 ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางซื่อ-ดุสิต หาเสียง ย่านเตาปูน-บางซ่อน
โดยเมื่อเวลา 15.50 น. ก่อนเริ่มขบวนรถกระบะแห่หาเสียงเส้นเตาปูน-บางซื่ิอ "นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ " เลขาธิการพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึง ความชัดเจนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการขึ้นเวทีปราศรัยฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พปชร. ว่า เรื่องนี้เรากำลังเตรียมการอยู่คาดว่า 1-2 วันนี้ ผู้บริหารของพรรคก็จะหารือจนได้ข้อยุติ ขณะที่ช่วงนี้ก็เป็นเวลาที่นายกรัฐมนตรียังลาอยู่ ก็จะต้องรอการประสานงานเสียก่อน โดยคาดว่าไม่เกินต้นสัปดาห์หน้าทุกอย่างจะได้ข้อยุติ เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาได้มีโอกาสได้คุยกับพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีหรือไม่ "นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า ก็ได้พูดคุยกับทีมงานนายกฯ บ้าง จากนี้ก็ต้องรอความชัดเจนก่อนว่าจะทำอย่างไรให้นายกฯได้มีโอกาสมาช่วยพรรค พปชร. เมื่อถามว่าเป็นจริงตามนั้นหรือไม่ ที่มีการระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะได้ปราศรัยหาเสียงที่จ.นครราชสีมา เป็นแห่งแรก "นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า ขอเป็นหนึ่งในทางเลือกของเราที่กำลังพิจารณาความชัดเจนทั้งหมดคาดว่าจะเกิดขึ้นใน 1-2 วันนี้
เมื่อถามย้ำว่า การจะลงพื้นที่นั้นจะลงเป็นรายจังหวัด หรือมีแนวทางอย่างไร "นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า ต้องดูเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นองค์ประกอบด้วยซึ่งสิ่งที่พรรคให้ความสำคัญ ก็คือจะต้องใช้เวลานอกเวลาราชการ " หน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์เอง ก็มีตารางงานอยู่ดังนั้น เราจะต้องดูความเหมาะสมของเวลาอีกครั้ง ระหว่างตารางงานของ พล.อ.ประยุทธ์ กับแผนหาเสียงของ พรรค พปชร.ควบคู่กันไป" เมื่อถามว่า ตามแผนการหาเสียงของพรรค จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีปราศรัย และลงพื้นที่พบปะประชาชนเท่านั้น หรือให้ขึ้นเวทีดีเบตด้วย "นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า ต้องรอหารือกันก่อน เรื่องที่จะให้นายกฯ มาช่วยอย่างไรนั้น ก็มีได้หลายวิธี ซึ่งพรรคก็จะดูว่าเวลาหาเสียงที่เหลืออยู่ประมาณ 3 สัปดาห์ จะใช้เวลาให้ได้ลงตัวอย่างไรทั้งตามแผนหาเสียงเดิมของพรรค และตารางเวลางานของนายกฯ รวมทั้งความเหมาะสมของการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวด้วย
เมื่อถามว่าหาก นายกฯ สามารถที่จะไปหาเสียงให้กับพรรคได้ แล้วเหตุใดจึงจะไม่ดีเบต "นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า ต้องขอความเป็นธรรมในเรื่องดีเบตก่อนว่า ถ้าพูดกันจริงๆ การดีเบตจะเป็นเรื่องการแสดงความคิดเห็น การแสดงวิสัยทัศน์ แนวทางความคิด ซึ่งวิธีการดีเบตนั้น ก็เป็นหนึ่งในวิธีการที่จะพูดจากัน ส่วนการดีเบตนั้น ก็ขึ้นอยู่ลักษณะของการดีเบต ด้วยว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหลายครั้งการดีเบตก็อาจจะมีโอกาสแสดงความเห็นได้เต็มที่ แต่ก็มีที่ไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ ดังนั้นพรรคก็จะดูว่าทำอย่างไรที่จะให้นายกฯ มีโอกาสให้ประชาชนได้เห็นแนวคิดในเรื่องที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหลังการเลือกตั้ง นายกฯ จะทำงานอย่างไรให้พี่น้องประชาชน และมีวิธีคิดการทำงานอย่างไรที่จะสื่อสารซึ่งเรื่องนี้จะเป็นหัวใจสำคัญ ส่วนเรื่องนโยบายของพรรคนั้น ตัวแทนของพรรคก็ต้องดีเบตอยู่แล้ว โดยเรื่องของนโยบายเราก็จะมีตัวแทนของพรรคเข้าดีเบตในเวทีต่างๆ ตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องขอดูความเหมาะสมก่อนว่าจะเป็นอย่างไร หัวใจสำคัญของเรื่องนี้ คือจะทำอย่างไรที่จะให้นายกฯ ได้มีโอกาสสื่อสารกับประชาชน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจในฐานะที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งจะทำให้ประชาชนตัดสินใจได้ว่าถ้าจะเลือกแล้วตัวท่านมีแนวคิดอย่างไร
เมื่อถามย้ำอีกว่า เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่ผู้สมัคร ส.ส. ดังนั้นจึงมีข้อจำกัดด้วยหรือไม่ว่าการหาเสียงจะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ส่วนตัว "นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า ตามที่บอกแล้วว่า วิธีการมีได้หลากหลายรูปแบบ โดยรูปแบบเหล่านั้นก็จะต้องอยู่ในหลักการที่ถูกต้องว่าจะทำอะไรได้บ้าง เมื่อถามถึงรูปแบบอื่นๆ ว่าจะเป็นลักษณะของการบันทึกภาพ-เสียง เผยแพร่ หรืออยากจะให้มีการประชันกับแคนดิเดตของพรรคอื่นด้วย "นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า ก็คงมีได้หลากหลายรูปแบบ แต่รูปแบบหลักที่เราจะได้ทำก่อนก็คือการพบปะพี่น้องประชาชน โอกาสได้เปิดใจกับพี่น้องประชาชน เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หากนายกฯ ขึ้นปราศรัยทั่วประเทศ แล้วจะมีการวิจารณ์ถึงการได้เปรียบ-เสียเปรียบ ความไม่เป็นกลางหรือจะทำให้ผิดกฎหมายเลือกตั้งในบางกรณี
"นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งเหล่านั้นคือสิ่งที่เราต้องทำให้ถูกต้องตามหลักการ ดังนั้นก็ยังไม่ได้กังวลใจในสิ่งเหล่านั้น เราคิดว่า เราก็ทราบดีว่าท่านนายกฯ จะทำได้มาก-น้อยแค่ไหนอย่างไร และตัวท่านนายกฯเองก็ทราบว่าทำได้มาก-น้อยอย่างไร สิ่งเหล่านี้ถ้าท่านทำ ก็ทำในฐานะว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่พรรคเสนอชื่อ ท่านก็มาทำหน้าที่ของท่านตรงนั้นภายใต้กรอบของหลักการ ที่เราสามารถทำได้ เมื่อถามว่า ด้วยบุคลิกของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นคนพูดตรง เกรงว่าจะเป็นจุดอ่อนของพรรคด้วยหรือไม่ "นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า ก็อย่าเพิ่งไปบอกอย่างนั้น ถึงเวลาท่านอาจจะนิ่มนวลกว่านั้น น่ารักกว่านั้นก็ได้ ก็ขอให้ติดตามดู เมื่อถามถึง ผลโพลการสำรวจความนิยมในตัวพรรค พปชร.อาจจะยังไม่มากพอ แต่ในตัวของแคนดิเดตนายกฯ ที่เสนอได้รับความนิยม มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง "นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า ยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง ยังมีเวลาอีกตั้ง 3 อาทิตย์ ซึ่งกระแสต่างๆ ก็ยังเปลี่ยนแปลงได้อีกเยอะในช่วงเวลา 3 สัปดาห์สุดท้าย ซึ่งพรรคเอง ก็มีวิธีการทำงาน และมั่นใจว่าเมื่อถึงวันเลือกตั้งที่ 24 มี.ค.นั้น กระแสพรรคก็จะเป็นกระแสตามที่เราคาดหวังไว้
ขณะที่พรรคเองเราก็ได้ทำโพลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราก็พอใจและขณะนี้งานของพรรคก็ทำได้ตามแผน ซึ่งหลังจากที่ตนกลับจาก จ.สุรินทร์เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.) ก็พอใจอยู่ โดยทีมงานก็กระจายกันทำงานทั่วประเทศ และพรรคก็ทำโพลตลอดเวลาเช่นกัน เมื่อถามถึง สัปดาห์หน้า ที่กำลังจะมีการวินิจฉัยคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผู้วิจารณ์ว่าคำวินิจฉัยนั้นจะกลายมาเป็นบรรทัดฐานของการจะพิจารณาคดียุบพรรค พปชร.ด้วยหรือไม่ "นายสนธิรัตน์" ก็กล่าวว่า เรื่องยุบพรรคเราคงไม่วิพากษ์วิจารณ์เพราะเป็นเรื่องทางกฎหมายและเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเรื่องของศาลถือว่าเป็นเรื่องที่เราจะไม่วิพากษ์วิจารณ์แล้วแต่ดุลพินิจของศาล ตนไม่มีความเห็นใดๆในเรื่องนี้
เมื่อถามถึงกรณีล่าสุด ที่ผู้ดำเนินรายการของช่อง 9 ถูกปลดจากการดำเนินรายการจัดดีเบตคนรุ่นใหม่ ที่เพิ่งเริ่มไปเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา "นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องของฝ่ายบริหารสถานีโทรทัศน์ ในส่วนของเราก็ไม่ทราบจริงๆ ก็ไม่อยากให้โยงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของรัฐบาล คือน่าจะต้องไปถามผู้บริหารถึงเหตุผลดู เมื่อถามว่า ในหลักควรเปิดกว้างในเรื่องความเห็นจากกลุ่มของนักศึกษาหรือไม่ "นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า ตนก็เคารพในการเปิดกว้างของทุกความคิดเห็น และสื่อก็เป็นอิสระ ซึ่งจุดยืนของพรรค พปชร.ก็เห็นเหมือนกัน และเราก็เปิดกว้างทุกสื่ออยู่แล้ว เราไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ เรายอมรับความเห็นจากทุกสื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการขึ้นรถแห่หาเสียง ที่ได้วิ่งไปตามเส้นทางกรุงเทพ-นนทบุรี แล้ว เมื่อเวลา 17.30 น.เศษ "น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์" ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางซื่อ-ดุสิต เบอร์ 4 ของพรรค ก็ได้พา "นายสนธิรัตน์" และทีมงานหาเสียง มาลองชิมอาหานเมนู หมูกะทะ ร้านจ่าอู หมูกระทะ ย่านสะพานแดง ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านนิยมของประชาชนย่านนี้ โดยช่วงเวลาดังกล่าว ก็เป็นช่วงประชาชนกำลังออกมารับประทานอาหารเย็น ทีมงานผู้สมัครจึงได้พบปะประชาชนไปในตัว โดยเมื่อเวลา 18.00 น. ก่อนจะเดินทางกลับ "นายสนธิรัตน์" เลขาธิการ พรรค พปชร. และ"น.ส.ธณิกานต์" ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางซื่อ-ดุสิต ของพรรค ก็ได้เดินทักทายประชาชนด้วย