"นิกร" เห็นใจ "ทษช." ถูกยุบ ประเมินตัดคู่แข่งไม่ทำให้ ชทพ. ได้เปรียบ เหตุเป็นฐานเสียง ทษช. ตกผลึกแล้ว พร้อมเดินหน้าสู่แบบแร่งสปีด
นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวแสงความเห็นใจกับคณะผู้บริหารและสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ หลังมีคำวินิจฉัยของตุลาศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี ในฐานะเป็นนักการเมืองและเคยผ่านเหตุการณ์ยุบพรรคมาก่อนหน้านี้ ส่วนการแข่งขันทางการเมืองหลังจากนี้ ตนประเมินว่าเมื่อไม่มีผู้สมัคร ส.ส. ที่มาจากพรรคไทยรักษาชาติ พรรคชาติไทยพัฒนาอาจได้เปรียบเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นเกิดกรณีการเปลี่ยนการตัดสินใจของประชาชนที่เป็นฐานเสียงเดิมของผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ มายังพรรคการเมือง เพราะตนเชื่อว่าประชาชนได้ตัดสินใจเป็นที่สุดแล้ว
การแข่งขันทางการเมือง เปรียบเหมือนนักวิ่งที่แข่งวิ่งคนละลู่ โดยผู้สมัครของพรรคต้องเร่งสปีดให้เข้าเส้นชัยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยหลังจากนี้พรรคชาติไทยพัฒนาจะเน้นการลงพื้นที่ เพื่อนำนโยบายไปยังประชาชน อาทิ สัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ภาคตะวันออก สัปดาห์ต่อไปพื้นที่ภาคอีสาน ก่อนจะเปิดปราศรัยใหญ่ ที่ จ.นครปฐม วันที่ 22 มีนาคมนี้ นายนิกร กล่าว
นายนิกร กล่าวด้วยว่าล่าสุดในพื้นที่ที่มีฐานของพรรคมีกระแสตอบรับดี และเชื่อมั่นในทีมผู้บริหารคนรุ่นใหม่ ทั้ง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค และนายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์และนโยบายพรรค ที่บริหารพรรคหลังจากที่สิ้นนายบรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรค ดังนั้นเมื่อช่องว่างดังกล่าวหมดปัญหาและทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าสามารถทำงานได้ ทำให้ได้รับความตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่โค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง พรรคได้ติดตั้งป้ายรณรงค์ในพื้นที่กทม.เป็นภาพเกี่ยวก้อยและมีความข้อความร่วมมือปรองดอง และข้ามความขัดแย้ง โดยไม่ลืมความขัดแย้ง เพื่อสื่อสารไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเมืองให้ร่วมมือทำงาน ไม่ขัดแย้ง เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าการเมืองจะไม่ขัดแย้ง และสามารถเดินหน้าทำนโยบายเพื่อประชาชนตามที่พรรคการเมืองหาเสียงได้
ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ยังกล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นที่ระบุว่าพรรคชาติไทยพัฒนาอาจได้ ส.ส. ประมาณ 8 16 ที่นั่ง ว่า ตนเป็นนักการเมืองไม่กล้าประเมินว่าพรรคจะได้กี่ที่นั่ง สำหรับผลสำรวจที่ปรากฎ ตนเพียงแค่รับฟังแต่ไม่หวั่นใจหรือกังวลใดๆ เนื่องจากภาพรวมของพรรคกระแสตอบรับเพิ่มมากขึ้น และหลังจากนี้ผู้สมัคร ส.ส.เขตใดจะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ขึ้นอยู่กับความเมตตาและการตัดสินใจของประชาน.