'สุดารัตน์' แจงสื่อไม่กังวลยุบพท. ชี้ถูกร้องกกต.แค่เข้าใจผิด
"อภิสิทธิ์" ทักทาย "สุดารัตน์" หาเสียงบึงกุ่ม คุญหญิงฯแจงสื่อไม่หวั่นยุบพรรคเพื่อไทย ชี้ถูกร้องกกต.แค่เข้าใจผิด
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ในฐานะแคดิเดตนายกรัฐมนตรีลำดับที่ 1 ลงพื้นที่หมู่บ้านสหกรณ์เคหะสถาน ช่วยหาเสียงให้กับนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย เขต 14 บึงกุ่ม-คันนายาว (เฉพาะแขวงรามอินทรา) โดยคุณหญิงสุดารัตน์ได้ขึ้นรถแห่กล่าวทักทายประชาชน พ่อค้าแม้ค้า ก่อนจะลงเดินตลาด พร้อมบอกว่าพรรคเพื่อไทยจะตั้งใจทำงานพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ได้ ซึ่งตลอดเวลา 17 ปีที่พรรคเพื่อไทยได้ทำงานรับใช้ประชาชน สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องเศรษฐกิจได้ทุกครั้ง และถึงแม้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจจะแย่มาก แต่มั้นใจว่าพรรคเพื่อไทยทำได้แน่นอน โดยจะทำให้ค้าขายดี ประชาชนกระเป๋าตุง
ที่เป็นไฮไลท์ สำหรับการลงพื้นที่ในช่วงเช้าวันนี้ คือ มีพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางลงพื้นที่นี้เพื่อช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรคด้วย โดยในช่วงแรกต่างพรรคต่างเดินหาเสียงสวนกันไปมา จนช่วงหนึ่งก่อนที่นายอภิสิทธิ์จะเดินทางต่อไปยังสถานที่อื่นก็ได้เดินข้ามถนนเข้าไปทักทายคุณหญิงสุดารัตน์ที่กำลังทักทายประชาชนอยู่อีกฝั่งถนน
จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ ได้เดินทางต่อไปตลาดสัมมากร ซอยรามคำแหง 110 เพื่อช่วยนายวิตต์ ก้องธรนินทร์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 19 สะพานสูง-ประเวศ (ยกเว้นแขวงหนองบอนและแขวงดอกไม้)
ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ไม่กังวลกรณีที่นายอาณัศ ช้างอินทร์ ทนายความชื่อดังของจ.เลย ยื่นหนังสือให้ยุบพรรคเพื่อไทย (พท.) ต่อ กกต. กรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ปราศรัยหาเสียงแล้วอ้างชื่อนางศุกร์ไกล จันทร์สว่าง ว่าเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยบอกว่าก่อนหน้านี้นางศุกร์ไกลได้มีการยื่นความจำนงค์ต้องการสมัครเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งในเอกสารของคณะกรรมการคัดสรรก็มีชื่อเขา แต่ตอนหลังได้มีการไปขอถอดตัวกับทางหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค แต่ไม่มีใครแจ้งตน และตนก็ไม่ทราบว่าบัญชี ส.ส.ที่นำส่ง กกต. ก็ไม่มีรายชื่อ ยืนยันไม่มีเจตนา และเชื่อว่าไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในเรื่องของคะแนน ซึ่งทางพรรคก็พร้อมต่อสู้ตามข้อเท็จจริง เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดอะไร
ส่วนกรณีที่สื่อมีการนำเสนอรายชื่อ ส.ว. ออกมาบางส่วนแล้วนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่าตนก็ไม่ทราบจะจริงหรือไม่ เห็นเพียงจากหนังสือพิมพ์ที่มีแต่นายทหารทั้งนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดเดา เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช. ตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ทำหน้าที่เลือก ส.ว. และที่เลือกมาก็มีแต่บุคคลใกล้ชิด และ ส.ว.นี่ก็จะทำหน้าที่ในการเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีพล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้สมัคร
ดังนั้นคิดว่าสื่อมวลชนและประชาชนคงจะเห็นแล้วว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ และจะเป็นประโยชน์กับส่วนรวมและประชาชนอย่างไรบ้าง มีเพียงเกิดประโยชน์ในการสืบทอดอำนาจของ คสช. เท่านั้น รวมถึงการเลือก ส.ว. ยังใช้เสียงบประมาณจำนวนมาก ซึ่งสื่อมวลชนต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ด้วย ดังนั้นประชาชนต้องห้ามท้อ ต้องออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้มากพอที่จะชนะ ส.ว. 250คนที่ คสช. แต่งตั้งมา
นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่าส่วนตัวไม่กล้าให้ข้อแนะนำกับผู้สมันสนุนพรรคไทยรักษาชาติว่าต่อไปควรสนับสนุนพรรคใด แต่ย้ำว่าการเมืองมีเพียง 2 ขั้วเท่านั้น ให้ประชาชนเลือกตั้งในครั้งนี้ คือ ขั้วที่ต้องการต่อท่ออำนาจ คสช. และอีกขั้วคือขั้วไม่ต้องการต่อท่ออำนาจ คสช. ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งทั่วไป เนื่องจากมีเงื่อนไขของ ส.ว.250 คน และเป็นไปไม่ได้ที่ ส.ว. ทั้ง250คนจะไปเลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองอื่นนอกจากพรรคการเมืองที่ต้องการนำพล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น และยังเชื่อว่าคะแนนของพรรคไทยรักษาชาติจะยังคงอยู่ฝั่งประชาธิปไตยเหมือนเดิม