กฟผ.ประเมินการใช้ไฟฟ้าสูงสุดช่วงหน้าร้อนปีนี้ พุ่ง2%
กฟผ.ประเมินการใช้ไฟฟ้าสูงสุดช่วงหน้าร้อนปีนี้ (เม.ย.-พ.ค.) พุ่ง 2% จากปีก่อน เร่งแผนบริหารกำลังผลิตเตรียมพร้อมรับมือ
กฟผ.คาดการณ์ฤดูร้อนปีนี้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นตามอุณหภูมิที่เพิ่มมากขึ้น โดยพีคของระบบ กฟผ. ประมาณ 29,000 เมกะวัตต์ สูงกว่าปี 2561 ประมาณ 2% พร้อมเตรียมมาตรการรองรับเพื่อให้ระบบไฟฟ้า มีความมั่นคงสูงสุด และขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยกันลดการใช้ไฟฟ้า
นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า คาดการณ์ความต้องการการใช้ไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนจะเพิ่มสูงขึ้นตามอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของระบบ กฟผ. (Peak) ประมาณ 29,000 เมกะวัตต์ ซึ่งเติบโตจากปี 2561 ประมาณ 2% และคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม 2562 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงกว่า 10,500 เมกะวัตต์
สำหรับการเตรียมความพร้อมในส่วนของระบบผลิตไฟฟ้า กฟผ.บริหารจัดการโรงไฟฟ้าในระบบทั้งโรงไฟฟ้าของ กฟผ โรงไฟฟ้า IPP และ SPP ให้มีการทำงานบำรุงรักษาเท่าที่จำเป็น และขอความร่วมมืองดบำรุงรักษานอกแผนที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนตลอดช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือน มีนาคม ถึง พฤษภาคม ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงเพื่อรักษาความมั่นคง โดยในช่วงฤดูร้อนปีนี้ จะมีกำลังผลิตสำรองพร้อมจ่ายประมาณ 30% ซึ่งเพียงพอสำหรับรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินซ้ำซ้อนที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งได้ประสานงานกับ ปตท. ในการเพิ่มความสามารถในการส่งเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ให้มีความเพียงพอต่อความต้องการใช้ผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ในส่วนของระบบส่งไฟฟ้าของ กฟผ. มีความพร้อมใช้งานเต็มความสามารถ โดยงดทำงานบำรุงรักษาสถานีไฟฟ้า และอุปกรณ์ในระบบส่งที่มีความสำคัญ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการส่งไฟฟ้าในช่วงดังกล่าว
"ขอให้ทุกภาคส่วนมั่นใจว่า กฟผ. จะดูแลระบบผลิตและส่งไฟฟ้าของประเทศให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า และขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยกันลดการใช้ไฟฟ้าเพื่อช่วยให้การใช้ไฟฟ้าในระบบไม่สูงจนเกินไป" รองผู้ว่าการระบบส่งกล่าวในที่สุด