'ชัชชาติ-วัน' ลุยหาเสียงเขตบางบอน เปิดศึกชิงเก้าอี้ส.ส.สองตระกูล
"ชัชชาติ" แท็กทีม "วัน อยู่บำรุง" ลุยหาเสียงเขตบางบอน-หนองเเขม เปิดศึกชิงเก้าอี้ส.ส.สองตระกูล ระหว่างม่วงศิริ กับอยู่บำรุง ช่วงชิงกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อยันรุ่นลูก
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.62 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ตลาดเอกชัย เขตบางบอน-หนองเเขม กทม. เพื่อช่วยนายวัน อยู่บำรุง ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย เบอร์ 13 หาเสียง โดยจุดแรกไปที่ศูนย์กีฬาทางน้ำ sanook waterpark เพื่อพบปะประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาแข่งขันกีฬาทางน้ำ จากนั้นได้ขึ้นรถหาเสียงไปตามถนนเอกชัย-บางบอน และแวะพบปะพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเอกชัย หรือตลาดลาว ซึ่งมีเฮียตี๋ ผู้จัดการตลาด ออกมาให้การต้อนรับ โดยตลอดช่วงการหาเสียงบรรดากองเชียร์มีการเสียงตะโกนให้กำลังใจด้วยว่า "เบอร์ 13 ใจถึงพึ่งได้" จากนั้นได้แวะกราบสักการะวิหารหลวงพ่อขาว ริมถนนเอกชัย สิ่งศักดิ์ที่คนบางบอนให้ความเคารพนับถือ โดยช่วงหนึ่งนายชัชชาติและนายวันได้มีการปิดทองที่ด้านหลังองค์หลวงพ่อขาว และพูดทำนองว่า "มาปิดทองหลังพระ"
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ บอกว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่มีให้กับคนบางบอนหนองแขมคือ จะเข้ามาแก้ปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะถนนเส้นเอกชัย-บางบอน-กาญจนาภิเษก-พระราม 2 ที่มีจุดคอขวดหลายจุด และมีการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยจำนวนมาก อีกทั้งยังมีปัญหาด้านการขนส่งสาธารณะ รถเมล์มีน้อย รถไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง หากได้เป็นรัฐบาลจะพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้จากการสอบถามเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดพบว่า คนส่วนใหญ่ไม่มีเงิน ส่งผลให้กำลังซื้อน้อย ส่วนภาคเอกชนก็ขาดความมั่นใจไม่กล้าลงทุนเพิ่ม เป็นผลกระทบมาจากการส่งออกลดลง ภาคเกษตรลดลง ต้องกลับมาสร้างความมั่นใจให้คนกล้าลงทุนมากขึ้น รวมถึงเติมเงินในกระเป๋าให้คนรายได้น้อย เพื่อหมุนฟันเฟืองเศรษฐกิจให้กลับมาแข็งแรง
นายชัชชาติ ยังพูดถึงนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และปรับเงินเดือนอาชีวะปริญญาตรี ของพรรคพลังประชารัฐว่า อาจเป็นการผลักภาระให้กับภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME ที่จะล้มหายตายจากไป ซึ่งพรรคอื่นๆก็ชูนโยบายทำนองเดียวกัน แต่พรรคเพื่อไทยย้ำเสมอว่า การจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำได้นั้น เศรษฐกิจต้องดีก่อน ส่วนนโยบายพลังประชารัฐที่คลอดหลังเพื่อไทยแต่จ่ายเยอะกว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องของการแข่งขัน ทุกพรรคต้องการเอาชนะใจประชาชน แต่สิ่งสำคัญคือนโยบายใดที่สัญญาไว้ต้องทำให้ได้
ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.)อยากฝากถึงกกต.ว่า ให้ทำหน้าที่อย่างเป็นธรรมและโปร่งใส ให้คุ้มกับเงินเดือนที่รับจากภาษีประชาชน โดยเฉพาะการเก็บหีบบัตรเลือกตั้งจะทำอย่างไรให้คนมั่นใจ ไร้ข้อครหา ไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนการเลือกตั้งในต่างประเทศ ส่วนในวันพรุ่งนี้ที่มีผู้ออกสิทธิ์ใช้เสียงกว่า 2 ล้านคน ทางกกต. ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสำหรับการออกสิทธิ์ใช้เสียง
ด้านนายวัน อยู่บำรุง บอกว่า ผมไม่เคยมองผู้สมัคร ส.ส.พรรคอื่นเป็นคู่แข่ง ผมเอาชนะใจตัวเอง มั่นใจ 100% จะปักธงเป็น ส.ส.เขตบางบอนหนองแขมได้แน่นอน แต่ยังกังวลเรื่องการกาบัตรเสีย เนื่องจากการเลือกตั้งหนที่แล้วเขตบางบอนหนองแขมมีบัตรเสียมากถึง 8,000 ใบ ส่วนสโลแกนยังคงเดิม "ใจถึงพึ่งได้" เหมือนเดิม
สำหรับพื้นที่เขตบางบอน มีคู่แข่งคือตระกูลม่วงศิริ ซึ่งเป็นบ้านของ พ.ต.อ.สามารถ ม่วงศิริ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขตบางบอน บุตรชายนายปลิว ม่วงศิริ อดีต ส.ส.พรรคประชากรไทย ซึ่งในอดีตนายปลิวเคยเป็นคู่แข่งกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พ่อของนายวัน อยู่บำรุง เรียกได้ว่าเป็นศึกสองตระกูล ระหว่างตระกูลม่วงศิริ และตระกูลอยู่บำรุง ที่แย่งชิงเก้าอี้ ส.ส.เขตบางบอน มาตั้งเเต่รุ่นพ่อจนถึงรุ่นลูก