'ประยุทธ์' ลั่นยอมตาย ไม่ให้ใครล้มสถาบัน
"ประยุทธ์" ชี้ 24 มี.ค. ประเทศจะเกิดใหม่ ลั่นยอมตาย ใครล้มสถาบันหลักไม่ได้ รับจุกในลำคอ เวลาเห็นแววตาปชช. น้ำตาตก ก่อควงไมค์ร้องเพลงเป็นอัลบั้ม
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 มี.ค.62 ที่พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้ากราบนมัสการพระธรรมมังคลาจารย์ (วิ.) เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร อายุ 94 ปี โดยเจ้าอาวาสมอบพระพุทธรูปหลวงพ่อพุทธโสธรจำลองหน้าตักกว้าง 7 นิ้วให้เป็นของขวัญวันคล้ายเกิดแก่ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมอำนวยพรให้โชคดีมีสุขภาพที่แข็งแรง โดยนายกฯ กล่าวว่า ได้กราบอธิษฐานขอพรจากองค์หลวงพ่อพุทธโสธร ขอให้ประเทศชาติปลอดภัยประชาชนมีความสุข ปราศจากความเดือดร้อน และขอให้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ปลอดภัย และขอเวลาทำงานสิ่งสำคัญทุกคนจะต้องร่วมมือกันเพื่อทำงานให้ประเทศเดินต่อไปข้างหน้า ทั้งนี้ในเรื่องของการท่องเที่ยวปัจจุบันเรามีนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลกำลังจะทำเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างมีระบบ
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางต่อมาที่ โรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามโครงการรัฐบาล มีประชาชนรอให้การต้อนรับจำนวนมาก และมีเด็กนักเรียนแต่งชุดไทยกล่าวให้การต้อนรับให้กำลังใจว่า “ลุงตู่สู้ๆ ลุงตู่สู้ตาย ลุงตู่ไว้ลาย ลูกผู้ชายสู้ๆ” โดยนายกฯ กล่าวตอบกลับว่า “แค่คำว่าสู้ครั้งแรก ลุงตู่ก็สู้ตายแล้ว สู้เพื่อพวกเราทุกคนสู้เพื่ออนาคต” โดยระหว่างนั้นมีการเปิดเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” พล.อ.ประยุทธ์ จึงร้องเพลงดังกล่าวด้วยคลอไปด้วยในท่อนที่ระบุว่า “ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี” พร้อมกับระบุว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่มีความหมาย ทุกคนเป็นคนดีไม่มีวันตายไม่ใช่นายกฯ เพียงคนเดียว แต่ทุกคนเป็นคนดีไม่มีวันตายใช่หรือไม่ แต่กลับไม่มีการตอบรับจากประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวขึ้นว่า “งั้นลาเถอะครับไปดีกว่า และได้ถามย้ำอีกครั้ง ประชาชนจึงตอบว่า "ใช่" พล.อ.ประยุทธ์ จึงตอบว่าแบบนี้ “แบบนี้ค่อยไปต่อ”
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า ตนเคยอยู่ภาคตะวันออกมา 20 ปี เดินทางมาครั้งนี้มีความเจริญขึ้นไปมาก และไม่ต้องมาอ้อนวอนขอให้ตนทำถนนหนทาง เพราะถึงอย่างไรก็อยู่ในแผน 20 ปีอยู่แล้ว และไม่ได้คิดให้เป็นบุญคุณอะไร ประชาชนต่างหากที่มีบุญคุณ ซึ่งตนอยู่มา 5 ปี ก็ตาเจ็บ ผ่าตามา 2 ข้างแล้ว แต่เจ็บอย่างไรก็ต้องมา คนแปดริ้วจะแล้งน้ำใจหรือเปล่า ถ้าทะเลาะตบตีกันทุกอย่างจะเกิดหรือไม่ พรุ่งนี้วันเกิดฉันขอแค่นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้พล.อ.ประยุทธ์ได้ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ร่วมกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับอย่างครื้นเครง พร้อมกับกล่าวว่า ไม่ได้บังคับให้ใครมาอวยพร แต่เป็นการอวยพรให้กับประเทศที่จะเกิดใหม่ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ประเทศเกิดมา 800 ปีแล้วใช่หรือไม่ แต่จะเกิดใหม่อีกทีในวันที่ 24 มีนาคม และต่อไปเราจะทำให้ประเทศเกิดมาอย่างไร จะเข้มแข็งต่อไปอย่างไร ต้องสืบสานต่อจากคนรุ่นใหม่รุ่นเก่า บนกฎเกณฑ์กติกา สิ่งที่ทำมา 5 ปีมหาศาลกว่าจะทำได้ วันนี้ต้องดีกว่าเดิม อย่าถอยหลังไปที่เก่า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายกฯต้องลงพื้นที่ในทุกจังหวัดได้ ทำให้ประชาชนมีความสุข มีความพอใจ เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เข้ามาไม่ได้อะไรสักอย่าง แต่ได้ความภูมิใจที่ทำให้พี่น้องประชาชน คนฉะเชิงเทราใช่ประเทศไทยหรือไม่ รักคนจังหวัดอื่นหรือไม่ รัฐบาลนี้พยายามให้ทุกอย่าง ให้ทั้งปลาและเบ็ด บัตรสวัสดิการแห่งรัฐและอีกหลายๆนโยบาย เรื่องปัญหาราคาลอตเตอรี่แพง รัฐบาลก็พยายามทำให้ราคาลดลง แต่เราต้องไม่สนับสนุนคนขายเกินราคา ตนอยู่มา 5 ปีรู้ปัญหาของประชาชนดีว่าเดือดร้อน ยากจนอย่างไร อย่ามาบอกว่าไม่รู้ จึงต้องมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐออกมา แต่ทุกอย่างต้องมีขั้นตอนในการพัฒนา เงินทั้งหมดมาจากภาษีประชาชน แต่ภาษีเอามาใช้แบบผิดกฎหมายไม่ได้ เพราะมีคณะกรรมการตรวจสอบ ที่ผ่านมาทะเลาะกันเสียมาก วันนี้จะทะเลาะกันอีกหรือไม่
"เมื่อกี้ได้ไปกราบหลวงพ่อโสธร ขอส่วนรวมให้คนไทย ประเทศไทยมีความสุขต่อไปในอนาคต บ้านเมืองเป็นหลักเป็นฐานมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ให้ไว้ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งกำลังจะมีพิธีบรมราชาภิเษก ความศักดิ์สิทธิ์ประเทศไทยอยู่ตรงนี้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่าให้ใครมาล้มตรงนี้ เราต้องไม่ยอม จะล้มสถาบันหลักของประเทศไม่ได้ ผมยอมตายในเรื่องนี้ ทุกคนต้องยอมตายไปกับผมด้วย แต่ท่านไม่ตายหรอก ผมไปก่อนอยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอความสุขสวัสดิ์เกิดขึ้นแก่คนไทย ไม่ใช่แค่แปดริ้ว วันนี้ถือเป็นวันพบประชาชนครั้งสุดท้ายก่อนวันเกิดประเทศ และวันเกิดตนด้วย ตนไม่ได้หวังอะไรอย่างอื่นเพราะแผ่นดินผืนน้ำอากาศเป็นของประชาชนคนไทย ขออย่ารังเกียจพลเรือน ตำรวจและทหาร เพราะจะไม่มีคนทำงาน ขณะเดียวกันวันหน้าต้องเลือกคนดีมาบริหารเพราะประเทศไม่ใช่บริษัทและไม่ได้บริหารด้วยนายกฯ คนเดียว แต่ด้วยผู้แทนที่เข้ามาเพราะการบริหารประเทศส่งผลถึงคน 68 ล้านคน จึงขอให้ทุกคนช่วยกันขจัดขยะไปให้ได้ ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า "ทุกคนต้องร่วมมือบ๊ายบายลาก่อน พบกันเมื่อชาติต้องการ เมื่อไหร่ที่ต้องการ" ประชาชนพร้อมใจกันตอบกลับทันทีว่า 24 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จึงตอบกลับว่า "ไม่รู้ แล้วแต่ท่าน พูดไปเดี๋ยวอันตราย ฝากทุกคนนำพาประเทศไปสู่วันหน้า เวลาเห็นแววตาทุกคนแล้วกดดันบางทีจุกในลำคอ บางทีก็น้ำตาตก แต่ผมไม่ได้เสแสร้ง กลับไปก็ฝากอย่าเปิดโซเชียลที่สร้างความเกลียดชังมากนัก เหลืออีกไม่กี่วันแล้วอย่าสร้างความเกลียดชังอีก"
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ทำท่าขว้างสัญลักษณ์มือรูปไอเลิฟยูให้ประชาชนพร้อมกับกล่าวว่า "เอาหัวใจผมไป เอาหัวใจท่านคืนมา หัวใจของความรักความสามัคคีของคนไทยคืนมาใช่หรือไม่ใช่พ่อแม่พี่น้อง เอาละใกล้เคียงเข้าไปทุกที" จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ เดินลงจากเวที มีข้าราชการและประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยจำนวนมาก ระหว่างนั้นมีการเปิดเพลงเชื่อฉัน โดยพล.อ.ประยุทธ์ ร้องคลอท่อนที่ระบุว่า "เชื่อฉันอย่าหลงไปเชื่อใคร"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกล่าวกับประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินถ่ายรูปเซลฟี่และรับมอบดอกกุหลาบจากข้าราชการและประชาชนที่มาต้อนรับอย่างคึกคัก พร้อมถือไมโครโฟนร้องเพลง “จับมือกันไว้” ของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย เพลง “เชื่อฉัน” ของแจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ เพลง “คนดีไม่มีวันตาย” ของธีร์ ไชยเดช นอกจากนี้บนเวทียังได้เปิดเพลง “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู” ”แสงสุดท้าย” “ศรัทธา” จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เยี่ยมชมการออกร้านจากหน่วยงานต่างๆ โดยได้ชิมอาหารและทดลองตำส้มตำ พร้อมร้องว่า “ส้มตำถ้าตำไม่ดี ดีไม่ดีจะถูกตำ” และยังได้ทดลองตัดผมจากโรงเรียนสอนตัดผมด้วย ทั้งนี้ ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับ ข้าราชการจำนวนมากได้ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู อวยพรวันเกิดและบอกรัก “ลุงตู่” อย่างคึกคัก