"ภูมิธรรม" จี้ "7กกต." แจงเลขเลือกตั้งให้ชัด ซัดให้เลขสับสนสะท้อนไร้ประสิทธิภาพ-หวังผลการเมืองเปลี่ยน
เมื่อเวลา 11.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 7 คน แถลงรายละเอียดในกระบวนการจัดการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มีนาคมให้ชัดเจนและอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังจากที่การแถลงรายละเอียด ทั้งจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง, บัตรที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน, คะแนนรวมของทุกพรรคการเมืองมีตัวเลขสับสนและแตกต่างจากแถลงของนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ทั้งนี้ตนยอมรับว่าผลคะแนนที่ไม่ตรงกันและมีความสับสนดังกล่าวกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน ต่อการเลือกตั้งที่มีความโปร่งใสหรือไม่ รวมถึงกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่จะลงทุนในประเทศไทย
"ผมไม่เข้าใจว่าเจตนาที่ กกต.ทำให้เกิดความสับสนนั้นเป็นความไร้ประสิทธิภาพ หรือ มุ่งหวังทางการเมืองที่ต้องการให้ผลเปลี่ยนแปลงกันแน่ โดยผมยิ่งฟังแล้วยิ่งไม่สบายใจ และยิ่งกกต.พูดถึงเรื่องบัตรเขย่งที่เกิดขึ้นได้ ผมอยู่ในวงการการเมืองมานานเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ผมขอเรียกร้องให้ กกต.เปิดเผยผลคะแนนดิบที่เกิดขึ้นในกระบวนการจัดการเลือกตั้งให้สังคมช่วยกันตรวจสอบ เบื้องต้นยังไม่คิดไปไกลถึงการฟ้องร้อง กกต. ว่าทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ด้วยเหตุการทำหน้าที่เพราะสิ่งที่พรรคการเมืองต้องการคือความชัดเจนในเรื่องตัวเลขและผลการเลือกตั้งเท่านั้น" นายภูมิธรรม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าความไม่ชัดเจนของการประกาศตัวเลขผลการจัดการเลือกตั้งจะส่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า "อยู่ที่ความเป็นจริง หากความเป็นมันเลอะเทอะ ยอมรับว่าผลจะเลอะเทอะด้วย แต่หากเป็นข้อเท็จจริงก็จบ ทั้งผมไม่อยากมโนว่าจะให้ผลเป็นอย่างไร เพราะเราต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงที่เกิดขึ้น"
เมื่อถามถึงการจับมือกับ 7 พรรคการเมืองเพื่อร่วมรัฐบาล เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังยืนยันโดยมั่นใจว่า พรรคการเมืองที่ร่วมทำสัตยาบรรณ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา ยังจับมือกันอย่างแข็งแรง ทั้งนี้สิ่งที่ 7 พรรคร่วมมือกันคือการประกาศจุดยืนบนอุดมการณ์สนับสนุนประชาธิปไตย ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ที่ให้ไว้กับประชาชนก่อนการเลือกตั้ง ว่าไม่ยอมให้เกิดกระบวนการแทรกแซงการตัดสินใจ และให้การเลือกตั้งได้รัฐบาลที่มาจากเจตนารมณ์ของประชาชน ซึ่งเป็นความตั้งใจทำการเมืองแบบใหม่ อย่างไรก็ตามการรวมตัวเป็นกลุ่มแกนนำตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าที่ผ่านมา 7 พรรคไม่เคยพิจารณาถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือ ตำแหน่งรัฐมนตรี ขณะที่เสียงของ 7 พรรคซึ่งรวมกันได้ 255 เสียงนั้นเป็นตัวเลขเมื่อวันที่ 27 มีนาคม
"ผมยอมรับว่าหลังจากที่ประกาศสัตยาบรรร่วมกัน 7 พรรค มีการประสานข่มขู่กัน ซึ่งนักการเมืองในกลุ่มคุยกัน ว่าจะมีกระบวนการงูเห่า งูเหลือม เพราะตัวเลขที่กกต. ประกาศไม่ชัดเจน ผมมองว่าหาก กกต.สร้างความชัดเจนด้วยการเปิดเผยตัวเลขและรายละเอียดอาจไม่มีปัญหา แต่เมื่อวันนี้ตัวเลขไม่นิ่ง ยังไม่ได้คุยกันมาก เพราะกลัวตัวเลขมีการเปลี่ยนแปลง และต้องยอมรับว่าตัวเลขเปลี่ยนแปลงแบบรายวัน" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิราวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุให้พรรคเพื่อไทยอ้างความเป็นประชาธิปไตยเพราะกังวลสังคมจะขัดแย้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มีประเด็นที่สร้างความขัดแย้ง เพราะสิ่งที่พรรคการเมืองแถลงคือการพูดกับสาธารณะ กับประชาชน ซึ่งประชาชนสามารถพิจารณาและตัดสินได้เอง ดังนั้นนายสนธิรัตน์ ไม่ควรกังวลแทนประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียทหารมีมติถอดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกจากศิษย์เก่าดีเด่นและเรียกคือรางวัลเกียรติยศจักรดาว นายภูมิธรรม ปฏิเสธให้ความเห็นระบุเพียงว่าไม่ได้ใส่ใจ หรือสนใจรายละเอียด เนื่องจากพรรคเพื่อไทยสนใจแต่ผลการเลือกตั้ง