ไม่ยอมคนไทยต่อสู้บนถนน หากวุ่นกฎอัยการศึกเอาอยู่ ยังไม่ถึงขั้นรัฐประหาร
ผบ.ทบ. ชี้แจง 10 สื่อตปท. ย้ำชัดไม่ยอมให้คนไทยต่อสู้บนถนน เชื่อหากวุ่นวาย กฎอัยการศึกเอาอยู่ ไม่ถึงขั้นรัฐประหาร ระบุยอมรับกติกาคือทางออกประเทศ
พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เชิญสื่อต่างประเทศประจำประเทศไทย ร่วมพูดคุยถึงสถานการณ์บ้านเมือง ที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลทหารสู่รัฐบาลประชาธิปไตย โดยสำนักข่าวที่ได้รับเชิญในครั้งนี้ ประกอบด้วย CNN จากสหรัฐอเมริกา / EPA จากเยอรมัน / Japanese News Agency จากญี่ปุ่น / BBC จากอังกฤษ / เกียวโด จากญี่ปุ่น / AFP จากฝรั่งเศส / Reuters จากอังกฤษ / ABC จากออสเตรเลีย / CNA จากสิงคโปร์ และ NHK จากญี่ปุ่น
โดยเนื้อหามีลักษณะคล้ายคลึงกับการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไทย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่มีตอนหนึ่งที่ พลเอกอภิรัชต์ กล่าวถึงการเมืองไทยในปัจจุบันว่า เราผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว จะเป็นอย่างไรก็ตาม กองทัพบก ทหารจะต้องวางตัวเป็นกลาง ตนเข้ามาเป็น ผบ.ทบ. มีจุดยืนของตัวเอง ไม่ได้ให้ใครเข้ามาควบคุม ตนอยู่ในกฎระเบียบกติกา กองทัพไม่เกี่ยวกับรัฐบาลและไม่ก้าวก่ายการเมือง ในหมู่ทหารมีทั้งดีและไม่ดี เช่นเดียวกับนักการเมือง ส่วนผลการเลือกตั้งรอ กกต. ประกาศเป็นทางการ ทุกอย่างมีไทมไลน์ ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาผลักดันและตนไม่รู้ว่าใครจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต กองทัพไม่เข้าไปเกี่ยวทั้งสิ้น และตนยอมไม่ได้ที่คนไทยออกไปต่อสู้กันบนถนนอีกแล้ว
เมื่อถามว่า สถานการณ์หลังการเลือกตั้งจะมีทางออกหรือไม่ พลเอก อภิรัชต์ กล่าวว่า ทางออกก็คือทุกคนต้องยอมรับกติกาให้เป็นไปตามขั้นตอนก็คือ กกต. ประกาศผลการเลือกตั้งทางการ 9 พ.ค. ถามว่าทำไมต้องเป็นวันที่ 9 พ.ค. ก็เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบต่องานพระราชพิธีสำคัญของคนไทย ถ้าหากประกาศก่อน ขั้นตอนอื่นๆ ก็จะตามมา แต่ถ้าหากประกาศผลเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค.ก็คือผ่านพ้นงานพระราชพิธีไปแล้ว ทุกวันนี้นายกรัฐมนตรี พยายามควบคุมให้ทุกอย่างแฟร์ ส่วนจะแฟร์หรือไม่แฟร์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กติกา แต่อยู่ที่ตัวบุคคล เมื่อมีการเลือกตั้ง คนแพ้ไม่พอใจก็หาเรื่อง แต่ถ้าหากคุณจัดตั้งรัฐบาล จะแก้รัฐธรรมนูญ แก้กฎหมาย ทำกันในรัฐสภา ทหารไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด ไม่ใช่ทำให้เกิดสภาพเช่นนี้ ทุกฝ่ายไม่สบายใจกันหมด
สำหรับจุดยืนเรื่องรัฐประหารนั้น เห็นว่า ปัจจุบันการทำรัฐประหารไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ขณะนี้รัฐบาลก็เดินไปได้ดีและนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งตนหวังว่าคนไทยจะไม่ต้องออกมาประหัตประหารต่อสู้กัน ตนเคยผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาตั้งแต่สมัยของคุณพ่อ จนมาถึงสมัยของตัวเอง เมื่อมีคนมาต่อสู้กันบนถนน คนที่เรียกตัวเองว่านักประชาธิปไตย นักการเมือง ก็หอบลูกเมียไปอยู่ต่างประเทศ
"ผมเป็นคนพูดตรงไปตรงมา ไม่มีใครอยู่ประเทศไทย เขาไปนั่งดูอยู่ที่ต่างประเทศ และดูว่าเมื่อไหร่ประเทศไทยจะสงบ แล้วก็กลับมา ส่วนคนที่อยู่ก็ต้องสูญเสีย ทั้งทหารและประชาชน ซึ่งประชาชนที่เสียชีวิตก็ไม่มีหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค คนมีเงิน หรือคนมีชื่อเสียง"
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ต้องเข้าสู่สภาวะไหนถึงจะตัดสินใจยุติปัญหาด้วยการรัฐประหาร พลเอก อภิรัชต์ บอกว่า ต้นเหตุของการเกิดรัฐประหารในทุกยุคทุกสมัยแตกต่างกัน ไม่ได้เกิดจากฝ่ายการเมืองเสมอไป แต่การทำรัฐประหารสิ่งที่เห็นชัดเจนที่สุดคือ ประเทศไม่มีใครควบคุมได้ รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ รวมถึงตำรวจมีการใช้อาวุธ มีคนออกมาต่อสู้ ประชาชนล้มตาย ถามว่าเมื่อถึงตรงนั้น กองทัพจะยืนอยู่ตรงไหน จะให้ยืนดูประชาชนต่อสู้กันจนเกิดสงครามการเมืองหรือไม่ การใช้กองกำลังทหารเข้าควบคุมก็ไม่ได้ถือว่าเป็นการปฏิวัติรัฐประหาร ทุกอย่างมีขั้นตอนของตัวเอง ซึ่งอาจเกิดความวุ่นวายขั้นตอนแรก ก็คือตำรวจซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในฐานะเจ้าพนักงานต้องเข้าไปควบคุม และถ้าหากบานปลายก็เป็นตำรวจอีกเช่นกัน จนไปถึงการประกาศภาวะฉุกเฉิน เมื่อประกาศแล้วก็ต้องพิจารณาดูว่าดีกรีพอหรือไม่ ซึ่งอาจจะถึงขั้นประกาศกฎอัยการศึกเท่านี้ ก็น่าจะแก้ไขได้แล้ว