7 พรรคเล็ก แหวกแนว เสนอสูตรปาร์ตี้ลิสต์ เฉลี่ยคะแนน ให้ 37 พรรค ชงตั้งรัฐบาล “สามัคคีสร้างชาติ” ยุติความขัดแย้งทั้งหมด
22 เม.ย.62 เวลา 10.45 น. กลุ่มรวมพรรคพรรคการเมือง ซึ่งประกอบด้วยพรรคภาคีเครือข่ายไทย พรรคแผ่นดินธรรม พรรคพลังไทยดีพรรคพลังแผ่นดินทอง พรรคภารดรภาพ พรรคกรีน และพรรคประชาไทย เข้ายื่นหนังสือถึง กกต.เพื่อเสนอสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลที่เหมาะสมและเป็นธรรม โดยเห็นว่าภายหลังการเลือกตั้งผ่านมาแล้ว 1 เดือน ยังไม่สามารถรู้ได้ว่าพรรคใดจะได้จัดตั้งรัฐบาล แม้จะมีการเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมา แต่ก็มีการมองว่าขัดรัฐธรรมนูญเพราะไม่มีฝ่ายค้าน ดังนั้นกลุ่มรวมพลังพรรคการเมืองขอเสนอ ตั้งรัฐบาลสามัคคีสร้างชาติ เพื่อยุติความขัดแย้งทั้งหมด โดยการเมืองใดจะประสงค์ร่วมรัฐบาลให้ไปลงชื่อร่วมกัน ส่วนพรรคใดที่มีแนวทางไม่ตรงกับกลุ่มร่วมรัฐบาล ก็มาร่วมเป็นฝ่ายค้านได้ ซึ่งรัฐบาลสามัคคีสร้างชาติ ก็เป็นไปรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 , 5, 8 และ 265 นอกจากนี้ยังขอให้ คสช. เสนอรายชื่อผู้ที่ผ่านการสรรหาเพื่อเสนอชื่อเป็น ส.ว.ให้นำรายชื่อทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อขอพระบารมีโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ส.ว.จำนวน 250 คน ตามพระราชอัธยาศัย เพื่อความเป็นกลางในการทำหน้าที่ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ทางกลุ่มจะนำแนวคิดรัฐบาลสามัคคีสร้างชาติไปหารือร่วมกับ 20 พรรคเมืองต่อไป
ขณะเดียวกันกลุ่มดังกล่าว ยังเสนอสูตรวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ที่จะช่วยให้การเมืองพ้นจากสภาพการเมืองติดชะงัก หรือเดทล๊อค เนื่องจากสูตรวิธีการคำนวณที่ออกมาก่อนหน้านี้ ได้ ส.ส.ไม่ครบ และการคำนวณที่ไม่ลงตัว เนื่องจาก พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต 137 คน ซึ่งมากกว่าจำนวน ส.ส.พึงมีถึง 26 คน ดังนั้นการใช้สูตรในปัจจุบันไม่สามารถใช้ได้ เพราะไม่เป็นธรรม กลุ่มจึงขอเสนอสูตรการคำนวณ โดยตัดคะแนนของพรรคเพื่อไทย ที่มีจำนวนกว่า 7.9 ล้านคะแนนออกไป ก็จะเหลือคะแนน 27 ล้าน และไม่นำ ส.ส.เขต จำนวน 137 มาร่วมคำนวณ ดังนั้นตัวเลขที่จะต้องนำมาใช้คำนวณจริง คือ คะแนน 27,612,017 หารด้วย 363 จะเท่ากับคะแนนเฉลี่ย 76,066 คะแนน จากนั้นนำคะแนนของแต่ละพรรคมาหารด้วยค่าเฉลี่ยใหม่ 76,066 ก็ได้จำนวน ส.ส.พึงมีของแต่ละพรรค ซึ่งจะมีพรรคที่ได้ ส.ส.พึงมีตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป 15 พรรค ได้ ส.ส.478 คน จะเหลือเศษ 22 คน จึงให้ไปจัดสรรให้กับพรรคการเมืองที่มี ส.ส.พึงมีน้อยกว่า 1 คน นับตั้งแต่พรรคในลำดับที่ 16 ถึง 37 ซึ่งจะเป็นการรับรองว่าทุกคะแนนเสียงจะไม่ตกน้ำ และจะได้ ส.ส.ครบ 500 คน จำนวน 37 พรรค และสูตรนี้ก็ยังเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด