พรรคภราดรภาพ จวก 'ธนาธร-ปิยบุตร' ปลุกมวลชนลงถนน เพื่อประโยชน์ตัวเอง
เลขาธิการพรรคภราดรภาพ จวก "ธนาธร-ปิยบุตร" ปลุกมวลชนลงถนน เพื่อประโยชน์ตัวเอง เเสดงตัวเหมือนไม่เคารพกติกากระบวนการยุติธรรม สังคมจะวางใจให้ดูเเลบ้านเมืองได้อย่างไร
กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เเถลงว่าไม่เห็นด้วยในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จนกว่าศาลมีคำวินิจฉัย เพราะศาลสงสัยว่ายังถือหุ้นบริษัท วี ลัค มีเดีย จำกัดอยู่เเละขาดคุณสมบัติในการลงสมัคร ส.ส.โดยนายธนาธรอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญเเละกกต.ดำเนินการเเบบไม่เป็นธรรมกับตัวเองนั้น
นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ เลขาธิการพรรคภราดรภาพ กล่าวว่า นายธนาธรย้ำเสมอว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่เเต่วิธีที่กำลังจะทำนั้นเสมือนปลุกกระเเสสังคมไม่ให้ยอมรับกระบวนการยุติธรรมเเละองค์กรอิสระ หากนายธนาธรทำเเบบนี้จะเรียกตัวเองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ทางการเมืองที่จะนำอนาคตประเทศเดินหน้าเเบบไม่ขัดเเย้งได้หรือเเละสังคมจะอยู่อย่างไร
นายพันธ์ยศกล่าวว่า ขอให้สังคมมองสิ่งที่นายธนาธรบอกว่า ”ตอนนี้ ขอให้ทุกคนยืนนิ่งๆเเละฟังเสียงของคนที่โกรธเเละไม่พอใจที่อยู่ข้างนอก คสช.วันนี้อยู่ในช่วงขาลงเเละเป็นอาทิตย์อัสดง เพราะการสืบทอดอำนาจในการดึงส.ส.พรรคอื่นๆเเละสกัดตน เเสดงถึงความสิ้นหวังของเผด็จการเเละดิ้นรนครั้งสุดท้าย นั้น คงเเปลเจตนาของนายธนาธรเป็นอื่นไปไม่ได้ว่าอยากให้มวลชนลงสู่ถนน วันนี้บ้านเมืองกำลังจะมีรัฐสภาเเละรัฐบาลใหม่ การเมืองงกลับสู่ครรลองเเล้ว มีอะไรก็ไปต่อสู้กันตรงนั้นตามหน้าที่ที่ประชาชนมอบให้เเต่ละฝ่าย ดังนั้นสิ่งที่นายธนาธรสื่อออกมาเเบบนี้สังคมควรไตร่ตรองเเละอย่าหลงเป็นเครื่องมือของใครบางคนที่หวังใช้กระเเสสังคมมาช่วยตัวเองในเเนวทางที่ผิดๆ” นายพันธ์ยศกล่าว
นายพันธ์ยศ กล่าวว่า กรณีนายปิยบุตร เเสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ที่ออกมาชี้เเจงข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับคนในพรรคอนาคตใหม่หลายครั้งนั้น ตนมองว่า นายปิยบุตรเเถลงข่าวหลายครั้งนั้นมีความพยายามบิดข้อเท็จจริงเเละใช้กฎหมายในเเนวทางที่ตีความเข้าข้างตัวเอง วันนี้นายปิยบุตรเป็นนักการเมือง เเละที่ผ่านมานายปิยบุตรสอนวิชากฎหมายมาก่อน ตนมองว่าการใช้ความรู้ทางกฎหมายเเบบเอาสีข้างเข้าถูนั้นไม่ควรเกิดขึ้นเพราะสังคมจะเข้าใจอะไรผิดๆไปเเละควรยุติการดำเนินการเเบบนั้น มีอะไรนำข้อเท็จจริงไปสู้ในศาลเเบบอารยะประเทศจะดีที่สุด
นายพันธ์ยศกล่าวว่า หวังว่าสังคมจะตระหนักเเละพิจารณาในสิ่งที่สองเเกนนำพรรคดังกล่าวกระทำในช่วงที่ผ่านมา เพราะเมืองไทยนั้นกระบวนการต่างๆมีครรลองเเละกฎหมายใช้บังคับ ผิดหรือถูกไปต่อสู้ตามเเนวทางที่กฎหมายวางไว้ หากทำเเบบนี้สังคมจะยอมรับ ไม่ใช่ว่าเมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ตีโพยตีพายเเละขู่สังคมเเบบกลายๆเช่นนี้
“ผมมองว่าการทำเเบบนี้ไม่เหมาะกับภาวะบ้านเมืองเเละวันนี้การเมืองที่กลับเข้าระบบเเล้ว หากคนหน้าใหม่ทางการเมืองเเสดงตัวเหมือนไม่เคารพกติกาเเละกระบวนการยุติธรรมเเบบนี้ สังคมจะวางใจให้คนหน้าใหม่ทางการเมืองให้ดูเเลบ้านเมืองได้อย่างไร คือหากบางคนเมื่อไม่พอใจในสิ่งใดก็ปลุกปั่นกระเเสขัดเเย้งทางการเมืองขึ้นมาทั้งๆที่ไม่ควรเกิดขึ้น” นายพันธ์ยศกล่าว