'สุเทพ' ขึ้นศาลคดี กปปส. ยัน รปช.5 เสียง โหวตประยุทธ์ นั่งนายกฯ
"สุเทพ" ชม "ประยุทธ์" เหมาะที่สุด สถานการณ์นี้ รักชาติ-ซื่อสัตย์-มุ่งมั่นทำงาน ย้ำไร้กังวล รปช. ไม่เคยต่อรองตั้งรัฐบาล
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.62 ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ คดีชุมนุม กปปส. 5 สำนวน คดีหมายเลขดำ อ.247/2561 , อ.832/2561, อ.1185/2561, อ.491/2562 , อ.791/2562 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อายุ 70 ปี อดีตเลขาธิการ กปปส. , อดีตแกนนำ กปปส. และแนวร่วม รวมทั้งสิ้น 31 คน ในความผิด 8 ข้อหาฐานร่วมกันกบฏ , สนับสนุนกบฏ , ขัดขวางการเลือกตั้งฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 , 116 , 117 , 209 , 210 , 215 , 216 , 362 , 364 , 365 , พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 ม.76 , 152 ขณะที่นายสุเทพกับนายชุมพล จุลใส ถูกฟ้องเพิ่มอีกข้อหาฐานก่อการร้าย ตามมาตรา 135/1 ด้วย
กรณีสืบเนื่องจากการร่วมชุมนุมกันของ กปปส.ที่มีนายสุเทพ เป็นผู้นำการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 56 – 1 พ.ค.57 ซึ่งมีการพาผู้ชุมนุมบุกรุกปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ยังได้ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของจำเลยด้วยมีกำหนด 5 ปี โดยคดีนี้ เริ่มสืบพยานโจทก์นัดแรกไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค.62 ที่ผ่านมา ขณะที่วันนี้ "นายสุเทพ" อดีตเลขาธิการ กปปส. และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เดินทางมาพร้อม แกนนำ-แนวร่วม กปปส. พร้อมร่วมกระบวนการสืบพยานโจทก์
โดย "นายสุเทพ" ในฐานะ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ซึ่งได้ ส.ส.จากการเลือกตั้งครั้งนี้ รวม 5 คน ให้สัมภาษณ์กรณีการเตรียมประชุม 2 สภาเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) ว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย พูดคุยกันมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า เราสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในในสถานการณ์อย่างนี้ เป็นคนที่มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นที่ประจักษ์ เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ ฉะนั้นพรรครวมพลังประชาชาติไทยจึงได้หาเสียงกับประชาชนชัดเจนว่าสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ความจริงเราก็ไม่ได้ยึดติดตัวบุคคล แต่เห็นว่าในช่วงเวลานี้ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ ในการนำพาประเทศผ่านวิกฤติไปได้ เมื่อถามถึง ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ด้วยหรือไม่
นายสุเทพ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตแล้ว คงต้องถามถึงบุคคลที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์เองแต่ถ้าสุดท้ายเราได้ร่วมงานกันกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็อยากจะบอกว่าในยุคนี้เป็นยุคที่การสื่อสารเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ใครคิดอะไรนิดหน่อยก็ปรากฏไปในสื่อแล้ว ที่จริงมันมีขั้นตอนปฏิบัติระบุไว้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
โดยในวันพรุ่งนี้ ( 5 มิ.ย.) เป็นวันโหวตเลือกนายกฯ ฉะนั้นเราไม่ต้องไปกังวลใจในเรื่องนี้ คอยดูอย่างเดียวว่าสมาชิกรัฐสภาจะลงคะแนนให้ใครเป็นนายกฯ เสียงข้างมากในสภาจะลงคะแนนให้ใคร เมื่อมีการเลือกนายกฯ เรียบร้อยแล้ว ประธานรัฐสภาจะต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อให้ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ หลังจากนี้นายกรัฐมนตรีจึงจะไปดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล จะไปเจรจาหรือชักชวนพรรคไหนมาร่วมรัฐบาล แล้วจะให้ใครบริหารกระทรวงไหน และจะมีนโยบายของรัฐบาลอย่างไรเป็นภาระของคนที่ได้รับเลือกเป็นนายกฯ ส่วนที่เราเห็นเขาพูดคุยเจรจากันนั้น เป็นการทำไว้ล่วงหน้าก่อนทั้งนั้น แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร สำหรับพรรครวมพลังประชาชาติไทยเราไม่ได้ต่อรองการร่วมรัฐบาลใดๆ ทั้งสิ้น แต่เราก็ตั้งใจว่ามีกำลังความสามารถอย่างไรบ้างที่จะช่วยเหลือสนับสนุนให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เดินหน้านำพาประเทศผ่านวิกฤติไปได้