คืนหมาหอน!!

ระหว่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จาก “ขั้วพลังประชารัฐ” และ “เอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จาก “ขั้วเพื่อไทย”

สำหรับขั้นตอนจะเริ่มต้นที่การเสนอชื่อแคนดิเดต โดยต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนส.ส.หรือ 50 จาก 500 คน (ขั้นตอนการเสนอชื่อให้สิทธิเฉพาะส.ส.เสนอชื่อเท่านั้น) จากนั้นที่ประชุมจะมีการลงมติแบบเปิดเผยโดยการขานชื่อทีละคนทั้งส.ส.และส.ว.

แม้ทางฝั่งพลังประชารัฐ ดูเหมือนจะมั่นอกมั่นใจว่า เสียงที่มีอยู่จะเพียงพอต่อการโหวตเลือนายกฯได้อย่างฉลุย ขณะที่ “ขั้วเพื่อไทย” เตรียมแผน 2 ไว้รับน้อง “บิ๊กตู่” นั่นคือการอภิปรายคุณสมบัติทั้งในประเด็นสถานะการเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ” เพราะยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในเสนอชื่อ รวมถึงประเด็น "คุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี“ และ “นายกรัฐมนตรี” ที่อาจขัดมาตรา160(5) ของรัฐธรรมนูญและมาตรา5(1) แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม

แต่ทว่า สิ่งที่จะต้องจับตานอกเหนือจากการอภิปรายในสภา ขั้นตอนการยกมือโหวตเลือกนายกฯเพราะต้องไม่ลืมว่าเมื่อครั้งที่มีการโหวตประธานสภาฯ เราจะได้เห็นปรากฏการณ์ “งูเห่า” ซึ่งปะปนอยู่ทั้ง “2 ขั้วการเมือง”

การโหวตเลือกนายกฯ อีกไม่กี่ชั่วโมงจะได้รู้กันว่า การยกมือโหวตเลือก ซึ่งเป็นการโหวต “เปิดเผย” โดยการขานชื่อทีละคน จะมี “งูเห่า” สักกี่ตัวปะปนอยู่ในสภาเพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงอาจส่งผลให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดเพลี่ยงพล้ำได้โดยง่าย

ยิ่งใกล้ถึงเวลายกมือโหวตเลือกนายกฯ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น “คืนหมาหอน” มากท่าไรราคาต่อรองยิ่งมีสูงมากเท่านั้น อย่างล่าสุด “ค่ายส้มหวาน” ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลการเสนอราคาค่าตัวงูเห่าที่พุ่งสูง 50-120 ล้านบาท

เกมเดิมพันในครั้งนี้ใกล้ถึงจุดจบเข้ามาทุกที ใครจะได้เป็นนายกฯ และประเทศจะเดินไปในทิศทางใดอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าจะได้รู้กัน!!