ชี้เงื่อนไขต่างกัน! เตือนจุดกระแสม็อบไทย เลียนแบบฮ่องกง
โฆษก กห. เผยหากไม่มี "พล.อ.ประวิตร" ในครม.หน้า ไม่กระทบความมั่นคง เชื่อประเทศไม่ขาดคนดี ระบุจุดกระแสม็อบไทย เลียนแบบฮ่องกง เงื่อนไขต่างกัน มั่นใจกลไกสภาฯ ใช้แก้ไขปัญหาลุล่วง
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความพยามของกลุ่มการเมืองที่พยายามปลุกม็อบให้ออกมาเคลื่อนไหวบนท้องถนนว่า ถ้าเป็นม็อบที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นความตื่นตัวของการมีส่วนร่วมของคนหลายกลุ่ม หลายวัย ไม่ว่าจะเป็นการมีส่วนร่วมทางการเมือง เราไม่ควรผลักไสให้ใครไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เพราะทุกคนก็รักประเทศชาติ ทั้งนี้ยังย้ำว่าการหันหน้าเข้าหากัน ปรึกษากัน เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็น อย่างตรงไปตรงมาจะเป็นประโยชน์กับการพัฒนาประเทศชาติ ซึ่งปีนี้เราเป็นเจ้าภาพอาเซียนด้วย ก็ควรแสดงออกด้วยการเป็นหนึ่งเดียวอย่างสร้างสรรค์ เพราะเราเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีเมื่อ 10 ปีที่แล้ว กลายเป็นภาพจำมาถึงวันนี้ ดังนั้นเมื่อไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมในหลายเวทีของปีนี้ จึงควรมีความภูมิใจในชาติและประเทศ
เมื่อถามว่า มีบางฝ่ายพยายามนำโมเดลการชุมนุมเคลื่อนไหวจากต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศฮ่องกงมาจุดกระแสในประเทศไทยนั้น พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า เงื่อนไขมีความแตกต่างกัน หากเราให้ข้อมูลครบถ้วนไม่บิดเบือน ด้วยใจเป็นกลาง ก็จะเข้าใจสังคมไปในทิศทางเดียวกัน ประเทศไทยยังไม่มีอะไรเสียหาย แต่เราห่วงว่าจะมาเคลื่อนไหวให้เป็นภาพลบกันเท่านั้นเอง เชื่อว่าทุกพลังเป็นพลังบวก ถ้าได้หาจุดลงตัวและเข้าใจถึงความตั้งใจของทุกฝ่าย ทุกวัย จะทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไป เพราะการคิดต่างเป็นเรื่องปกติ แต่สุดท้ายต้องยึดกฎกติกาสังคม และกฎหมาย ไม่เช่นนั้นสังคมอยู่ไม่ได้ จะใช้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่าเหตุผลและกฎหมายไม่ได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายตั้งหลักให้ดี
เมื่อถามว่า ในช่วงรอยต่อที่ยังไม่มีรัฐบาลกังวลต่อการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ หรือไม่ พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะสังคมอยู่ในกรอบกฎหมาย นโยบายยังเป็นการสานต่อ ไม่ได้เป็นนโยบายที่สร้างผลทางลบกับใคร ยกเว้นไปกระทบกับผู้ที่เสียประโยชน์จริงๆ กลุ่มเหล่านั้นก็ต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่ภายใต้กรอบ กติกา สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายแห่งมีการฝึกเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น คงไม่ใช่การฝึกเพื่อรับมือม็อบโดยเฉพาะ แต่อย่างที่บอกว่าปีนี้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องเตรียมในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัย การจราจร เพื่อป้องกันไม่ให้ใครทำอะไรที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มเคลื่อนไหวหวังผลในการล้มรัฐบาลหลังจากไม่มีม.44ใช่หรือไม่ พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองอย่างนั้น วันนี้มีกลไกสภาฯ จึงอยู่ในกรอบของสภาฯ ที่สามารถพูดคุยกันได้ ตนเชื่อว่าการทำงานของพรรคการเมืองนั้น คงไม่มีพรรคการเมืองใดที่มีความประสงค์จะเคลื่อนไหวมาเพื่อล้มรัฐบาลนอกสภาฯ ก็ขอให้ใช้กลไกในสภาฯทำงานการเมืองให้เห็นว่าสมาชิกในสภาฯ ได้ปรับเปลี่ยนการทำงานการเมืองแบบใหม่ เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและมั่นใจ
เมื่อถามว่า ถ้าไม่มี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว. กลาโหม ในครม.ชุดใหม่จะมีคนเหมาะสมมาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยต่อไปหรือไม่ พลโทคงชีพ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าประเทศไทยไม่ขาดคนดี ใครมาก็ทำหน้าที่ได้ทั้งนั้น ขอให้เราเชื่อมั่นและไว้ใจกัน ตนเชื่อว่าทุกคนรักประเทศไทยด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครคิดทำลายประเทศตัวเอง ถ้าเข้าใจตรงจุดนี้ก็พูดคุยกันได้ เพราะเราไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามและไม่ได้เป็นศัตรูกัน