'สมศักดิ์' เตือนเกลี่ยรมต.ให้ชัด สมัยหน้าถึงเงินหนาก็รั้งลูกพรรคย้ายรังไม่ได้
"ส.ส.โคราช พปชร." ไม่วิจารณ์ "ชพน." 3 ที่นั่ง แลก 1 รมต. เผย อยากเห็นความชัดเจน ปมเกลี่ยเก้าอี้ หลังบางคนชวด หวั่นมีผลต่อเสียงโหวต เตือนสมัยหน้าถึงเงินหนา ก็รั้งลูกพรรคย้ายรังไม่ได้
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.62 นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้รับการจัดสรรให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ตนยังไม่รู้เหตุผลของผู้ใหญ่ในพรรคว่ามีกติกา รวมถึงเงื่อนไขรายละเอียด คำมั่นสัญญาอย่างไรในการก่อตั้งพรรค โดยส่วนตัวอยู่มาหลายพรรค ยอมรับว่าไม่เหมือนกันเลย เพราะพรรคนี้ไม่มีความชัดเจน จึงไม่กล้าแสดงความเห็น
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนจะส่งผลเสียมากน้อยแค่ไหนนั้น ถ้าดูตามข่าว นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ก็ไม่ได้เป็นรมว.แรงงาน ซึ่งน่าจะลดกระแสได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้านายสุชาติได้ แล้วนายอนุชา ไม่ได้น่าจะยุ่ง รวมถึงถ้าน้องชาย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ได้ด้วยเช่นกัน ตนจึงมองว่านายกรัฐมนตรีต้องการเลือกให้รัฐมนตรีไปทำงานจริงๆ และให้ส.ส.ส่วนนี้คุมเสียงในสภา โดยดูได้หลายอย่าง เพราะตนเองไม่เข้าใจเหตุผล เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเมืองผสมราชการ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พรรคชาติพัฒนาที่มีส.ส. 3 คน แต่ได้รัฐมนตรีนั้น ไม่อยากวิจารณ์ เพราะตนมาจากพรรคชาติพัฒนา แต่ถ้าพูดอย่างเป็นกลาง ก็ไม่รู้ว่า ตอนไปเชิญมีเงื่อนไขอย่างไร แต่ถ้ามองอีกมุม เมื่อมีแค่ 3 เสียงแล้วให้เก้าอี้รัฐมนตรี ต่อไปจะไม่ยุ่งหรือ เพราะน่าจะมีเกณฑ์ จากที่เคยมีข่าวว่า 7 ส.ส. ต่อ 1 รัฐมนตรี ซึ่งก่อนหน้านี้ ยังเคยได้ยินข่าวว่า พรรคชาติพัฒนา จะรวมกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย เพื่อรวมกันเอาโควต้า
“การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีไม่เหมือนระบบของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีที่มาที่ไป พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พอให้โควต้านายกรัฐมนตรีมาก ก็จะกลัดเนื้อตัวเอง โดยจะมีปัญหาในระยะยาวถ้าไม่มีการดูแลให้อบอุ่นกันมากกว่านี้ ยอมรับว่าเป็นกังวลถ้าเกิดปัญหาการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีแบบนี้ เพราะจะส่งผลต่อเสียงโหวตมติต่างๆในสภา อยากเห็นความชัดเจน แต่ถ้าพรรคไม่มีอะไรตอบสังคมได้ สมัยหน้าไม่ว่าจะมีเงินขนาดไหน ก็ไม่สามารถต้านลูกพรรคได้ เพราะลูกพรรคคงไปหาที่อยู่ใหม่” นายสมศักดิ์ กล่าว