ซื้อตัวส.ส.งูเห่า เติม270เสียงพปชร.
ปฏิเสธอย่างไรก็ดูเหมือนจะไม่รอด สำหรับข่าวคราวที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปร่วมรับประทานอาหารกับ 2 แกนนำ พรรคพลังประชารัฐ "สมศักดิ์ เทพสุทิน" และ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ก่อนการอภิปรายประเด็นถวายสัตย์และการไม่แถลงที่มารายได้ของนโยบายรัฐบาลเมื่อวันก่อน
คนที่ดูเหมือนจะควันออกหูที่สุดหนี้ไม่พ้น “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุพาพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ถึงขั้นออกมาประกาศกร้าวว่า “คนของเพื่อไทยไม่ทรยศประชาชน” และเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการกับพวกที่ดูดส.ส.
เป็นการยืนยันว่า เกมดูดส.ส.ได้เริ่มต้นอีกครั้งเพื่อรับศึกใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้านั่นคือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน และพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2563 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพ.ย.นี้
ศึกครั้งนี้จะต่างไปจากการแถลงนโยบายหรือการซักฟอกนายกฯ เพราะจะต้องมีการลงมติและอาจมีผลในการชี้ชะตาของรัฐบาลไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งใด
ขณะที่ฟากฝั่งรัฐบาลเองเช็คเสียงดูแล้วตอนนี้อยู่ในสภาวะที่ปริ่มน้ำ มีเสียงเหลืออยู่เพียง 249 เสียง จากส.ส.ทั้งหมดในสภา498 คน ยังไม่นับรวมประธานและรองประธานอีก3คนที่งดออกเสียง ถือว่าอยู่ในระดับ “เส้นยาแดงผ่าแปด” และเป็นระดับที่อันตราย
เกมนี้จึงเป็นเกมที่ทางรัฐบาลประมาทไม่ได้เป็นอันขาด เพราะถ้าพลาดผลจะตกไปอยู่ที่ตัวนายกฯลุงตู่และรัฐบาลอย่างเต็มๆ
ดังนั้นการที่จะทำให้ฝั่งรัฐบาลอยู่ในสภาวะปลอดภัยได้ ฟังจากซุ่มเสียงจากแกนนำพลังประชารัฐ ลึกๆแล้วเป้าที่ทาง “ฝั่งรัฐบาล” ต้องการคือเสียงสนับสนุนเพื่อมาเติมให้ได้ 270 เสียงเพื่อให้นายกฯลุงตู่ และรัฐบาลอยู่ใน “เซฟโซน”
แต่เมื่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ส.ส.จะย้ายพรรคได้ใน2กรณีเท่านั้น คือ “ถูกยุบพรรค”และ “ถูกมติพรรคขับออก” ดังนั้นการที่ฝั่งรัฐบาลและพลังประชารัฐจะหาแต้มมาเติมให้ได้270เสียง จึงอยู่เกมซื้อใจส.ส.งูเห่าเท่านั้น
นับนิ้วดูตัวเลขที่เป็นข่าวคือประมาณ 20 คน แล้วเมื่อนำมารวมกับเสียงจากทางฝั่งรัฐบาลที่มีอยู่ก็ใกล้เคียง 270 เสียง พอดิบพอดี!!