ส่อวุ่นสมาชิก 'ชาติพัฒนา' จ่อออก 10 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา นายชนภัทท์ จันทรุเบกษา อดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม. รองโฆษกพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) บุตรชายของนายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผอ.พรรคชาติพัฒนา ได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นใบลาออกของ ตนเอง และบิดา

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า มีรายชื่อสมาชิกพรรค ชพน.ที่ลาออกอีกกว่า 10 คน อาทิ นายกริชชัย อรุณวงศ์ ณ อยุธยา นายสุทธิโรจน์ เจริญผล กก.บริหารพรรค นายยศพงษ์ นาทันรีบ เหรัญญิกพรรค ฯลฯ และคาดว่าสมาชิกพรรคที่นายชลิตรัตน์ ดูแลอยู่ ทั้งใน กทม. จ.กาญจนบุรี จ.ร้อยเอ็ด จะทยอยลาออกด้วยเช่นกัน

แหล่งข่าว ระบุว่า นายชลิตรัตน์ และนายชนภัทท์ ให้เหตุผลการลาออกกับทางพรรคว่า ต้องการออกไป เพื่อโฟกัสเรื่องธุรกิจสถาบันฝึกอบรมด้านการบิน ไทย เอวิเอชั่น หรือ ไทย เอวิเอชั่น อะคาเดมี่ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้นายชลิตรัตน์ และนายชนภัทท์ ลูกชาย ยังได้เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล และช่วยงานนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และช่วยสอนงานให้กับนางเยาวภา บุรพลชัย หรือวิว คณะทำงานและโฆษกพรรคชพน.บ่อยครั้ง แต่เหตุใดจึงลาออกจากพรรคอย่างกระทันหัน โดยไม่ได้ย้ายไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่นด้วย

วันเดียวกันนี้ นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ พร้อมเลขาธิการพรรคและกรรมการบริหารพรรค เข้าพบ พ.ต.ท. ภิรมย์ เมืองไสย สว.สอบสวน กก.1 บก.ป. ที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่อ้างว่า เป็นทนายความของพรรคที่เคยมาแจ้งความกับกองปราบ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.62 ที่ผ่านมา

นายมนูญ กล่าวว่า ตนเดินทางมาเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และแจ้งความดำเนินคดีเรื่องที่กลุ่มบุคคลดังกล่าว เข้าแจ้งความว่าเกิดอะไรขึ้น ที่ผ่านมาไม่เคยตอบโต้ เพราะคิดว่าให้อภัย ให้กลับเนื้อกลับตัว แต่ยังมีการดำเนินการที่เกินเลยมาตลอด จึงอยากให้ยุติการกระทำดังกล่าว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ถูกต้อง ประเด็นที่ระบุว่าพรรคสัญญากับผู้สมัคร ว่าจะให้เงินคนละ 1.5 ล้านบาทนั้น ตามกฎหมายทำไม่ได้ แล้วทางพรรคไม่เคยสัญญา

ขณะเดียวกัน ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นหนังสือถึงนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องจากกรณีที่นายจรูญ ไชยศร รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ขอให้สอบข้อเท็จจริงกรณีที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการใช้สื่อของรัฐเอื้อประโยชน์กับพรรคการเมืองในช่วงการเลือกตั้ง 

โดยเรียกร้องให้ พล.ท.สรรเสริญ ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อเปิดทางให้มีการสอบสวน เนื่องจากหลายฝ่ายมีความเป็นห่วง เรื่องความเป็นธรรมในการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพราะ พล.ท.สรรเสริญ มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับผู้มีอำนาจในบ้านเมือง หากไม่พบความผิด จึงจะให้กลับมารับราชการได้