คุก‘สุรพงษ์’2ปี ปมออกพาสปอร์ต ศาลชี้ป่วยหนัก‘รอลงอาญา-ปรับเพิ่ม’

คุก‘สุรพงษ์’2ปี ปมออกพาสปอร์ต ศาลชี้ป่วยหนัก‘รอลงอาญา-ปรับเพิ่ม’

“องค์คณะชั้นอุทธรณ์” พิพากษายืนโทษจำคุก2ปี “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” คดีออกพาสปอร์ต“ทักษิณ” ชี้ ป่วยหนักรอลงอาญา2ปี เพิ่มปรับ1แสนบาท ด้านกกต.ยกคำร้อง“เสรีรวมไทย-ปิยบุตร” ปมโพสต์ข้อความ ชี้ไม่เข้าข่ายทำให้เข้าใจผิด ขณะที่ “ชวน” ป้องกมธ.ยุติธรรม

วานนี้(9 ต.ค.) องค์คณะชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ คดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 จากกรณีออกหนังสือเดินทางให้กับนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี โดยมิชอบเนื่องจากนายทักษิณ ยังเป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับในคดีร่วมนปช.ก่อการร้าย และคดีอาญาอื่น ๆ

ทั้งนี้องค์คณะชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์  พิเคราะห์พยานหลักฐานต่างๆ แล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมส่วนหนึ่ง เนื่องจากการกระทำนั้นทำให้นายทักษิณ เกิดความสะดวกในการเดินทางไปทางไปต่างประเทศทั้งที่ศาลได้มีคำพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำคุกในคดีที่ดินรัชดาภิเษก และในขณะนั้นก็มีหมายจับในคดีอื่นๆจาก สตชด้วย จึงไม่มีเหตุลดโทษ

ส่วนที่จำเลยขอให้รอการลงโทษนั้น เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์ตามที่จำเลยได้อุทธรณ์ว่าระหว่างพิจารณาคดีได้ส่งผลต่อสุขภาพจำเลยมีอาการป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และไขมันในเลือดรวมทั้งมะเร็งซึ่งได้ลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองที่คอและท้อง ขณะเดียวกันจำเลยก็มีอายุมากแล้วจึงเห็นควรให้โอกาส องค์คณะฯจึงมีมติเสียงข้างมาก พิพากษาแก้เป็ว่า ให้จำคุกจำเลย 2 ปี โดยโทษจำคุกนั้นรอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี แต่ให้มีโทษปรับในความผิดนี้ด้วยเป็นเงิน จำนวน 100,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 มิ.ย 2561 ศาลได้มีคำพิพากษา เห็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 โดยให้จำคุกจำเลย2 ปี เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าการกระทำความผิดของจำเลยมีเจตนาช่วยเหลือนายทักษิณ ให้สามารถเดินทางในต่างประเทศได้สะดวกและเป็นผลบั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย จึงไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ

ต่อมานายสุรพงษ์ ได้ยื่นอุทธรณ์คําพิพากษาดังกล่าวต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกากระทั้งศาลมีคำพิพากษษดังกล่าวออกมาวานนี้ 

โดยนายสุรพงษ์สวมเสื้อผ้าชุดขาวนั่งรถเข็น สวมหน้ากากอนามัย , แว่นตาดำ และหมวกแก๊ปเดินทางมาพร้อม คนใกล้ชิด และทนายความ เพื่อฟังคำพิพากษา ซึ่งทางศาลได้จัดชุดเจ้าหน้าที่พยาบาลไว้เพื่อเตรียมความพร้อมกรณีมีเหตุฉุกเฉินด้วย

กกต.ยกคำร้องเสรีรวมไทย-ปิยบุตร

วันเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัยกกต.ที่ 130/2562 กรณีก่อนประกาศการเลือกตั้งกกต. ได้รับคำร้องว่า พรรคเสรีรวมไทย และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) จากกรณีโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊คซึ่งอาจเข้าข่ายใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง

โดยกกต. เห็นว่า ข้อความดังกล่าว มิได้ระบุถึงบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นการเฉพาะ และเนื้อหาของข้อความเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ยังไม่ถึงขนาดเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า พรรคเสรีรวมไทย และนายปิยบุตร กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) ตามคำร้องแต่อย่างใด จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

ชวนชี้กมธ.เรียกบุรินทร์แจงได้

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต่อประเด็นที่ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เข้าชื่อร้องขอส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยสมาชิกภาพของ6ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน จากรกรณีการการกระทำที่ใช้อำนาจแทรกแซงการทำงานข้าราชการหลังจากมีการเรียกพล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กอ.รมน.เข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนว่า ตนยังไม่เห็นเอกสาร แต่ตามระเบียบและข้อบังคับมีระบุขอบเขตเรื่องดังกล่าวไว้ ซึ่งที่หลายฝ่ายมองว่าอาจเป็นการใช้อำนาจเพื่อแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมหรือไม่นั้น ตนไม่เห็นประเด็นว่าได้แทรกแซงอย่างใด ทั้งนี้หากผู้ใดเห็นว่ากมธ. เชิญมาโดยไม่ถูกต้อง และเป็นการแทรกแซงการทำงานสามารถร้องเรียนมายังสภาฯ ได้

 

นาทีแจงหุ้นขึ้นทำทรัพย์สินเพิ่ม

ขณะที่นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ในฐานะคู่สมรสของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในช่วงเวลาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยทั้งคู่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 762 ล้านบาทว่า มูลค่าของทรัพย์สิน ขึ้นอยู่กับราคาหุ้นในบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ที่ประกอบธุรกิจค้าปลีกนํ้ามันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป ภายใต้ปั๊มนํ้ามัน PT ยืนยันว่า ไม่ได้กังวลกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ขอย้ำว่ามูลค่าทรัพย์สินไม่ได้มาจากส่วนอื่น แต่ขึ้นอยู่กับราคาหุ้น

ส่วนความคืบหน้าคดีแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จขณะนี้อยู่ในช่วงอุทธรณ์ ย้ำว่าไม่มีผลต่อการทำหน้าที่ส.ส.และบทบาทแม่ทัพภาคใต้ แน่นอน แม้ไม่มีตำแหน่งใดๆ ก็ยังทำงานเพื่อบ้านเมืองได้ ยืนยันที่ผ่านมา 14 ปี ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรก็ยังทำงานได้

ขีดเส้น3วันถกงบประมาณ

ความเคลื่อนไหวการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2563 ในวาระแรกในวันที่17ต.ค.นี้ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่ได้มีการพูดคุยกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แล้ว เบื้องต้นกำหนดวันประชุมเป็นวันที่ 17-19ต.ค. โดยในวันที่ 17 ต.ค.ครึ่งวันเช้า จะมีการพิจารณากฎหมายสำคัญก่อน และหลังจากนั้นช่วงบ่ายจะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณฯ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการประชุมเต็มที่แค่เพียง 3 วัน เนื่องจากในวันที่ 20 ต.ค.เป็นการประชุมวุฒิสภา

ด้านนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้เวลาฝ่ายละ 20 ชั่วโมง โดยฝ่ายค้านต้องนำเวลามาเฉลี่ยกันใน 7พรรคร่วม ในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีผู้แสดงเจตจำนงขออภิปรายมากถึง 70คน ทั้งนี้ในวันที่ 15-16 ต.ค. พรรคจะประชุมติวเข้มกันอีกครั้ง ส่วนข้อห่วงใยที่ส.ส.อาจจะไม่โหวตไปในทิศทางเดียวกัน เรื่องนี้เป็นวินัยของแต่ละพรรค ก่อนจะโหวตเราคงจะมีมติออกมาก่อน สมาชิกทุกคนต้องปฏิบัติ ถ้าใครออกนอกลู่ไป คงจะเจอสังคมตรวจสอบ แม้รัฐธรรมนูญให้เอกสิทธิในการโหวตต่อส.ส. แต่เรื่องนี้ถือเป็นวิธีปฏิบัติ

ส่วนนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่ารัฐธรรมนูญปี 60 เปิดโอกาสให้รัฐมนตรีที่เป็นส.ส.สามารถร่วมโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯได้ว่า ถ้าดูตามรัฐธรรมนูญแล้วก็คิดว่าจะสามารร่วมโหวตได้ แต่จะมีปัญหา คือเรื่องการมีส่วนได้เสียที่เขียนเป็นหลักการของรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะรัฐมนตรีเป็นผู้ร่างงบประมาณเองจะเข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ เรื่องนี้ในการอภิปรายสภาฯ คงต้องมีการหารือกันว่ารัฐมนตรีสมควรร่วมโหวตหรือไม่ แต่ส่วนตัวมองว่ารัฐมนตรีที่เป็นส.ส. ควรเฉยไว้

วิรัชยันรมต.โหวตงบฟ้องร้องไม่ได้

ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า้บื้องต้นได้จัดสรรเวลาให้ ส.ส.อภิปราย รวม 30 ชั่วโมง แบ่งเป็นของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 15 ชั่วโมง และ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน จำนวน 15 ชั่วโมงฝ่ายเท่ากัน ไม่รวมเวลาที่ ฝ่ายบริหารจะอภิปรายนำเสนอ จำนวน 2 ชั่วโมง ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีการประท้วงหรือจนเกินเวลานั้น เบื้องต้นจะหักเวลาที่จัดสรรคตามส่วนของฝั่งที่ประท้วง

เชื่อว่าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ​วาระแรกนั้นจะผ่านการพิจารณา ไม่มีปัญหา ส่วนกรณีที่ ส.ส.ซึ่งเป็นรัฐมนตรีจะลงมติได้หรือไม่นั้น เมื่อพิจารณาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 163 ประกอบมาตรา 124 ซึ่งกำหนดให้รัฐมนตรีมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในสภาฯ ตามเอกสิทธิ์โดยเด็ดขาด และผู้ใดจะฟ้องร้องไม่ได้ เห็นว่ารัฐมนตรีที่มีตำแหน่งส.ส.จะลงมติได้ ส่วนกรณีที่อาจมีผู้ไปฟ้อง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 เพราะแปรญัตติงบประมาณเพื่อประโยชน์ตนเองนั้น ตนไม่ทราบ