ปธ.ฎีกา-กก.สรรหา เลือก กสม.ชุดใหม่ครบ 7 คนแล้ว
"เลขาธิการ ปธ.ศาลฎีา" เผยที่ประชุม กก.สรรหาลงคะแนน 3 นอบเลือกจาก 21 คน รอเสนอ ส.ว.เห็นชอบ ส่วน กสม.ชั่วคราว ทำคู่ขนาน ปธ.ฎีกา-ปธ.ศาล ปค.สูงสุด ไม่นิ่งนอนใจ รอเลขาฯ สภา ส่งชื่อดู 31 ต.ค.นี้
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.62 ที่ศาลฎีกา สนามหลวง นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหา 'คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม.' เป็นประธาน ในการประชุมคณะกรรมการสรรหา กสม. ครั้งที่ 7/2562 ทั้งคณะรวม 10 คน ซึ่งมีวาระสำคัญในการพิจารณาลงมติเลือก ผู้มีคุณสมบัติและไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม ตาม มาตรา 8,9,10 พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.2560 เพื่อเสนอรายชื่อให้วุฒิสภา (ส.ว.) แต่งตั้งให้เป็น กสม.ชุดสรรหาใหม่ที่ยังขาดอีก 1 คน ให้ครบสัดส่วน 7 คนตามที่กำหนดไว้ใน มาตรา 8
โดยเมื่อเวลา 16.30 น.เศษ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการสรรหา กสม. แล้ว "นายสุรินทร์ ชลพัฒนา" เลขาธิการประธานศาลฎีกา ซึ่งได้รับมอบหมายจากประธานศาลฎีกา ฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ เปิดเผยถึงผลการประชุมวันนี้ว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ ครบทั้งคณะ 10 คน ที่พิจารณาเลือกบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.2560 เพื่อแต่งตั้งเป็น กสม.ชุดใหม่ ต่อจากชุดเดิมที่มีอยู่ (ชุดนายวัส ติงสมิตร) โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต่มกฎหมายบัญญัติไปแล้ว 6 คน เหลือที่ต้องคัดเลือกอีก 1 คนเพื่อให้ครบตามจำนวนที่กฎหมายบัญญัติไว้ให้มี 7 คน
ซึ่งวันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ ก็ได้ลงมติเลือกจากบุคคลที่มีชื่อผ่านคุณสมบัติเข้ามาทั้งสิ้น 21 คน โดยการลงมติเลือกวันนี้ก็สามารถที่เลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมได้ 1 คนครบตามจำนวนแล้ว โดยผ่านการลงคะแนน 3 รอบจากที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ ทั้งคณะ ทั้งนี้เมื่อกระบวนการคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามกฎหมาย จากที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาทั้งคณะเสร็จสิ้น ก็จะส่งรายชื่อให้ ส.ว. พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไปตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ส่วนกรณีที่นายวัส ติงสมิตร ประธาน กสม. เคยมีหนังสือถึงประธานศาลฎีกาในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ร่วมหารือกับประธานศาลปกครองสูงสุด กรรมการ ดำเนินการเลือกบุคคล 1 คน เพื่อให้มาทำหน้าที่ กสม.ชุดชั่วคราว ตามมาาตรา 60 วรรคท้าย ประกอบมาตรา 22 (เป็นการตั้งโดยประธานศาลฎีกา ปรึกษาหารือกับประธานศาลปกครองสูงสุด ที่มีผลได้ทันที) วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ ทั้งคณะ ก็ได้รับทราบรายงานที่ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ และประธานศาลปกครองสูงสุด กรรมการ ได้ร่วมปรึกษาหารือกันแล้วให้ “เลขาธิการวุฒิสภา” ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหาฯ ดำเนินการเสนอชื่อบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม เสนอต่อประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุด ภายใน 30 วัน คือวันที่ 31 ต.ค.นี้ เพื่อพิจารณากรณีที่นายวัส ประธาน กสม.เรียกร้องไว้
"เรื่องนี้ประธานศาลฎีกา และประธานศาลปกครองไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้ได้ กสม.ชั่วคราว เข้ามาเพิ่มเพื่อทำงาน และให้การดำเนินงานของ กสม.ชุดที่ยังมีอยู่ในปัจจุบันขณะนี้ไม่สะดุด"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคณะ กสม. ชุดนายวัส ติงสมิตร ถือเป็น กสม.ชุดที่ 3 ได้ปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่ ปี 2558 ซึ่งขณะนี้เหลือ กสม.มีปฏิบัติหน้าที่อยู่ 3 คนจากจำนวนทั้งหมด 7 คน โดยก่อนหน้านี้มี กสม.ในคณะได้ลาออกไปช่วงปี 2560 - 2562 รวม 4 คน ทั้งนี้ในการดำรงตำแหน่ง กสม.นั้น ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.2560 กฎหมายนั้นจะมีวาระ 7 ปี