ยก46ปี14ตุลา“บทเรียนผู้นำ” นายกฯส่งตัวแทนร่วมสดุดี

ครบรอบ 46 ปี เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ได้มีการจัดงานที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนิน แยกคอกวัว กทม. เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของประเทศไทย 

กิจกรรมในงาน เริ่มต้นในช่วงเช้าโดยมีพิธี 3 ศาสนา พุทธ-คริสต์-อิสลาม เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว และมีตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมวางพวงมาลา และกล่าวสดุดีวีรชนคนเดือนตุลา พร้อมญาติวีรชนผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ และประชาชนที่มาร่วมงาน

โดยผู้แทนวางพวงมาลาและกล่าวสดุดีวีรชน อาทิ นายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายก ในฐานะผู้แทนนายกรัฐมนตรี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้แทนประธานสภาผู้แทนราษฎร นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้แทนผู้นำฝ่ายค้าน นายศุภกฤต บุญขันธ์ รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ ในฐานะผู้แทนผู้ว่าฯ กทม. นายศุภสวัสดิ์ ชัชวาล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารท่าพระจันทร์และศูนย์พัทยา ในฐานะผู้แทน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายวัส ติงสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นต้น

นายณัฏฐชัย ผู้แทนนายกฯ กล่าวสดุดีวีรชน 14 ตุลา ว่า ในวันนี้ถือว่า เป็นวันครบรอบ 46 ปี 14 ตุลาคม 2516 เกิดเหตุการณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของประเทศไทย เป็นวันสะท้อนเจตนารมณ์และแสดงพลังของนิสิตนักศึกษาและประชาชน ที่เห็นคุณค่าของประชาธิปไตยว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองทัดเทียมนานาอารยประเทศ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อให้เกิดการพัฒนาการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ด้านนายองอาจ กล่าวว่า วีรชนในเหตุการณ์ดังกล่าวมีจิตใจที่กล้าหาญ กล้าเสียสละชีวิตของตนเอง หลายคนอาจมีชีวิตที่ยากลำบาก แต่สิ่งที่เหล่าวีรชนได้ทำลงไปยังอยู่ในความทรงจำของประชาชนตลอดไป ทั้งนี้ ในนามของประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา ขอสดุดีวีรกรรมอันกล้าหาญของวีชน 14 ตุลา ขอให้วีรชน 14 ตุลา อยู่ในความทรงจำและเป็นแบบอย่างบทเรียนที่ดีงามให้แก่ผู้ปกครองประเทศ และประชาชนที่รักหวงแหนในความชอบธรรมและประชาธิปไตย และความถูกต้องดีงาม ช่วยกันเอาบทเรียน 14 ตุลา มาเป็นแบบอย่างของการรักษาคุณธรรมความดีงาม ความถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศไทยตลอดไป

เพื่อไทยปลุกแก้รัฐธรรมนูญ

ส่วนนางลัดดาวัลลิ์ กล่าวว่า ตลอด 46 ปีที่ทุกฝ่ายร่วมรำลึกถึงคุณงามความดีของผู้ที่เสียสละในการปกป้องประชาธิปไตยและเสรีภาพของประชาชน ถือเป็นต้นแบบที่ดีงาม สืบทอดระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ยั่งยืนและยาวนาน การสร้างความยอมรับในการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีกติกาเป็นสากล จะสร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทยได้ 

ทั้งนี้ สิ่งที่ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านมองเห็นการที่ประเทศจะก้าวไปสู่ความเชื่อมั่นโดยเร็วนั้น จำเป็นจะต้องมีการบริหารที่เป็นสากลและประชาธิปไตย รวมถึงมีความเป็นธรรม ไม่เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงรณรงค์ให้มีการแก้ไขกติกาสำคัญของประเทศคือ กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่มีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขให้มีความเป็นธรรมและเพื่อประโยชน์ต่อคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

นศ.บุกทบ.แช่งเผด็จการพินาศ

ที่หน้ากองทัพบก สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) จัดกิจกรรมแขวนป้ายไล่เผด็จการ และกล่าวรำลึกเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 โดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นำกลุ่มผู้ชุมนุมมายังบริเวณเกาะกลางถนนหน้ากองทัพบก

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ขอให้สังคมช่วยกันตั้งคำถาม ถึงการใช้อำนาจของตำรวจ ตาม พ.ร.บ.การชุมนุม ทั้งนี้ การทำกิจกรรมในวันนี้เป็นการรำลึก 14 ตุลา ซึ่งผ่านไปแล้ว 46 ปี สถานการณ์บ้านเมืองวันนี้ถือว่าไม่ปกติ เมื่อ 46 ปีที่แล้ว โดยนักเรียนนิสิตนักศึกษาเรือนแสน เราต่อสู้กับเผด็จการ แต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ จนถึงวันนี้เรายังมีเผด็จการอยู่เหมือนเดิม จึงต้องออกมาขับไล่เหมือนเดิม

นอกจากนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ก็ออกมาให้ความคิดเห็นทางการเมืองอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งถ้าเป็นประเทศอื่นไม่สามารถทำอย่างนี้ได้ ไม่ใช่จะใส่เครื่องแบบมาให้ความเห็นทางการเมือง อย่างนี้ไม่ได้ ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

รัฐบาลรับมือถกงบมั่นใจผ่านฉลุย

สำหรับความเคลื่อนไหวการเตรียมความพร้อมการประชุมสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในวันที่ 17-19 ตุลาคมนั้น นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ไม่มีปัญหา พรรคร่วมรัฐบาลต้องพร้อมที่จะโหวตตลอดเวลา ขณะที่พรรคพลังประชารัฐจะประชุม ส.ส.วันที่ 15 ต.ค.เพื่อวางตัวส.ส.และซักซ้อม

นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ในฐานะประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในสถานการณ์ที่รัฐบาลเผชิญเสียงปริ่มน้ำจนหลายฝ่ายกังวลว่าร่าง พ.ร.บ.งบจะคว่ำนั้น ส่วนตัวเชื่อว่า ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด 253 เสียงจะลงมติครบถ้วน จนผ่านร่างงบประมาณได้ เนื่องจากเป็นกฎหมายสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ 

ในส่วนของส.ส.พรรคเล็ก หรือฝ่ายค้านอิสระนั้น ก็เชื่อว่าต่างมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าอะไรที่ดีเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศก็จะสนับสนุน อะไรไม่ดีก็ไม่สนับสนุน ไม่ได้มีพฤติกรรมตั้งท่าค้านไปทุกเรื่อง

วิปฝ่ายค้านดักนายกฯอย่าหนีสภา

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะหารือกันถึงกรอบเวลาและประเด็นในการอภิปรายในวันที่ 15 ต.ค.และในที่นี้ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญต่อที่ประชุมสภาฯด้วย ไม่ใช่แค่การมากล่าวเสนอหลักการและเหตุผล จากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแต่เพียงอย่างเดียว

“ในภาพรวมแน่นอนว่ารัฐมนตรีย่อมมีสิทธิในการชี้แจงต่อสภา แต่โดยมารยาทแล้วนายกฯ ไม่ควรทำเช่นนั้น เพราะกฎหมายเป็นงบประมาณสำคัญ ดังนั้น ฝ่ายค้านจะอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ ในสองสถานะด้วยกัน ได้แก่ ในฐานะนายกฯ ที่กำกับภาพรวมการบริหารประเทศ และในฐานะ รมว.กลาโหม ถ้าโอกาสอย่างนี้นายกฯ ไม่ให้ความสำคัญกับสภาแล้ว ก็ไม่รู้จะมาให้ความสำคัญตอนไหน นายกฯ ต้องนั่งอยู่สภาตลอดทั้งวันเลยทีเดียว”

มีรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้ให้ ส.ส.ลงชื่อแสดงความประสงค์ที่จะอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 โดยแบ่งเป็นประเด็นต่างๆ หลายด้านกว่า 70 คน

สำรวจรูปแบบ“นายกฯ”คุยปชช.

เพจเฟซบุ๊ก “ไทยคู่ฟ้า” ของรัฐบาล โพสต์ข้อความ วันที่ 14 ตุลาคม 2562 เพื่อสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนว่าอยากเห็นนายกรัฐมนตรีสื่อสารกับประชาชนในรูปแบบใด

“บอกเราหน่อย อยากเห็น PM Talk พูดคุยแบบไหน?” ขอ 1 ความคิดเห็น ไลฟ์สไตล์ คุยกับประชาชน สัมภาษณ์ หรืออื่นๆ 

ทั้งนี้ รายการ Government weekly ทางเพจเฟซบุ๊ก “ไทยคู่ฟ้า” เป็นรายการทอล์ค พูดคุยในประเด็นต่างๆ ซึ่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ออกรายการดังกล่าวแล้วเป็นครั้งที่สอง