อนาคต “ธนาธร-อนค.” กระแสลด-แฟนคลับหด-ส.ส.งูเห่า
อาฟเตอร์ช็อคจากผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 จ.นครปฐม ที่ พรรคอนาคตใหม่(อนค). หมายมั่นปั้นมือจะรักษาแชมป์ ยึดพื้นที่ กลับมาให้ได้ เพื่อพิสูจน์ว่า กระแสคนรุ่นใหม่-กระแสโซเชียลมีเดีย และกระแสของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนค. ยังแรงดีไม่มีตก
แต่ผลการเลือกตั้งกลับไม่เป็นอย่างที่ “ธนาธร-อนาคตใหม่” คาดคิดเอาไว้ เพราะเจ้าของพื้นที่เดิมไม่ยอมพลาดซ้ำสอง “เผดิมชัย สะสมทรัพย์” จากพรรคชาติไทยพัฒนา โกยแต้มนำม้วนเดียวรวด จากการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ที่ได้เพียง 12,279 คะแนน ทำแต้มเพิ่มมาอยู่ที่ 37,675 คะแนน เอาชนะ ไพรัฐโชติก์ จันทราขจร ที่ทำได้เพียง 28,216 คะแนน แบบทิ้งห่าง
โดย “ธนาธร-อนาคตใหม่” ปักใจเชื่อว่าเหตุผลสำคัญที่ทำให้พ่ายชัย เพราะ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นในวันพุธ แม้จะเป็นวันหยุดราชการ แต่หนุ่ม-สาวโรงงาน ซึ่งเป็นฐานเสียง-แฟนคลับ
ทว่าคะแนนของ “เผดิชัย” ที่ทิ้งห่าง “ไพรัฐโชติก์” เกือบ 10,000 คะแนน ทำให้ข้อโต้แย้งของ ธนาธร-อนาคตใหม่ ไม่มีน้ำหนักพอที่จะมาโต้แย้งหรือหักล้างได้มากพอ
ปัจจัยที่ทำให้ ธนาธร-อนาคตใหม่ พ่ายแพ้อย่างราบคาบ คือการถูกโดดเดี่ยวจาก พรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย (พท.) แม้หน้าฉาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย จะเดินคู่ขนานกับ ธนาธร เพื่อปลุกกระแสแก้รัฐธรรมนูญ 2560 แต่หลังฉาก ส.ส.เพื่อไทย ยังขบเหลี่ยมกันอยู่
มี ส.ส.เพื่อไทย-มวลชนคนเสื้อแดง ที่ก่อนหน้านี้คอยเป็นแบ็คอัพให้กับ อนาคตใหม่ สู้ศึกเลือกตั้ง 24 มี.ค. ในพื้นที่ที่ไม่มีผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยลงสมัคร เพราะต้องหลบให้กับผู้สมัครจาก พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) แต่กลับถูกยุบพรรคเสียก่อน โหวตเตอร์ที่เป็นแฟนคลับของ พรรคเพื่อไทย จึงหันมาเทคะแนนให้ อนาคตใหม่ แทน
เช่นเดียวกับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 จ.นครปฐม ที่การเลือกตั้ง 24 มี.ค. ไม่มีผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยลงชิงชัย คะแนนจึงถูกถ่ายเทไปให้ อนาคตใหม่ บวกกับกระแสโซเชียลมีเดีย จึงทำให้คะแนนของ อนาคตใหม่ ออกมาเยอะเกินคาด
ขณะเดียวกันการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ บรรดา “หัวคะแนนขาใหญ่” รู้อยู่เต็มออกว่าหากยังเทคะแนนให้ อนาคตใหม่ ก็ไม่เพียงพอที่จะพลิกสถานการณ์ได้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อช่องทางธุรกิจ ขอเลือกอยู่ข้าง ผู้ชนะ-รัฐบาล ไว้ก่อนย่อมปลอดภัยกว่า
นอกจากนี้ “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” แกนนำพรรคเพื่อไทย แม้จะอยู่ขั้วตรงข้ามกับรัฐบาล แต่ไมตรีที่มีให้ ตระกูลสะสมทรัพย์ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง สั่งให้ทายาททางสายเลือด “วัน อยู่บำรุง” ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ออกตัวตั้งแต่ไก่โห่ให้เทคะแนนให้ “ทีมบ้านใหญ่”
รวมถึงบรรดานักการเมือง “บิ๊กเนม” ที่มารวมสหบาทา อนาคตใหม่ ต่างขอเลือกยืนอยู่เคียงข้าง “เผดิมชัย” เกือบทั้งหมด จึงยากที่ ธนาธร-อนาคตใหม่ จะฝ่าดงโหดไปได้
หลังจากนี้เส้นทางในการสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมของ ธนาธร-อนาคตใหม่ จะยากขึ้นไปหลายเท่าตัว สนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 7 จ.ขอนแก่น แทนที่ นวัธ เตาะเจริญสุข ที่โดนศาลตัดสินประหารชีวิต คดีจ้างวานฆ่าปลัดอบจ.ขอนแก่น ซึ่งไม่มีทางที่ พรรคเพื่อไทย จะหลบให้ อนาคตใหม่ ได้ฉายเดี่ยวอีกแน่นอน
พื้นที่เขต 7 จ.ขอนแก่น ฐานเสียงของ นวัธ ค่อนข้างเหนียวแน่น ส่วนใหญ่นิยมตัว นวัธ มากกว่ากระแสของพรรคเพื่อไทย ส่วน อนาคตใหม่ คงต้อรอจับตาดูว่า จะส่งผู้สมัครรับการเลือกตั้งหรือไม่ เพราะหากไม่ยอมหลบฉากให้กับ พรรคเพื่อไทย แล้วลงไป ตัดคะแนน-แย่งฐานเสียง กันเอง มีโอกาสแพ้ให้กับ พรรคพลังประชารัฐ สูงมาก
และหาก อนาคตใหม่ ไม่ส่งผู้สมัครลงแข่ง อาจจะโดนกระแสตีกลับข้อหาเล่นคีย์เดียวกับ “นายใหญ่” โดนนำไปเปรียบเทียบกับ พรรคไทยรักษาชาติ ในฐานะพรรคนอมินี “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี มากยิ่งขึ้น
ขณะที่สถานการณ์ “งูเห่าสีส้ม” อาจจะมีออกมาให้เห็นอีก แม้จะไม่ใช่เวลาอันใกล้ แต่ภายใน พรรคอนาคตใหม่ เริ่มแตกเป็น 2 ฝ่าย ขีดเส้นแบ่งกันระหว่าง ส.ส.บัญชีรายชื่อ VS ส.ส.เขต มีหลายนโยบายที่มีความเห็นแตกต่างกันออกไป จนไม่สามารถประสานกันได้
ยิ่ง “ธนาธร-ปิยบุตร” เลือกเล่นเกมเสี่ยงเปิดหน้าแลก โหวตพ.ร.ก.โอนย้ายกำลังพล ยิ่งทำให้แยกมิตรออกไปเป็นศัตรูมายิ่งขึ้น ส่งผลให้ “งูเห่าสีส้ม” ถือกำเนิดขึ้นมา แม้จะมีการช้อนซื้อกันมาหลายครั้ง แต่ยังไม่มี “ส.ส.สีส้ม” ไม่ยอมกลายร่างเป็น “งูเห่า”
แต่เมื่อทอดระยะเวลาออกไป “ส.ส.เขต” ที่ต้องทำงานคลุกคลีในพื้นที่ ซึ่งค่อนข้างคาดหวังกับบทบาทของ “ส.ส.สีส้ม” กันสูงลิบ หากไม่สามารถช่วยเหลือตามที่ชาวบ้านร้องขอได้ โอกาสที่จะรักษาฐานเสียงเอาไว้มีจะยากขึ้น
ทางออกของ “ส.ส.สีส้ม” ท่ามกลางกระแสข่าวยุบพรรค จึงมีไม่มากหากต้องการกลับมาเป็น ส.ส.ในสมัยหน้า นอกจากกลายร่างเป็น “งูเห่าสีส้ม” โหวตสวนมติพรรค เอาใจขั้วรัฐบาล ให้ยอมช่วยเหลืองานในพื้นที่ เพราะทั้งหมดเป็น ส.ส.หน้าใหม่ คอนเนคชันยังไม่ปึกพอจะต่อกรกับเจ้าของพื้นที่เดิม
เมื่อถึงคราวก็ต้องเลือก แทงหวย ซึ่งมีอยู่แค่ 2 ทาง เลือกลาออกจาก ส.ส. เปิดโอกาสให้ เลือกตั้งซ่อม-ขยับบัญชีรายชื่อ หรือจะกดดันให้พรรคมีมติขับออกจากพรรค คงสถานะ ส.ส. เอาไว้ เพื่อหาพรรคใหม่สังกัด ซึ่งบรรดา “งูเห่าสีส้ม” รอวันพรรคขับออก
ขณะเดียวกัน “ธนาธร” ต้องรอลุ้นคดีถือหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย ซึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 20 พ.ย.นี้ หากศาลมีคำวินิจฉัยให้ “ธนาธร” มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย จะทำให้ความเป็น ส.ส. ของ “ธนาธร” จบลงทันที
แต่จะไม่จบเพียงแค่ตัวของ “ธนาธร” เพียงเท่านั้น เพราะ กกต. จะนำคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ ไปสอบเพิ่มเติม หากพบว่า “ธนาธร” รู้ว่าตัวเองขัดคุณสมบัติ แต่ยังกระทำผิดกฎหมาย มีโอกาสที่จะถูกส่งพิจารณายุบ พรรคอนาคตใหม่ ได้อีกช็อต
แต่คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพราะ กกต. จะต้องตั้งเรื่องฟ้องร้องใหม่ทั้งหมด เพื่อส่งให้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา
นอกจากนี้ยังมีปมเงื่อน เงินบริจาคพรรคการเมือง ที่บรรดาเครือญาติของ “ธนาธร” โผล่มาบริจาคให้กับ พรรคอนาคตใหม่ กันเกือบทุกคน ซึ่งคาดกว่ามีการเตรียมการเอาไว้ให้ยอดเงินบริจาคมีจำนวนสูง เพื่อนำไปใช้หนี้ที่ พรรคอนาคตใหม่ กู้ยืมจาก “ธนาธร” หวังใช้สู้กับเรื่องที่ถูกฟ้องร้องอยู่ในประเด็นดังกล่าว
แต่หวยกลับมาออกที่ “พรรณิการ์ วานิช” โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ที่แจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. มีเงินสดในบัญชีเพียง 90,000 บาท แต่กลับบริจาคให้พรรคอนาคตใหม่ 1 ล้านบาท อาจจะโดนป.ป.ช.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน กรณีแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จได้
ทั้งหมดคือวิบากกรรมของ “ธนาธร-อนาคตใหม่” ที่อยู่ในช่วงขาลงอย่างชัดเจน สถานการณ์ตอนนี้ กระแสลด-แฟนคลับหด-ส.ส.งูเห่า เผชิญโจทย์ยากที่จะฟื้นกลับมาได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-นายกฯ กล่อม 'สภาฯ' ผ่าน 'ร่างพ.ร.บ.งบฯ63' 3.2ล้านล้าน
-'7 ข้อควรรู้' งบประมาณ ปี 2563
-'ผู้นำฝ่ายค้าน' จี้ นำร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ทบทวนใหม่
-'ฝ่ายค้าน-รัฐบาล' อัด ร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ไม่ตอบโจทย์วิกฤตศก.