คุมตัว ‘สมคิด พุ่มพวง’ ทำแผนฆาตกรรมหญิงชาวขอนแก่น

เมื่อเวลา 11.55 น.วันที่ 19 ธ.ค.62 พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พนักงานสอบสวน สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น ได้คุมตัว นายสมคิด พุ่มพวง ผู้ต้องหาฆ่านางสาวนรัศมี มุลีจันทร์ หลังจากที่ได้มีการควบคุมมาสอบปากคำตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่า มีญาติของผู้เสียชีวิตและชาวบ้านในอำเภอกระนวนนับร้อยคน ได้เดินทางมายังลานหน้า สภ.กระนวน พร้อมถือป้าย “ประหาร” มายืนตะโกนเรียกร้องให้ประหารนายสมคิดอย่างเดียว

นายทองจันทร์ ด้วงขาว หนึ่งในชาวบ้านอำเภอกระนวน กล่าวอย่างโกรธแค้นว่า ตนเองไม่ได้เป็นญาติกับคนตายแต่เมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายใน อ.กระนวน ทำให้ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ขอท้าให้นายสมคิดออกมาชกกันตัวต่อตัว เพราะแค้นใจที่นายสมคิดมาทำร้ายคนได้อย่างไรตั้ง 5 ศพ 6 ศพ ญาติใคร ลูกใคร ใครก็รัก ปล่อยไว้ทำไมต้องประหารอย่างเดียวอยู่ไปก็เปลืองข้าว

ต่อมา พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้ออกมาแถลงความคืบหน้าและทำความเข้าใจ รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชน โดยกล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการนำตัวนายสมคิด จากจังหวัดนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ ที่ห้องรับรองปานรักษา กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้น ตำรวจได้นำตัวมาสอบปากคำต่อที่สถานีตำรวจภูธรกระนวน จนถึงเวลา 07.00 น. โดยจากการสอบปากคำ นายสมคิด มีท่าทีเครียด เป็นระยะ ๆ ก่อนที่ จะปฏิเสธทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ บ้านของผู้ตาย โดยอ้างว่า จะทำให้เกิดความเครียดและไม่อยากกลับไปเหยียบที่นั้นอีก

“จากการสอบปากคำตลอดทั้งคืน นายสมคิด ให้การรับสารภาพ ทุกข้อกล่าวหา ซึ่งการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ วันนี้ จะมีเพียง 2 จุด คือบริเวณหน้าวัดใหม่ชัยมงคล ซึ่งเป็นจุดที่นายสมคิดเดินเท้ามาจากบ้านเพื่อขึ้นรถโดยสารจากอำเภอกระนวน เข้ามาในอำเภอเมืองขอนแก่น อีกจุดที่ผู้ต้องหายินยอมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คือ บริเวณจุดจอดรถภายโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ก่อนที่จะหลบหนีไป หลังจากนี้ก็จะขออำนาจศาลฝากขังที่เรือนจำกลางขอนแก่น โดยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ตำรวจต้องตรึงกำลังอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันประชาชนจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์นายสมคิด”

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจกับประชาชนที่อยู่ในอารมณ์แค้นว่า ทางเจ้าหน้าที่เข้าใจความรู้สึกของพี่น้องประชาน ไม่ต่างจากเจ้าหน้าที่บ้านเมือง แต่ทางตำรวจต้องทำตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหามีสิทธิ์ที่จะไม่ยอมไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในบ้านที่เกิดเหตุ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพนักงานสอบสวนได้มีการจำลองเหตุการณ์สังหารนางรัศมี ภายในห้องสอบสวน บันทึกเป็นภาพทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน และจะทำคดีนี้ให้ดีที่สุด เพื่อทำนวนให้บรรยายให้ศาลเห็นถึงพฤติการณ์ที่โหดเหี้ยมของนายสมคิด โดยได้ตั้ง 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ และลักทรัพย์

ต่อมาตำรวจได้นำตัวนายสมคิด ออกจากห้องขัง สภ.กระนวน เพื่อไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดแรก ที่บริเวณร้านขายเนื้อวัวสด ตรงข้ามวัดใหม่ชัยมงคล อ.กระนวน ซึ่งเป็นจุดที่นายสมคิด มาขึ้นรถโดยสารเพื่อหลบหนีเข้า อ.เมืองขอนแก่น หลังฆ่าผู้ตายที่บ้านพัก โดยระหว่างคุมตัวขึ้นรถตู้ของตำรวจ ชาวบ้านนับร้อยที่มารออยู่หน้า สภ.กระนวน ต่างพากันสาปแช่ง และด่าทอนายสมคิด พร้อมกับตะโกนคำว่า “ประหาร ประหาร”

เมื่อมาถึงจุดทำแผนจุดแรก ร้านขายเนื้อวัวสด ตรงข้ามวัดใหม่ชัยมงคล อ.กระนวน ตำรวจได้นำตัวลงไปชี้จุดที่นายสมคิด นั่งรอรถโดยสาสายกระนวน - ขอนแก่น และพาขึ้นไปชี้จุดที่นายสมคิดขึ้นนั่งบนรถโดยสาร ซึ่งจุดนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ปิดกันถนนทั้ง 2 ด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านที่ต่างอยู่ในอารมณ์โกรธแค้นนายสมคิดเข้ามา แต่ปรากฏว่า ในระหว่างที่ตำรวจกำลังนำตัวนายสมคิดกลับขึ้นบนรถตู้ตำรวจ เพื่อไปทำแผนจุดที่ 2 ได้มีชาวบ้านเป็นชายคนหนึ่ง แวกวงล้อมตำรวจ แล้วใช้มือชกเข้าที่ศีรษะบริเวณท้ายทอยของนายสมคิด จนทำให้นายสมคิดถึงกลับเสียหลัก และหันกลับมาอุทานด่าคนที่ลงมือชก ส่วนผู้ที่ลงมือชกได้วิ่งออกจากจุดทำแผน พร้อมกับยกมือ 2 ข้างขึ้นท่าทางดีใจที่ได้ชกผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบนำตัวนายสมคิดเข้าไปในรถตู้ตำรวจ และขับออกจากจุดทำแผนทันที

ส่วนจุดทำแผนจุดที่ 2 คือ บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ ภายในโรงพยาบาลขอนแก่น ห่างจาก อ.กระนวน ประมาณ 50 กิโลเมตร จุดนี้เป็นจุดที่นายสมคิดนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายมาจอดไว้ ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.62 ก่อนจะเกิดเหตุฆาตกรรม โดยอ้างว่านำรถจักรยานยนต์มาซ่อม แต่ภายหลังก่อเหตุ นายสมคิดได้นั่งรถโดยสารจาก อ.กระนวน แล้วมาขับเอารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ใน รพ.ขอนแก่น หลบหนีไป โดยขับออกจากซอยข้างเรือนจำกลางขอนแก่น เลี้ยงซ้ายขึ้นถนนศรีจันทร์ แล้วมุ่งหน้าไปทาง จ.มหาสารคาม โดยขับรถจักรยานยนต์ไปตามถนนเส้น อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เข้าเขต อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งนายสมคิดอ้างว่าได้แวะตัดผม เพื่อป้องกันการจดจำตนเองได้ แต่เมื่อตำรวจพาไปกลับอ้างว่าจำร้านไม่ได้ ตำรวจจึงให้ชี้เส้นทางต่อไป ซึ่งเป็นเส้นทางที่ขับเข้าสู่เขต อ.เมืองมหาสารคาม โดยเส้นทางที่นายสมคิดใช้ เป็นถนน 2 เลน ที่ตัดผ่านชุมชนเล็กๆ และทุ่งนา เพื่อที่จะหลีกเหลี่ยงการถูกกล้องวงจรปิดบันทึกได้

จุดที่ 3 เป็นลานจอดรถจักรยานยนต์ ภายใน รพ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นจุดที่นายสมคิด นำรถจักยานยนต์มาจอดไว้ ก่อนที่จะเดินไปเติมเงินโทรศัพท์ที่ร้านสะดวกซื้อ ฝั่งตรงข้าม รพ.มหาสารคาม ซึ่งระหว่างทำแผนได้มีญาติคนไข้ และเจ้าหน้าที่ รพ.มหาสารคาม มายืนดูพร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายภาพ และภายหลังจากทำแผนจุดนี้แล้วเสร็จ ตำรวจได้คุมตัวขึ้นรถตู้ของตำรวจ เพื่อนำตัวไปทำแผนที่ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.บุรีรัมย์ ก่อนที่จะนำตัวกลับมาที่ จ.ขอนแก่น เพื่อขออำนาจศาลฝากขังพลัดแรกในวันพรุ่งนี้