'ธนาธร' ชำแหละงบ 63 ไม่ตอบโจทย์ปัญหาประเทศ
พรรคอนาคตใหม่ จัดเวทีเสวนาวิชาการหัวข้อ "อนาคตงบประมาณไทย อนาคตใหม่ประชาชน" ชำแหละงบปี 63 ไม่ตอบโจทย์ปัญหาประเทศ ชี้ถ้าเป็นรัฐบาล เชื่อมั่นว่าจัดทำงบประมาณ ได้ดีกว่านี้อย่างแน่นอน
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 63 ที่พรรคอนาคตใหม่มีการจัดเวทีเสวนาวิชาการหัวข้อ "อนาคตงบประมาณไทย อนาคตใหม่ประชาชน" โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวตอนหนึ่งว่า งบประมาณต้องเป็นกลไกหลักในการแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยประเทศไทยมีปัญหาหลัก 5 ข้อ 1.ความเหลื่อมล้ำ 2.สภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ 3.การใข้งบประมาณไม่มี 4.ระบบรัฐราชการรวม และ5.ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดังนั้น งบประมาณที่ดีควรจะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาตรงนี้
นายธนาธร กล่าวอีกว่า วิสัยทัศน์ของพรรคอนาคตใหม่ คือ คนไทยเท่าเทียมกัน ประเทศไทยต้องเท่าทันโลก การแก้ไขปัญหานี้ต้องเริ่มจากการจัดสรรงบประมาณ โดยต้องมีความมุ่งมั่น อำนาจ และฐานคิดใหม่ในการจัดสรรงบประมาณ หากพรรคอนาคตใหม่ได้เป็นฝ่ายบริหารจะจัดสรรงบประมาณบนฐานคิดใหม่ 4 ประการ 1.เน้นการใช้งบลุงทุน 2.ให้ท้องถิ่นตัดสินการใช้งบประมาณ 3.เปลี่ยนโครงการขนาดใหญ่ให้เป็นโครงการขนาดเล็กเพื่อตอบสนองประชาชนคนจนในพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ และ 4.จัดสวัสดิการถ้วนหน้า
"เรามีทรัพยากรเพียงพอที่จะสร้างสังคมที่ดีได้ โดยเงิน 3.2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.6 แสนล้านบาทต่อเดือน เป็น 8.7พันล้านบาทต่อวัน และคิดเป็น 6 ล้านบาทต่อนาที ดังนั้นด้วยทรัพยากรที่เรามีตรงนี้พาประเทศไทยไปไกลกว่านี้และสร้างสังคมที่ดีกว่านี้ได้ภายใต้ฐานคิดการจัดสรรงบประมาณแบบใหม่ 4 ประการ 3เดือนที่ผ่านมาเราทำงานกันอย่างทุ่มเท เพื่อปกป้องภาษีของประชาชน หลังจากนี้ต่อไป 1.นำข้อมูลที่ได้รับมานำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจในต้นเดือนก.พ.และ 2.ตั้งทีมตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐบาล เราจะทำงานอย่างมุ่งมั่นให้สมกับความไว้วางใจของทุกคน เราได้เรียนรู้มากมาย จึงขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันตรวจสอบการใช้งบประมาณ เราจะเดินหน้าต่อไปไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง" นายธนาธร กล่าว
ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการฝ่ายนโยบาย พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่งบประมาณประจำปีถูกพิจารณาโดยสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ ยังเป็นการพิจารณาภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายวินัยการเงินการคลังและกฎหมายวิธีการงบประมาณ เพื่อควบคุมการใช้จ่ายเงินของรัฐบาล เช่น การควบคุมการก่อหนี้ผูกพันในอนาคต และการกำหนดให้มีงบประมาณแบบบูรณาการอย่างเป็นทางการ เป็นต้น
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า สำหรับพรรคอนาคตใหม่ได้ตั้งทีมงานที่พิจารณางบประมาณหลายทีมและกลุ่นอาสาเข้ามาร่วมกันศึกษาเอกสารงบประมาณที่หมื่นประมาณหมื่นหน้า ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ได้เห็นความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างหน่วยงานที่มาชี้แจงกับกรรมาธิการวิสามัญที่เป็นส.ส. บางครั้งส.ส.ก็ตัวใหญ่มาก บางครั้งผู้มาชี้แจงก็ตัวใหญ่มาก อำนาจในการตัดงบประมาณจะอยู่ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ แต่หน่วยงานที่ถูกตัดงบประมาณสามารถอุทธรณ์มาได้ โดยการตัดงบประมาณของคณะกรรมาธิการวิสามัญนั้นเป็นการตัดเป็นสัดส่วนไม่ได้เป็นการตัดเป็นรายรายการ ทำให้โครงการที่ไม่มีความจำเป็นยังคงอยู่ต่อไป สำหรับการอภิปรายในวาระที่ 2 ที่เป็นรายมาตรา แม้ว่าเราจะอภิปรายได้ดีแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เพราะเป็นพวกมากลากไป อย่างไรก็ตาม พรรคอนาคตใหม่ก็ไม่ได้มีความท้อใจ เพราะการนำสิ่งเหล่านี้มาเล่าให้กับประชาชนก็อาจทำให้เกิดการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณและเปลี่ยนแปลงในอนาคตข้างหน้าได้ต่อไป
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า ในการพิจารณางบประมาณ คาดว่าจะมีเงินนอกประมาณมากถึง 8-8.5 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ต้องแจ้งและฝากและไม่ได้แจ้งและฝากไว้กับกระทรวงการคลัง เช่น เงินนอกงบประมาณของกองทัพอยู่ที่ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท เงินนอกงบประมาณเป็นเงินแผ่นดิน แต่พบว่ามีการใช้เงินนอกงบประมาณไปในหลายโครงการที่ไม่จำเป็น และสภาฯตรวสอบไม่ได้ ดังนั้น คิดว่าถึงเวลาแล้วควรมีการใช้กฎหมายวิธีการงบประมาณเคร่งครัด โดยเฉพาะมาตรา 10 (6) คือ รายงานเกี่ยวกับสถานะเงินนอกงบประมาณและแผนการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณโดยรวมของหน่วยรับงบประมาณ" นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การทำงบประมาณยังมีการใช้เงินงบกลางตามอำเภอใจ โดยเฉพาะเงินในส่วนรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ซึ่งสภาอนุมัติได้เพียงแต่กรอบวงเงิน โดยพบว่ามีการตั้งวงเงินไว้สูง แต่กลับมีการเบิกจ่ายในอัตราน้อยมาก ที่ผ่านมาในเรื่องของงบกลาง เราพูดปากเปียกปากแฉะแต่กลับแตะต้องไม่ได้เลย เหตุที่ไม่ยอมให้มีการตัดงบกลาง เพราะต้องการเอาเติมงบประมาณที่ถูกสภาปรับบลด เอาไปใข้ในโครงการประชานิยมและจัดซื้อตามอำเภอใตโดยไม่จำกัดวงเงิน ไม่มีการเปิดเผยถึงความจำเป็น
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า งบประมาณปี 2563 รัฐบาลได้กู้เงินประมาณ 4 แสนล้านบาท ทำให้ประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะเป็นปัจจัยที่จะพิจารณาถึงการตัดงบประมาณ ในกองทัพบกมีประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายงบประมาณเมื่อปีงบประมาณ 2562 น้อยเกินไป แต่กรรมาธิการวิสามัญบางคนพยายามแจ้งว่ากองทัพมีการเบิกจ่ายถึง 99.1% โดยระบุว่ากองทัพมีการใช้เงินในรูปแบบจีทูจีด้วย แต่กลับไม่ได้มีการแสดงหลักฐานดังกล่าวแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ไม่เพียงแต่จะเบิกจ่ายไม่มีประสิทธิภาพแล้ว กลับมีการโอนรายการใช้จ่ายงบประมาณด้วย
"การซื้ออาวุธ โดยหลักเมื่อซื้อแล้วไม่มีใครอยากใช้ แต่ต้องมีไว้เพื่อความพร้อม อย่างไรก็ตา เมื่อซื้อมาเวลาหนึ่งอาจจะเป็นอาวุธที่ล่าสมัย ดังนั้น การซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ควรต้องใช้นโยบายการจัดซื้อแบบชดเชย คือ การที่ผู้ขายจะต้องนำเสนอกิจกรรมบางอย่างที่เป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมของผู้ซื้อด้วย รัฐบาลชุดนี้มีการตั้งบประมาณ 2 หมื่นล้านบาทเพื่อซื้อเรือดำน้ำอีก 2 ลำจาจีน ซึ่งใกล้เคียงกับอินโดนีเซีย แต่อินโดนีเซียใช้นโยบายดังกล่าวในการจัดซื้อ จนมีการส่งวิศวกรไปศึกษาเทคโนโลยีที่เกาหลีใต้ในฐานะประเทศผู้ขาย จนทำให้ในอนาคตอินโดนีเซียอาจจะเป็นประเทศที่ผลิตเรือดำน้ำได้เอง จึงคิดว่าประเทศไทยควรใช้วิธีการจัดซื้อแบบนี้ พรรคอนาคตใหม่อาจจะอยู่ไม่เป็น แต่ถ้าเราเป็นรัฐบาล ยืนยันได้ว่าเราซื้อเป็นแน่นอน
นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เม็ดเงินงบประมาณเป็นรวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลางเป็นหลัก โดยงบประมาณส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายประจำ ซึ่งโดยหลักแล้วควรจะลด เพื่อไปเพิ่มงบลงทุนแทน งบประมาณหลายรายการไม่มีความจำเป็นและไม่เกิดการพัฒนาประเทศ เช่น การซื้ออาวุธ หรือ การก่อสร้างบ้านพักข้าราชการ เป็นต้น
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ประเทศของเรามีเงิน แต่ใช้เงินไม่ฉลาดเท่าไหร นโยบายรัฐบาลเหมือนดาวล้านดวง มีแต่คำพูดสวยหรู แต่คนจับดาวคนละดวง โดยไม่ได้จับดาวเหนือร่วมกัน ทำให้ไม่มีการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน โครงการประชารัฐอาจจะมีดีหรือไม่ดีบ้างแต่ถึงที่สุดแล้วไม่ควรมีการใช้เงินงบประมาณเพื่อประโยชน์ในทางการเมือง หรือเอื้อประโยชน์ให้กับทุนใหญ่ เป็นการจัดงบประมาณแบบไม่อยากพัฒนา
"ถ้าเราเป็นรัฐบาลจะเข้าไปปรับแผนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาชัดเจน และให้เงินและอำนาจกับท้องถิ่นเพื่อให้เกิดการใช้เงินที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อทุกคน เราเชื่อมั่นว่าถ้าเราเข้าไปจัดทำงบประมาณ เราจะทำได้ดีกว่านี้อย่างแน่นอน" นายสุรเชษฐ์ กล่าว