ร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ส่อโมฆะ ปม 'ส.ส.ภท.' ให้คนอื่นกดบัตร-ลงคะแนนแทน
"นิพิฎฐ์" เชื่อ ร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ส่อโมฆะ หลังพบ ส.ส.ภท. ให้คนอื่นกดบัตร-ลงคะแนนแทน ย้ำไม่ต้องการสร้างปัญหาให้รัฐบาล พร้อมแนะทางออก แต่ต้องเชิญไป ปัดล้างแค้น "ฉลอง" คู่แข่งเลือกตั้ง เหตุต้องตรวจสอบการทำงาน ส.ส.
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 63 นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงที่รัฐสภาต่อการตรวจสอบพฤติกรรมของ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ที่ให้บุคคลอื่นเสียบบัตรแสดงตนและกดลงคะแนนแทน ในระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วาระสอง ตั้งแต่มาตรา 39 วันที่ 10 มกราคม เวลา 20.30 น.จนถึงการลงมติวาระสาม วันที่ 11 มกราคม เวลา 17.34 น. เนื่องจากมีหลักฐานพบว่าช่วงระยะเวลาดังกล่าว นายฉลอง ไม่อยู่ในห้องประชุมสภาฯ เพราะเดินทางไปยัง จ.พัทลุง เพื่อร่วมงานวันเด็กของเทศบาลตำบลอ่างทอง อ.ศรีนครินทร์ และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ชะมวง อ.ควนขนุน ซึ่งปรากฎภาพในเฟซบุ๊กขององค์กรท้องถิ่นดังกล่าว และระบุเวลาที่นายฉลองร่วมงาน พร้อมมอบรางวัลให้กับเด็กที่มาร่วมงาน
“ผมไม่กล่าวหาว่าใครเป็นผู้กดบัตรแทนกัน แต่เรื่องนี้ถือว่าเป็นการกระทำของ ส.ส. ที่ไม่ชอบและฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รวมถึงจะส่งผลให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2563 ที่สภาฯ ลงมติวาระสองและเห็นชอบวาระสามนั้น เป็นโมฆะเมื่อเทียบกับคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่ชี้ขาดว่าร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ.เป็นโมฆะ เพราะตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายเนื่องจากพบพฤติกรรมของ นายนริศร ทองธิราช สมัยเป็น ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ใช้บัตรแสดงตนและออกเสียงแทน ส.ส.คนอื่น แต่กรณีของ นายฉลอง นั้นถือว่าร้ายแรงกว่ากรณีของ นายนริศร มาก ทั้งนี้ ผมไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับรัฐบาล หรือสร้างความขัดแย้งกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่เรื่องนี้ต้องทำให้ถูกต้อง เพราะจะมีปัญหาต่อการนำร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ขึ้นทูลเกล้าก่อนการประกาศใช้ได้” นายนิพิฎฐ์ กล่าว
นายนิพิฎฐ์ กล่าวว่า กรณีที่ตรวจสอบพบ ส.ส.กดบัตรแทนกันนั้น ตนจะไม่ยื่นเรื่องให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เพื่อตรวจสอบ แต่เมื่อรับทราบแล้วขึ้นอยู่กับดุลยพินิจที่จะดำเนินการ ส่วนกรณีดังกล่าวอาจถูกฝ่ายค้านขยายผลทางกฎหมายไปยังรัฐบาลหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ แต่กรณีที่เกิดขึ้นตนมองว่ามีทางออกที่แก้ไขได้ 2-3 ทางและตนพร้อมให้ความเห็นกับรัฐบาลแต่ต้องเชิญตนไปให้ความเห็น ขณะเดียวกัน พรรคภูมิใจไทยต้องให้ความร่วมมือกับการแก้ปัญหาครั้งนี้ด้วย เบื้องต้นแนวทางที่ตนจะเสนอ อาทิ ให้ถอนการลงคะแนนของ นายฉลอง ออกจากคะแนนการลงมติ ซึ่งวุฒิสภาอาจส่งร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ให้สภาฯ กลับไปแก้ไขในขั้นตอนทางธุรการ แต่ความเห็นของตนนั้นอาจจะไม่ตรงกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้
“กรณีที่ผมตรวจสอบ นายฉลอง นั้นไม่เกี่ยวกับความแค้นส่วนตัว แต่เป็นการตรวจสอบการทำหน้าที่ของ ส.ส. ซึ่งผมขอฝากไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วยว่า ทำไมถึงไม่เร่งกลั่นกรอง ส.ส. เข้าสู่สภาฯ เพราะเรื่องที่ผมยื่นให้ตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้งถือเป็นเรื่องแรกๆ ที่ยื่นต่อ กกต. และเมื่อ กกต. ไม่ตรวจสอบ กลั่นกรองทำให้ ส.ส. ที่มีปัญหา เข้ามาสร้างปัญหาในสภาฯ ส่วนการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อให้พิจารณาการกระทำของ นายฉลอง นั้น ส.ส.สามารถเข้าชื่อกันได้ หรือบุคคลภายนอก อย่าง นายศรีสุวรรณ จรรยา สามารถยื่นเรื่องตรวจสอบได้” นายนิพิฎฐ์ กล่าวย้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่คาดว่า ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 มีปัญหาด้วยความชอบของรัฐธรรมนูญ ส.ว.ต้องหยุดการพิจารณาหรือไม่ นายนิพิฎฐ์ กล่าวว่า ตนไม่กล้าเสนอแนะเรื่องดังกล่าว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่ามีปัญหาและต้องแก้ไขให้ถูกต้อง เพราะขั้นตอนที่เกิดขึ้นล่าสุดนั้น ยังไม่ถึงขั้นตอนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ดังนั้นต้องแก้ไขให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดกรณีที่นำร่างกฎหมายที่มีปัญหาให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย