'ฝ่ายค้าน' ระบุ 'ธรรมนัส' รับโควต้าหวย80ล้านฉบับ-หาเงินเลี้ยงคน
“ฝ่ายค้าน” ระบุ “ธรรมนัส” รับโควต้าหวย80ล้านฉบับ-หาเงินเลี้ยงคน สันนิษฐาแจ้งบช.เท็จ มีเงินค่าหวยเดือนละ 3 ล้าน แต่เชื่อมีเงินมากกว่าเดือนละ 300 ล้านบาท ด้าน “พท.” จ่อใช้ปมพักบ้านหลวง ยื่นศาลรธน. เอาผิด “ประยุทธ์"
เมื่อวันที่ 26 ก.พ.63 การประชุมญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ยังเป็นการอภิปรายในประเด็นไม่ไว้วางใจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ยังเน้นการอภิปรายความล้มเหลวของการบริหารราชการแผ่นดิน ขาดภาวะผู้นำ และมีพฤติกรรมที่ไม่อาจยอมรับให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อไปได้
ตอนหนึ่งของการอภิปราย ของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายย้ำถึงพฤติกรรมของนายกฯ ที่ระบุให้ฝ่ายต่างๆ เคารพกฎหมายและปฏิบัติตามกฎหมาย ขณะที่นายกฯ กลับละเว้นการปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่ง มือถือสาก ปากถือศีล เป็นสิ่งที่นายกฯ ทำตรงข้ามกับการมีคุณธรรม
จากกรณีที่นายกฯ ยังพักอาศัยบ้านหลวงที่จัดให้ข้าราชการซึ่งรับตำแหน่งอาศัยเท่านั้น แต่พล.อ.ประยุทธ์เกษียณอายุราชการตั้งแต่ปี 2557 ยังพบว่าได้อาศัยอยู่บ้านพักหลวง ขณะที่บ้านพักส่วนตัวของนายกฯ มีแต่ไม่ยอมไปอาศัย กรณีดังกล่าวถือว่านายกฯใช้บ้านหลวง พร้อมน้ำและไฟหลวงฟรีตลอดการใช้งาน ขณะที่ข้าราชการซึ่งเกษียณอายุราชการแล้วต้องออกจากบ้านหลวงทันที ทั้งนี้กรณีดังกล่าวตนเตรียมส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนุญวินิจฉัย ความเป็นนายกฯสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) และ (5) ประกอบมาตรา 184 ว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (3) ว่าด้วยข้อห้ามไม่รับเงินหรือประโยชน์ใดจากหน่วยราชการ หน่วยงานรัฐในธุรกิจการงานปกติ
ขณะที่การอภิปรายของนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ต่อกรณีที่แต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม และขัดต่อการเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ทั้งกรณีที่ถูกถอดยศ จาก ร.ท. เพราะหนีราชการ และมีพฤติกรรมแจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อรายได้ที่จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล เดือนละ 3 ล้านบาท ทั้งที่ข้อเท็จจริงที่ตนค้นคว้า พบว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่มีโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล
หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการกองสลากฯ ปี 2558 เพื่อแก้ปัญหาสลากฯ ขายเกินราคา โดยขายสลากให้ผู้ค้าโดยตรงผ่านธนาคารกรุงไทย ทำให้บริษัทที่มีร.อ.ธรรมนัสเป็นหุ้นส่วนซึ่งรับโควค้าสลาก ถูกริบโควต้า ดังนั้นร.อ.ธรรมนัสไม่ควรมีรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งตนเชื่อว่าร.อ.ธรรมนัส แจ้งบัญชีทรัพย์สินที่เป็นเท็จ
นายนิคม อภิปรายด้วยว่าส่วนรายได้ที่ ร.อ.ธรรมนัส แจ้งรายได้ต่อป.ป.ช. เดือนละ 3 ล้านบาทตนเชื่อว่าข้อเท็จจริงมีรายได้สูงกว่านั้น โดยจากการตรวจสอบพบว่าราคาต้นทุนของสลากฯ ต่อใบอยู่ที่ 75 บาท ส่วนผู้ค้าจะได้กำไรใบละ 5 บาท ขณะที่นายทุนที่ค้าสลาก เชื่อว่าจะมีกำไรใบละ 25 บาท
“ผมถามว่าหากอยากได้จะทำอย่างไร เขาตอบว่าให้ไปถามบิ๊กป้อม ยุคนี้พิมพ์จำนวนสลากต่องวดละ 100 ล้านฉบับ จากเดิมพิมพ์ 60 ล้านฉบับ และการเพิ่มพิมพ์สลากที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาเล่าว่าจัดสรรให้ ร.อ.ธรรมนัส ดูแลจำนวน 80 ล้านฉบับ ซึ่งผมเชื่อว่าหากนำไปขายจะทำให้กำไรกว่า 300 ล้านบาท และนำเงินที่ได้เพื่อดูแลคนตรงนี้ ส่วนเรื่องนี้จะจริงหรือไม่จริงต้องชี้แจงมา” นายนิคม อภิปราย