'ประยุทธ์' ชี้นศ.ถูกชักชวน-ฟังความข้างเดียว ลั่นชุมนุมได้แต่อย่าหมิ่นสถาบันจะเกิดเรื่อง

รัฐสภา - 27 ก.พ.63 เวลา 09.30 น. นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยภาพรวมการประชุมใช้เวลาอภิปรายไปแล้ว 23.21 ชั่วโมง

สำหรับกรณี ส.ส.ที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นและอาจได้รับเชื้อโควิด 19 นั้น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้สั่งการให้หามาตรการแก้ไขเร่งด่วน โดยในช่วงเช้าสำนักบริการทางการแพทย์และสำนักรักษาความปลอดภัยได้ประสานแพทย์โรงพยาบาลบำราศนราดูรตรวจสอบโรค ส.ส. คนดังกล่าว ส่งตัวเข้ารับตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้ว แพทย์ไม่รับตัวไว้เนื่องจากไม่มีอาการไข้ โดยให้รอฟังผลตรวจในวันนี้ (27 ก.พ.) นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำความสะอาดพื้นที่ภายในอาคารรัฐสภาโดยรอบอย่างเคร่งครัดแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายศุภชัยได้เปิดให้ส.ส.หารือในมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด 19 โดยส.ส.ของพรรคเพื่อไทยหลายคนเสนอให้สภาฯขอความร่วมมือกรรมาธิการให้งดหรือเลื่อนการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ หรือมีคำสั่งห้าม ส.ส.ที่เดินทางไปประเทศเสี่ยงเข้าร่วมการประชุมสภาฯ และขอให้ตรวจสอบรัฐมนตรี 3 คน ที่เดินทางไปยังประเทศเสี่ยง โดยขอให้ไปตรวจคัดกรองให้เกิดความมั่นใจ ทำให้นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ นำใบรับรองผลตรวจคัดกรองจากโรงพยาบาลมายืนยันว่า ส.ส. พลังประชารัฐที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง ไม่ได้ป่วยเป็นโควิด 19 จากนั้นนายขจิต ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ขอหารือข้อกังวลการละเมิดสิทธิการชุมนมของกลุ่มนักศึกษาหลายสถาบันที่รวมตัวแต่งดำ โดยกังวลว่าอาจรุนแรงบานปลายซ้ำรอยเหตุการณ์ตุลาคม 2516 และตุลาคม 2519

ทางด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงว่า รัฐมนตรีที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงได้เข้ารับการตรวจที่ รพ.บำราศนราดูรแล้วไม่พบอาการ และได้กำชับให้ระวังตัวเองในการอยู่ใกล้บุคคลอื่น โดยแพทย์นัดตรวจเป็นระยะตลอดเวลาที่เชื้ออาจฟักตัว ปัญหาคือคนที่ไม่แจ้ง โดยรัฐบาลเห็นพ้องเรื่องการลดการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ ให้เปลี่ยนมาเป็นการประชุมในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศ

ส่วนกรณี นิสิตนักศึกษาชวนรวมตัวแต่งดำประท้วง ส่วนตัวมองว่าเด็กอาจถูกชักชวนโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกปลุกจากการฟังความข้างเดียว จึงขอให้รับฟังข้อมูลรอบด้านก่อนตัดสินใจว่าจะเชื่อข้อมูลจากฝ่ายใด กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ ตนไม่ได้ขู่ หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจากกลุ่มสีใด ในวันนี้ก็ยังเป็นคดี เหตุการณ์ในปี 2553 คนออกมาเพื่ออะไร ตนพูดเพราะเป็นห่วงอนาคต ไม่ได้โกรธเด็ก ลูกๆหลานๆ ยืนยันว่าไม่มีผู้บังคับบัญชาคนใดสั่งการให้ปะทะเว้นแต่เพื่อป้องกันตัวเอง จึงขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย

ถ้าเขาไม่ทำก็จะกลายเป็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ตำหนิคนที่ไปชักชวน ที่สำคัญขณะนี้มีการนำประเด็นหมิ่นสถาบันเข้าไปขับเคลื่อน ถ้าเห็นว่าทำถูกต้อง ก็ต้องว่ากันด้วยกฎหมาย ตนเชื่อมั่นว่าในสภาฯแห่งนี้ และส.ส.ทุกคนเคารพสถาบัน กรุณาอย่าทำโดยเด็ดขาด เพราะถ้าไปถึงจุดนั้นจะเกิดเรื่อง

จากนั้นนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้เวลาในการอภิปรายเหลือเพียง 7.38 ชั่วโมง โดยฝ่ายรัฐบาลเหลือเวลา 4.22 ชั่วโมง ฝ่ายค้านเหลือเวลา 3.16 ชั่วโมง และคาดว่าการประชุมจะเสร็จก่อนเวลา 19.00 น.

ส่วน ส.ส.ที่กลับจากประเทศเสี่ยงตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. กลับมาเที่ยวบินเดียวกับภรรยาของ ส.ส. ฝ่ายค้านที่ผ่านมาไปรับการตรวจหลายครั้งที่โรงพยาบาล และเมื่อเพื่อน ส.ส. มีความไม่สบายใจก็ไปตรวจซ้ำที่รพ.บำราศนราดูร ในวันนี้ ส.ส. คนดังกล่าวก็ไม่มาเข้าประชุม ถ้าติดโรคกลับมาก็คงติดกันทั้งสภาฯแล้ว

ทั้งนี้ในประเด็นโควิด 19 นายศุภชัยวินิจฉัยให้ยึดความเห็นของแพทย์เป็นหลัก หากแพทย์สั่งกักตัวก็ต้องไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ ขาดไปเสียงเดียวคงไม่เสียหายอะไร ต่อมา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อได้ ขอหารือเพื่อขยายเวลาการประชุมจากเดิมที่จะปิดในเวลา 19.00 น. เป็นก่อนเวลา 24.00 น. โดยนายศุภชัยแนะนำให้วิปพรรคร่วมรัฐบาลและวิปพรรคร่วมฝ่ายค้านไปหารือแล้วนำมติมาแจ้งต่อที่ประชุมสภาฯ