ขยายผล 'กักตุนหน้ากากอนามัย' เรียก 'พิตตินันท์-โรงงาน' สอบ

ขยายผล 'กักตุนหน้ากากอนามัย' เรียก 'พิตตินันท์-โรงงาน' สอบ

ตร.ขยายผลคดีกักตุนหน้ากาก เรียกสอบ พิตตินันท์-2เจ้าของโรงงาน ย่านหนองแขม-มีนบุรี ธรรมนัสอ้างการเมืองใส่ร้าย ยันความจริงใกล้กระจ่าง ขณะที่สธ.ยันเร่งกระขายหน้ากากสำหรับบุคลากรทางการแพทย์240,000 ชิ้น มั่นใจจำนวนเพียงพอ

ความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี หรือ เสี่ยบอย ซึ่งมีการอ้างว่าสามารถจัดหาหน้ากากอนามัยได้มากกว่า 200 ล้านชิ้น และมีการโยงไปถึง

นายพิตตินันท์ รักเอียด คณะทำงานร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์

วานนี้ (10มี.ค.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนประชุมเพื่อสอบถามความคืบหน้าผลการเข้าตรวจค้น 6 จุดเป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพฯ และจ.ชลบุรี เพื่อหาความเชื่อโยงกับนายศรสุวีร์ พร้อมมอบหมายให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนติดตามความคืบหน้าเพิ่มเติมในประเด็นที่สงสัยต่างๆ โดยเฉพาะบุคคลที่มีการอ้างอิงถึงขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อขอให้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายศรสุวีร์ ว่ามีการทำธุรกรรมใดเข้าข่ายผิดปกติน่าสงสัยหรือไม่ ส่วนประเด็นที่นายศรสุวีร์ถ่ายภาพคู่กับตำรวจหลายนาย และพบว่าเป็นภาพในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งที่นายศรสุวีร์ไปขอถ่ายภาพด้วยโดยอ้างว่าเพื่อเป็นที่ระลึก

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเรียกนายพิตตินันท์สอบปากคำในประเด็นเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนายศรสุวีร์แต่ยังไม่จำเป็นต้องเรียก ร.อ.ธรรมนัส มาให้ปากคำ เนื่องจากไม่มีภาพปรากฏในเฟซบุ๊กของและยังไม่พบว่ามีโพสต์ใดที่อ้างถึง

นอกจากนี้ในส่วนเจ้าของบริษัทเอกชนย่านหนองแขม จะเรียกมาสอบถามประเด็นเรื่องการทำธุรกิจที่ให้การว่า เคยส่งขายหน้ากากอนามัยให้ทางการจีนในช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 ระยะแรกๆ ส่วนเจ้าของโรงงานย่านมีนบุรี จะซักถามในประเด็นที่มีการตรวจพบหน้ากากอนามัย 500,000 ชิ้นในโรงงาน ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เตรียมส่งขายให้ลูกค้า ซึ่งเป็นร้านขายยา 3,000-4,000 ร้านค้า จริงหรือไม่ ซึ่งทั้งบริษัทเอกชนและโรงงานดังกล่าวตำรวจจะประสานข้อมูลให้กรมการค้าภายในตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด

ด้านพ.ต.ท.กฤช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รองผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. กล่าวยืนยันว่า เมื่อคืนวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้สอบปากคำและพิมพ์ลายนิ้วมือ นายศรสุวีร์เป็นที่เรียบร้อย พร้อมแจ้งข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก่อนจะปล่อยตัวชั่วคราวไป

จุรินทร์ส่งทีมร่วมตรวจสอบ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีดังกล่าวว่าว่า มี 3 ข้อหาที่กระทรวงพาณิชย์ต้องเข้าไปร่วมดำเนินการสอบสวน คือ 1. หากมีครอบครองหน้ากากอนามัยจำนวน 200ล้านชิ้นจริง หรือจำนวนเท่าไหร่ก็ตามที่อยู่ในครอบครองตามที่กฎหมายกำหนดห้าม จะต้องแจ้งการครอบครองซึ่งหากไม่แจ้งจะต้องผิดกฎหมาย 2. การจำหน่ายเกินราคา 3. ค้ากำไรเกินควร

ตนได้กำชับว่าจะต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย เพราะเกี่ยวพันไปถึงเรื่องการส่งออก เพราะต้องขออนุญาตและขณะนี้ยังไม่มีนโยบายให้ส่งออกได้ ดังนั้นถือเป็นการลักลอบส่งออก ส่วนผู้กระทำผิดแอบอ้างว่าความใกล้ชิดกับรมช.เกษตรและสหกรณ์ ชยังไม่มีข้อมูล แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากกระทำผิดกฏหมายก็ต้องดำเนินการ

อย่างไรก็ดียืนยันว่าปัญหาขาดแคลนหน้ากากในส่วนกระทรวงพาณิชย์จะจัดสรรไปยังร้านขายยา และร้านสะดวกซื้อ รวมถึงกลุ่มเสี่ยงอื่นที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ซึ่งถ้าในส่วนของสถานพยาบาลไม่เพียงพอก็ต้องปรับสัดส่วน โดยได้มีการประชุมร่วมกันทุกวันอยู่แล้ว

ธรรมนัสอ้างการเมืองใส่ร้าย

ด้านร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่ากรณีที่นายพิตตินันท์ถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับบุคคลที่มีการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้น ล่าสุดมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนแต่เบื้องต้นตนได้ปลดออกจากคณะทำงานไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมาแล้ว.

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นตอนนี้ความจริงปรากฎออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการขยายผลแล้ว เดี๋ยวก็จะรู้ว่าใบออเดอร์สินค้ามีจริงหรือไม่ และอยู่กับใคร เราติดตามตรงนี้ดีกว่า รอพิสูจน์ความจริง อีกไม่นาน ซึ่งตอนนี้ก็รู้แล้ว เดี๋ยวสัปดาห์นี้ก็กระจ่าง ไม่เกินวันศุกร์นี้ และตนเชื่อว่าเรื่องนี้มาจากเรื่องการเมือง

“อยากเรียนว่าการนำเสนอข่าว อะไรที่เป็นความจริงทำให้สังคมได้เห็น ก็ควรจะนำเสนอโดยเฉพาะในเวลานี้ บ้านเมืองกำลังวิกฤติ ควรนำข้อเท็จจริงมาเสนอ แต่กลับนำเสนอประเด็นว่าจะอยู่มั้ย จะลาออกมั้ย ผมเห็นว่าเราน่าจะช่วยกันเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพื่อช่วยกันกระชากหน้ากากว่าจริงๆแล้ว ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่ ”ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

นักการเมืองกักตุนผิดจริยธรรม-กม.

ส่วนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กรณีมีนักการเมืองเข้าไปดเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัยนอกเหนือจากการเอาผิดทางจริยธรรมซึ่งจะต้องส่งเรื่องมาที่สภาแล้ว ยังมีมาตรการดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นหน้าที่ของฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหล่านี้ 

“จริยธรรมเป็นเรื่องเบา แต่เรื่องหนักคือความผิดตามกฎหมาย เชื่อว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงพาณิชย์จะไม่ปล่อยเอาไว้ สอบข้อเท็จจริงออกมาแล้วเป็นเรื่องดีที่ประชาชนจะได้รู้ ถ้ามีข่าวออกมาว่าหน้ากากอนามัยมีการกักตุน ผมว่ามันเป็นเรื่องร้ายแรงในสถานการณ์อย่างนี้ต้องดำเนินการทางกฎหมายเด็ดขาด” นายชวน กล่าว

ยันหน้ากากบุคลากรแพทย์พอ

วันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมวสาธารณสุข กล่าวถึวกรณีบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลนหน้ากากอนามัยว่าในส่วนโรงพยาบาลของรัฐก็พยายามจัดสรรอยู่ตามโควตาที่ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์ซึ่งจากการติดตามทราบว่าปัญหาได้คลี่คลายลงแล้ว และยืนยันว่าสธ.ไม่ได้มีหน้าที่ในการจัดหาหน้ากากอนามัยมาจำหน่าย ส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ ทางผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 12 เขต ได้บริหารจัดการอยู่แล้ว

ด้านนพ.วิฑูร ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ขณะนี้เราได้รับหน้ากากประมาณ 400,000 ชิ้น ที่ได้รับการจัดสรร โดยจะส่งให้โรงพยาบาลในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขกระจายไป 12 เขตบริการ เขตละ 20,000 ชิ้น เท่ากับ 240,000 ชิ้น นอกจากนี้จะมีความสุขภาพจิต กรมอนามัย ประมาณ 20,000 ชิ้น ที่เหลือประมาณ 30,000 ชิ้น จะเป็นโรงพยาบาลของรัฐ เช่น โรงพยาบาลทหารและค่ายต่างๆรวมทั้งอบต.ต่างๆโดยหลักเกณฑ์การจัดสรรจะดูจากความจำเป็นที่ต้องการใช้เร่งด่วน

ทั้งนี้ 99 เปอร์เซ็นต์ จากกระจายไปถึงโรงพยาบาลใหญ่ทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว แและเชื่อว่าภายใน 2-3วันนี้ สถานการณ์หน้ากากอนามัยไม่เพียงพอจะคลี่คลายลง

ขณะที่ตัวแทนบริษัท ไทยฮอลพิทอล โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตหน้ากากอนามัยซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทผู้ผลิตหน้ากากอนามัย 11โรงงาน ว่า ปัจจุบันมียอดการส่งประมาณ 1.2ล้านชิ้น เพื่อจัดสรรให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ ยืนยันว่าไม่มีภาคเอกชนไปขอซื้อจากหน้าโรงงาน เพราะต้องได้รับการอนุมัติจากกรมการค้าภายใน และมีเจ้าหน้าของกรมไปควบคุมตลอดยืนยันว่าทุกขั้นตอนตรวจสอบได้โดยไม่มีหลุดรอดไปที่อื่นแน่นอน