กทม. เตรียมพร้อมแนวทางรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

กทม. เตรียมพร้อมแนวทางรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

กทม. เตรียมพร้อมแนวทางรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมเพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) โดยมี นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขต 50 เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร

158453508550

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ได้เรียกผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 – 31 มี.ค. 63 ซึ่งได้มีการออกประกาศไปเมื่อวานนี้ (17 มี.ค. 63) โดยได้มอบหมายให้สำนักงานเขตออกสำรวจในพื้นที่เขตของตนว่าสถานที่ต่างๆ ตามประกาศได้ปฏิบัติตามประกาศหรือไม่ สำหรับสถานที่ที่เข้าข่ายการประกาศปิดนั้นเป็นสถานที่ซึ่งมีคนมารวมตัวเบียดเสียดใกล้ชิด และเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อได้ง่าย ดังนี้ 1. สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด เว้นแต่การให้บริการดังกล่าวในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล 2. สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร เว้นแต่การให้บริการดังกล่าวในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล 3. สถานประกอบกิจการโรงมหรสพ (โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ) 4. สถานประกอบกิจการสถานที่ออกกำลังกาย 5. สถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ 6. สนามมวย 7. สนามกีฬา

และ 8. สนามม้า ทั้งนี้กรณีมีผู้ที่ยังสงสัยถึงสถานที่ตามประกาศ ข้อ.5 นั้น สถานที่ดังกล่าวหมายถึงสถานที่จำหน่ายอาหารและสุราที่มีการแสดงดนตรี เต้นโชว์ เต้นรำ หรือมีพนักงานบริการใกล้ชิด จะต้องปิด แต่ร้านอาหารทั่วไปที่ไม่มีลักษณะนี้ยังคงสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ นอกจากนี้ในส่วนของ ข้อ 7. นั้น การปิดสนามกีฬาจะปิดเฉพาะส่วนที่คนต้องออกกำลังกายอย่างใกล้ชิดกัน เสี่ยงต่อการสัมผัสและเป็นสถานที่ปิด อาทิ ฟิตเนส และโรงยิม ในส่วนที่เป็นสถานที่ออกกำลังกายแบบโล่งแจ้ง อาทิ สนามกีฬาที่เปิดให้คนเข้าไปวิ่งออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องปิด อย่างไรก็ดี ผู้ฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว จะมีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศให้ผู้อำนวยการเขต และหัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล เป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ มีอำนาจหน้าที่ในการตักเตือน ให้คำแนะนำ และบังคับใช้กฎหมาย

158453510043

ขอความร่วมมือประชาชนขอรับยาจากศูนย์บริการสาธารณสุข หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน

นอกจากนี้ ในส่วนของการดูแลผู้ป่วยที่มารับบริการที่โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครนั้น เพื่อเป็นการลดการแออัดและความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อยากให้ผู้ที่มีอาการป่วยเล็กน้อยหรือแค่มารับยาไปขอรับยาที่ศูนย์บริการสาธารณสุข สังกัดกรุงเทพมหานคร คลินิกอบอุ่น ของ สปสช. หรือร้านขายยาที่อยู่ใกล้บ้านแทน

ทำความสะอาดพื้นที่ วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้งานหรือสัมผัสร่วมกันต่อเนื่อง

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ รวมถึงโรงพยาบาลไปแล้ว อีกทั้งมีการจัดกิจกรรม Big Cleaning สถานที่ต่างๆ ด้วย แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้มีการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่ละหน่วยงานยังมีการเช็ดทำความสะอาดสถานที่หรือวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้หรือสิ่งที่ต้องสัมผัสร่วมกันอยู่ ในส่วนของภาคเอกชนหรือประชาชนที่อยากให้กรุงเทพมหานครเข้าไปฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อฯ ให้นั้น กรุงเทพมหานครไม่สามารถดำเนินการให้ได้ทั้งหมด แต่มีเจ้าหน้าที่พร้อมให้ความรู้ในการดูแลทำความสะอาดพื้นที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส 2019 ให้ประชาชนได้ และหากกรณีเป็นพื้นที่ที่พบผู้ป่วยก็จะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักอนามัยเข้าไปฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อฯ ให้ได้

เร่งผลิตแอลกอฮอล์เจลแจกประชาชนคนละขวด

ส่วนกรณีแอลกอฮอล์เจลขาดตลาดนั้น กรุงเทพมหานครได้มีการสั่งซื้อเอทิลแอลกอฮอล์เพื่อนำมาทำแอลกอฮอล์เจลแจกประชาชน และได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช สำนักพัฒนาสังคม และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งผลิตแอลกอฮอล์เจล คาดว่า 1 วันจะผลิตได้ 6,000 ขวด ภายใน 15 วัน จะผลิตได้ 8 แสนขวด ซึ่งเมื่อผลิตแอลกอฮอล์เจลได้แล้วจะมอบให้สำนักงานเขตนำไปแจกให้ประชาชนตามชุมชนต่างๆ คนละ 1 ขวด ต่อไป

158453512028

แจกหน้ากากผ้าให้เจ้าหน้าที่เก็บขนขยะ

นอกจากนี้ การตัดเย็บหน้ากากผ้าแจกบุคลากรนั้น กรุงเทพมหานครยังคงเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบุคลากรในสังกัดที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโรคฯ ได้แก่ เจ้าหน้าที่เก็บขนขยะ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค. 63) จะมีการแจกหน้ากากผ้า จำนวน 7,000 ชิ้น ให้เจ้าหน้าที่เก็บขนขยะ เวลา 09.30 น. ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เพิ่มเติมให้กับสำนักงานที่มีการจัดทำอยู่แล้วแต่อาจจะยังไม่เพียงพอ

ปิดศูนย์รับลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว 19 – 31 มี.ค. 63

ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำหรับการรับลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ OSS จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ 1. ศูนย์การค้าไอทีสแควร์ เขตหลักสี่ 2. ศูนย์การค้า U AMULET PLAZA เขตบางแค 3. ศูนย์การค้านัมเบอร์วัน พลาซ่า เขตประเวศ และ 4. บริเวณตลาดสี่แยกหนองจอก เขตหนองจอก นั้น จากการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการดังนี้ 1. เริ่มปิดศูนย์ 4 ศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 19 – 31 มี.ค 63 เนื่องจากในวันที่ 18 มี.ค. 63 กรมการจัดหางานไม่สามารถยกเลิกคิวที่ได้นัดหมายไว้ได้ทัน 2. หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 คลี่คลาย กรมการจัดหางาน จะเริ่มนัดแรงงานต่างด้าวจัดทำทะเบียนประวัติและทำบัตรฯ ที่สำนักงานเขตทั้ง50 เขต ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย 63 ดังนี้ วันธรรมดา เวลา 16.00 – 18.00 น. วันละ 30 คน/เขต วันเสาร์ เวลา 13.00 – 16.00 น. วันละ 50 คน/เขต และวันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 16.00 น. วันละ 100 คน/เขต

158453513946

พิจารณาแนวทางให้บุคลากรบางส่วนทำงานที่บ้าน

สำหรับการให้ข้าราชการหรือบุคลากรทำงานที่บ้านนั้น กรุงเทพมหานครกำลังหารือแนวทางดำเนินการให้ข้าราชการที่สามารถทำงานที่บ้านได้ไม่ต้องเข้ามาทำงานที่ทำงาน ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครห่วงใยในสวัสดิภาพของข้าราชการและบุคลากรในสังกัด โดยได้เน้นย้ำในเรื่องต่างๆ เช่น ให้หน่วยงานต่างๆ ทำความสะอาดอาคารสถานที่อย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง การเว้นระยะห่างการจัดโต๊ะทำงาน หรือการนั่งรับประทานอาหาร การจำกัดจำนวนบุคคลที่เข้าใช้ลิฟต์แต่ละครั้ง รวมถึงการคัดกรองคนที่จะเข้ามาในบริเวณศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานต่างๆ ในสังกัด มีการวัดไข้และจัดเตรียมแอลกอฮอล์ล้างมือไว้ให้บริการ

ปิดสถานศึกษา 18 – 31 มี.ค. 63 และเลื่อนการรับสมัครนักเรียนฯ ไปก่อน

สำหรับในส่วนของสถานศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานครนั้น เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการศึกษาได้อาศัยอำนาจตามระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการสั่งปิดสถานศึกษาชั่วคราวเนื่องจากเหตุพิเศษ พ.ศ. 2541 ข้อ 5 (3) ปิดโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 18 – 31 มี.ค. 63 เลื่อนการรับสมัครนักเรียน การสอบคัดเลือก การจับฉลาก การประกาศผล การรายงานตัว และการมอบตัว ปีการศึกษา 2563 ออกไปก่อน จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง รวมถึงมีการกำชับการอยู่เวรยามในการปฏิบัติราชการอย่างเคร่งครัด