พังงาไม่มีผู้ป่วยโควิดรายใหม่ ติดต่อกัน 25 วันแล้ว
ชาวพังงากลับจากภูเก็ตรายงานตัวเข้าพื้นที่ 1,105 คน ยังไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ติดต่อกัน 25 วันแล้ว
น.อ.อภิชาติ วรภมร รอง ผอ.รมน.พังงา พร้อมด้วย นายนเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอตะกั่วทุ่ง ลงพื้นที่ด่านตรวจบ้านท่านุ่น ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เพื่อตรวจความเรียบร้อยพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ พบว่าเจ้าหน้าที่ยังต้องทำงานกันอย่างหนักทั้งขาออกไปจังหวัดภูเก็ตและขาเข้ามาจังหวัดพังงา ซึ่งพบว่ายังมีรถติดในระดับหนึ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะมีรถบรรทุกสิ่งของอุปโภค-บริโภคผ่านไปมาอย่างต่อเนื่อง และเจ้าหน้าที่ยังตรวจเข้มพร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่เดินทางผ่านจังหวัดพังงากลับภูมิลำเนา ซึ่งให้สติ๊กเกอร์สีต่างๆติดหน้ารถตามเส้นทางที่เดินทาง ส่วนคนที่กลับมาอาศัยในจังหวัดพังงาต้องไปผ่านการคัดกรองที่โรงเรียนทุ่งโพธิ์วิทยา ซึ่งได้มีการบูรณาการเจ้าหน้าที่จากทุกอำเภอมารอคัดกรองผู้รายงานตัวเดินทางกลับเข้ามาในอำเภอ
นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา กล่าวว่า หลังจากจังหวัดภูเก็ตอนุญาตให้คนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ ซึ่งทราบว่ามีการลงทะเบียนกว่า 4 หมื่นราย โดยมีพี่น้องชาวพังงาลงทะเบียนขออนุญาตกลับมากว่า 1,800 คน ขณะนี้ผ่านมา 8 วัน เข้ามารายงานตัวแล้ว 1,105 คน แยกเป็น อำเภอเมืองพังงา 141 คน อำเภอทับปุด 127 คน อำเภอคุระบุรี 89 คน อำเภอกะปง 61 คน อำเภอท้ายเหมือง 246 คน อำเภอตะกั่วป่า 168 คน อำเภอตะกั่วทุ่ง 241 คน อำเภอเกาะยาว 8 คน โดยมาจากพื้นที่เสี่ยงต่ำเข้าสู่กระบวนการกักตัวที่บ้าน 14 วัน รวม 1,082 คน และมาจากพื้นที่เสี่ยงสูงต้องกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ 23 คน แยกเป็น อำเภอคุระบุรี 1 คน อำเภอตะกั่วป่า 10 คน อำเภอท้ายเหมือง 3 คน อำเภอตะกั่วทุ่ง 8 คน อำเภอทับปุด 1 คน ซึ่งจะดำเนินการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ หากผลเป็นลบ ก็จะเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน ที่บ้าน และจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผู้นำชุมชน และ อ.ส.ม.ติดตามเยี่ยมสังเกตอาการจนครบกำหนด จากนี้ไปจะถอนกำลังเจ้าหน้าที่กลับสู่อำเภอ และให้ผู้เข้ามารายใหม่ต้องไปรายงานตัวที่อำเภอที่แจ้งกลับเข้ามา
ส่วนของอำเภอตะกั่วทุ่งจะอยู่ต่อถึงวันจันทร์นี้ สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดพังงาเรามีผู้ป่วยยืนยันและรักษาหายแล้ว 2 ราย ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เป็นเวลา 25 วันติดต่อกันแล้ว จากนี้ไปจะมีมาตรการเชิงรุก ค้นหาผู้ป่วยในชุมชนเพื่อตรวจหาเชื้อ ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่จะค้นหาผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการให้เข้าสู่ระบบรักษาได้เร็ว และช่วยจำกัดการแพร่กระจายของโรคได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น