คอนเนคชั่น '2 เสธ.' ข้างกาย 'ประยุทธ์'
ยุคทหารเป็นใหญ่คุมนักการเมือง ไม่ให้ เดินนอกลู่-วิ่งนอกทาง ทำให้นักการเมืองทั้ง รุ่นใหญ่-รุ่นเล็ก จำเป็นต้องมีคอนเนคชั่นพิเศษ
เพื่อถางทางเชื่อมสัมพันธ์ไปยัง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม
ทางลัดที่จะตีตั๋วพิเศษอยู่ที่ “นายทหารคนสนิท” ที่เป็นมือไม้ให้ “พล.อ.ประยุทธ์” บนตึกไทยคู่ฟ้า ตั้งแต่สมัยเรืองอำนาจนั่งควบเก้าอี้ นายกฯ-หัวหน้าคสช. จนถึง “นายกฯเลือกตั้ง” บรรดาทีมงานรอบตัวของ “พล.อ.ประยุทธ์” ยังคงเป็นคนหน้าเดิมที่คอยสกรีนงาน-ประสานงาน ให้มาโดยตลอด
คนแรก “พล.ต.นิมิตต์ สุวรรณรัฐ” รองหัวหน้าสำนักงานประธานภารกิจทางการต่างประเทศ ศูนย์ประสานภารกิจทางทหาร สำนักนโยบายและแผน กระทรวงกลาโหม ยังคงทำหน้าที่อย่างแข็งขัน แม้จะมีข่าวเก็บข้าวของพ้นทีมงานตึกไทยคู่ฟ้า แต่ “พล.อ.ประยุทธ์” ยังยื้อให้อยู่ต่อ
คนสอง “เสธ.เก๋” พล.ต.ณัฐวุฒิ ภาสุวณิชยพงษ์ เตรียมทหารรุ่น 30 นายทหารฝ่ายเสนาธิการ ที่เป็นนายทหารใกล้ชิด “พล.อ.ประยุทธ์” ว่ากันว่า “เสธ.เก๋” มาแรงแซงทุกคน ระดับความไว้ใจอยู่ในขั้นสูงสุด
เมื่อทั้ง “เสธ.นิมิตต์-เสธ.เก๋” อยู่ใกล้ชิด “พล.อ.ประยุทธ์” จึงไม่แปลกที่ “นักการเมือง” พยายามเชื่อสัมพันธ์ไปหา โดยมีหลายกลุ่ม-หลายก๊วน พยายามเอาใจ “2เสธ.” มากเป็นพิเศษ
ที่เห็นได้ชัดคือ “2รมต. จากค่าย กปปส.” ทั้ง “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รมว.ศึกษาธิการ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สามารถทำให้ “เสธ.นิมิตต์-เสธ.เก๋”ไว้ใจมากกว่านักการเมืองคนอื่น
โดย “พุทธิพงษ์” ใช้โอกาสที่ช่วงปลาย “รัฐบาล คสช.” ได้เข้ามาสอดแนมทางการเมือง นั่งเก้าอี้โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี แถมยังเสนอให้ “พล.อ.ประยุทธ์” เปิดเฟซบุ๊คส่วนตัว จนมี “กองเชียร์-กองแช่ง” เข้ามากดติดตามจำนวนมาก ทำให้ “เสธ.นิมิตต์-เสธ.เก๋” ค่อนข้างคล้อยตามคำแนะนำของ “พุทธิพงษ์”
อีกทั้ง ภายหลังที่จัดตั้งรัฐบาลจากการเลือกตั้ง คู่หู “ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์” ยังเดินเข้าไปร่วมหารือภายในวอร์รูม “ฝ่ายเสธ.” เป็นประจำ ทำให้ความสัมพันธ์ซี้ปึ๊กกว่าเดิม จนสามารถเดินเกมให้ “พี่เลิก” อย่าง “นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” เข้ามานั่งเก้าอี้ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้อย่างแนบเนียน
ชั่วโมงนี้ แม้จำนวน “ส.ส.กทม.” ที่ทยอยตีจากอ้อมอกของ “ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์” แต่คู่หูดูโอ้ก็ไม่สนใจ เพราะเชื่อมั่นว่าคอนเนคชั่น “ตึกไทยคู่ฟ้า” จะสามารถทำให้อยู่รอดปลอดภัย ไม่ถูกเขี่ยพ้นเก้าอี้ “รัฐมนตรี” อย่างแน่นอน