ดีลลับลำปาง 'ประวิตร-พินิจ' สัญญาใจ แลกเก้าอี้ ส.ส. - นายก อบจ.
จู่ ๆ พรรคเพื่อไทย (พท.) “ชักธงขาว” ยอมแพ้ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 4 จ.ลำปาง แบบไม่มีปี่ ไม่มีขลุ่ย “แกนนำเพื่อไทย” ทำได้แค่แก้เกี้ยว
ออกตัวสนับสนุนผู้สมัครพรรคร่วมฝ่ายค้าน หวังเทคะแนนให้ “ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ” จากพรรคเสรีรวมไทย เข้าวิน
จากที่ประกาศส่ง “พินิจ จันทรสุรินทร์” บิดาแชมป์เก่า “อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์” ซึ่งเสียชีวิต ทำให้เก้าอี้ ส.ส.ว่างลง แกนนำเพื่อไทยมั่นใจว่าหาก “พินิจ” ลงรับสมัครเลือกตั้งซ่อม มีโอกาสสูงที่จะชนะ “วัฒนา สิทธิวัง” คู่ปรับจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
เพราะคะแนนการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ถือว่าห่างกันลิบ อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ จากพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนอันดับ 1 ที่ 42,984 คะแนน นายวัฒนา สิทธิวัง จากพรรคพลังประชารัฐ อันดับ 2 ได้ 30,368 คะแนน และน.ส.พิมดารา ศิริสลุง จากพรรคอนาคตใหม่ ได้ 26,741 คะแนน
ส่วนต่างคะแนนระหว่าง “อิทธิรัตน์-วัฒนา” อยู่ที่ 12,616 คะแนน เมื่อบวกกับคะแนนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ 26,741 คะแนน ทำให้มีส่วนต่างทางคะแนนอยู่ที่ 39,357 มากกว่าคะแนนที่ “วัฒนา-พลังประชารัฐ” ได้รับเสียอีก
จึงไม่ยาก ที่พรรคเพื่อไทยจะสามารถรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้ หากผู้สมัครรับการเลือกตั้งชื่อ “พินิจ” แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน-ใจคนเปลี่ยน เมื่อ “พินิจ” ดีดลูกคิดคำนวณแล้วว่า แม้ผลเลือกตั้งจะออกมาชนะวัฒนา-พลังประชารัฐ แต่ยังอยู่ร่วมค่ายกับ “ฝ่ายค้าน” ไม่มีได้ มีแต่เสีย
ซึ่งดีลเดิม “พินิจ” ปันใจให้กับพลังประชารัฐตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 แต่ “อิทธิรัตน์” ผู้เป็นลูกชาย กล่อมขอให้พ่ออยู่ร่วมหัวจมท้ายกับเพื่อไทยอีกสักยก เมื่อ “อิทธิรัตน์” เลือกเส้นทางของตัวเอง “พินิจ” ก็ไม่ขวางเส้นทางของลูก ยอมถอยฉากมาช่วยหาเสียงเบื้องหลังแทน
ทว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน “พินิจ” จึงเดินเกม “เปิดดีล” อีกรอบ โดยผ่านทาง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำพลังประชารัฐ ทอดไมตรีไปยัง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค
เมื่อโอกาสเปิดช่องให้กับ “ผู้กองมนัส” ได้โชว์ผลงาน เพื่อซื้อใจ “บิ๊กป้อม” หลังจากเอาใจออกห่างแอบย้ายขั้วไปหนุน “ส.สมคิด” ก่อนกลับลำมายืนเคียงข้างนายเก่าอีกครั้ง
การดีลไม่ให้ “พินิจ” ลงสมัครรับการเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทยได้ ถือเป็นผลงานของ “ผู้กองมนัส” ที่เอาใจ “บิ๊กป้อม” ถูกจังหวะ แต่ต้องแลกกับเก้าอี้ “นายก อบจ.ลำปาง" ที่ “พินิจ” ขอจับจอง
ผู้ท้าชิงที่ “ผู้กองมนัส” วางตัวเอาไว้ อาจจะต้องหลบให้ขาใหญ่อย่าง “พินิจ” ซึ่งงานนี้ “บิ๊กป้อม” โอเคเซย์เยส ไฟเขียวให้ “พินิจ” ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.ลำปาง แลกกับเก้าอี้ ส.ส.ที่ต้องหลีกให้ “วัฒนา-พลังประชารัฐ”
หลังจากนี้ “พินิจ” อาจต้องคิดหลายตลบว่า จะลงชิงเก้าอี้ “นายก อบจ.” ในนามพรรคเพื่อไทย หรือในนามพรรคพลังประชารัฐ หากในนามเพื่อไทยก็ยังพอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแกนนำในซีกของ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรค แต่ในปีกของ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค คงต่อกันไม่ติด
โดยคะแนนการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ จะเป็นตัวชี้วัด ให้ “พินิจ” ได้ตัดสินใจ หากพลังประชารัฐชนะขาด อาจจะย้ายขั้วมาซบ แต่หากคะแนนไม่ทิ้งห่าง “ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ” จากพรรคเสรีรวมไทย ก็อาจจะอยู่ร่วมค่ายเพื่อไทยต่อ เพราะฐานคะแนนพรรคอาจสูงกว่าความนิยมส่วนตัว
อีกปัจจัยที่ “พินิจ” เปลี่ยนใจในช่วงโค้งสุดท้าย หนีไม่พ้นความแตกแยกภายในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะบทเรียนของการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 7 จ.ขอนแก่น ที่ “ธนิก มาสีพิทักษ์” จากเพื่อไทย พ่ายให้ “สมศักดิ์ คุณเงิน” จากพลังประชารัฐ
ว่ากันว่า “ธนิก” ได้ลงสมัครเพราะ “สุดารัตน์” เป็นคนดีลตรงกับ “แกนนำพรรคเพื่อไทย” ทั้งที่ “สมพงษ์-แกนนำเพื่อไทย” อยากส่ง “อดิศร เพียงเกษ” เพื่อนรัก-เพื่อนเลิฟ ลงชิงเก้าอี้ ส.ส.มากกว่า แต่เมื่อ “สุดารัตน์” ขอมา ก็กล้าให้
โดยยื่นเงื่อนไขว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่เจียด “งบฯส่วนกลาง” ลงไปช่วย แต่ให้ “ธนิก” ควักทุนตัวเอง บวกกับแรงสนับสนุนจาก “สุดารัตน์” เท่านั้น
แต่สุดท้าย “ธนิก” ก็ยอมควักกระเป๋า ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ขณะที่ “สุดารัตน์” ลอยลำ-ลอยแพ ไม่ยอมเฉือนเนื้อตัวเอง เพื่อช่วย “ธนิก” จนในพรรคเพื่อไทยวิจารณ์กันสนั่น
เมื่อ “พินิจ” ได้รับดีลลับจาก “บิ๊กป้อม” บวกกับความขัดแย้งภายในพรรคที่ไม่มี “หัวจ่าย” ต่างคนต่างเดิน “พินิจ” จึงต้องเลือกเส้นทางที่คำนวณแล้ว “คุ้มทุน” มากที่สุด
ส่วนพรรคเพื่อไทย การยอมหมอบให้กับพรรคพลังประชารัฐ ในศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ถือเป็นความพ่ายแพ้ ที่ยังไม่ทันได้ลงแข่ง
ย่อมเสียหน้า เสียฐาน “แฟนคลับ” จนแทบจะหมดเครดิต ความเป็นพรรคการเมือง!