'บิ๊กแดง' โยนเจ้ากรมสรรพวุธทบ. ชี้แจงกมธ.ปมกำลังพลกดขี่ข่มเหงผู้ใต้บังคับบัญชา
“บิ๊กแดง” โยนเจ้ากรมสรรพวุธทบ.แบกหน้าชี้แจงกมธ.แทน ปมกำลังพลกดขี่ข่มเหงผู้ใต้บังคับบัญชา ล่าสุดผู้ร้องขอโยกย้ายไปสังกัดหน่วยงานอื่น
เมื่อวันที่ 27 พ.ค.63 นายรังสิมันต์ โรม โฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน แถลงข่าวหลังสอบกรณี หมู่อาร์ม สิบเอกณรงค์ชัย อินทรกวี ถูกผู้บังคับบัญชาระดับสูงข่มขู่คุกคามเอาชีวิต จากการร้องเรียน การทุจริตในกองทัพบก
ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ได้มีการประชุมพิจารณาศึษาและสอบหาข้อเท็จจริงกรณีการกดขี่ข่มเหงผู้ใต้บังคับบัญชา และการใช้อำนาจโดยมิชอบของผู้บังคับบัญชา อันเนื่องมาจากการร้องเรียนปัญหาทุจริตภายในกรมสรรพาวุธทหารบก โดยผู้ร้องเรียนได้แก่ ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี เสมียนงบประมาณ แผนกโครงการและงบประมาณ กองแผนและโครงการ ศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก
ในประเด็นนี้ เดิมทีกรรมาธิการฯ ได้มีมติเชิญ ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ มาให้คำชี้แจง แต่ พล.อ.อภิรัชต์ ได้มอบหมายให้ พล.ท.ศรชัย กาญจนสูตร เจ้ากรมสรรรพาวุธทหารบก มาชี้แจงแทน โดยที่ไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้องที่มาให้คำชี้แจงเองไม่ได้แต่ประการใด
ทั้งนี้ พล.ท.ศรชัย ยืนยันว่าสามารถชี้แจงแทน ผบ.ทบ. ได้ในทุกประเด็น กรรมาธิการจึงได้เริ่มพิจารณากรณีดังกล่าว
โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมดังนี้
- พล.ท.ศรชัย กาญจนสูตร เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก
- พล.ต.อภิชาติ อาจสันเที๊ยะ ผบ.ศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธ
- ร.ต. วุฒิชัย จงกลรัตน์
- ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี (ผู้ร้อง)
- นายวีระ สมความคิด (คณะผู้ร้อง)
- นางสาวณัฏฐา มหัทธนา (คณะผู้ร้อง)
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการฯ ได้ใช้เวลาในการประชุมกรณีดังกล่าวประมาณ 2 ชั่วโมง โดยได้รับฟังข้อเท็จจริงจากผู้ร้อง และเปิดโอกาสให้ผู้มาชี้แจงได้ชี้แจงอย่างเต็มที่ สรุปข้อเท็จจริงได้ว่า ส.อ.ณรงค์ชัยได้ร้องเรียนต่อหน่วยงานภายในกองทัพบกว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น หลังจากนั้นได้มีการตั้งกรรมการสอบสวน ส.อ.ณรงค์ชัย ตลอดจนมีการข่มขู่คุกคามจากผู้บังคับบัญชา
ซึ่งในกรณีดังกล่าวทาง พล.ท.ศรชัย เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก ได้ชี้แจงว่าเรื่องร้องเรียนในประเด็นการทุจริตนั้น ทางกองทัพบกได้ตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว ในส่วนของการข่มขู่คุกคามนั้น ยืนยันว่าหน่วยงานภายในกองทัพได้ดำเนินกระบวนการสอบสวนตาม พ.ร.บ.วินัยทหาร พ.ศ. 2476 อย่างเคร่งครัด หากมีการข่มขู่คุกคามถึงขั้นเอาชีวิตจริงให้ร้องเรียนมาที่ตนได้
ผลการพิจารณา คณะกรรมาธิการฯ เห็นว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวยังไม่เป็นที่ยุติ จึงมีมติตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อศึกษาและตรวจสอบข้อเท็จจริงคู่ขนานไปกับคณะกรรมการของกองทัพต่อไป
นอกจากนี้ ผู้ร้องได้ขอใช้สิทธิคุ้มครองพยานในการร้องเรียนการทุจริตต่อ ป.ป.ช. โดยขอโอนย้ายไปรับราชการในหน่วยงานอื่น ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ จะประสานไปยัง ป.ป.ช. ต่อไป
ท้ายนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องต่อไปคณะกรรมาธิการฯ ได้รับรอง รายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง "การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทางอาญาในชั้นสอบสวน" ซึ่งจะนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
สำหรับการประชุมคณะกรรมการในครั้งต่อไปจะเป็นการพิจารณาศึกษาและสอบหาข้อเท็จจริงกรณีปัญหาเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับการเดินทางกลับของคนไทยที่ติดค้างอยู่ในต่างประเทศอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีมติให้เชิญ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) หรือ ศบค. พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.),ปลัดกระทรวงต่งประเทศหรือผู้แทน และผู้บัญชากาสำนังานตรวจคนเข้าเมือง มาให้คำชี้แจงกรณีดังกล่าว