'สามารถ' เตือนสติ 'วิโรจน์' ชี้ตปท.ชื่นชมไทยแก้ปัญหาโควิด-19
"สามารถ เจนชัยจิตรวนิช" เตือนสติ "วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" อภิปรายแบบไม่รู้จริง ชี้ตปท.ชื่นชมไทยแก้ปัญหาโควิด-19
วันนี้ (28 พ.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเตือนสติ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในการอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับนั้น รัฐบาลบอกว่าไทยชนะ แต่ความเห็นส่วนตัวคำว่าไทยชนะจริงหรือไม่ โดยตนสงสัยว่า นายวิโรจน์ ไปอยู่ประเทศไหนมา จึงไม่รู้ข่าวสารบ้านเมืองว่าในต่างประเทศออกมาชื่นชมรัฐบาลในการแก้ปัญหาโควิด-19 รวมทั้ง ตนได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือตามชุมชนต่างๆ ก็ได้รับเสียงชื่นชมที่ดีเยี่ยมและอยากถามว่า นายวิโรจน์ เคยลงพื้นที่เยียวยาชาวบ้านบ้างหรือไม่
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ส่วนพ่อแม่พี่น้องประชาชนมาต่อแถวร้องทุกข์ที่กระทรวงการคลังนั้นเพราะระบบเอไออาจมีปัญหาการคัดกรองทำให้ชาวบ้านบางส่วนตกหล่น ซึ่งทางนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ออกมาแก้ไขปัญหาให้กับผู้ได้รับผลกระทบจึงสงสัยว่านายวิโรจน์ไปอยู่ที่ไหนมา โดยรัฐบาลพยายามเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนพร้อมเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังไวรัสโควิด-19 หมดไป จึงต้องกู้เงินเพื่อเร่งฟื้นฟูประเทศชาติ ในอดีตอย่างเช่นปี 54 เกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่ ครม.ได้เห็นชอบประกาศขายสินเชื่อ 3.2 แสนล้านบาทช่วยผู้ประสบภัยในดอกเบี้ยอัตราพิเศษ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1.ผู้ประกอบการรายใหญ่ 6.5 หมื่นล้านบาท 2.ผู้ประกอบการรายย่อย 1.7 แสนล้านบาท และ 3.ผู้ประกอบการชาวบ้าน 9 หมื่นล้านบาท
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ในเวลานั้นสำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพัฒนาระบบอุทกภัยจากธนาคารออมสินให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมกู้เงินเพื่อป้องกันน้ำท่วม ซึ่งเป็นตัวอย่างในอดีตว่ารัฐบาลได้กู้เงินเพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่หากจำได้เหตุการณ์น้ำท่วมต้องรอน้ำลดก่อนจึงมีมาตรการป้องกันและง่ายกว่ารัฐบาลปัจจุบันที่ตเองประสบกับปัญหาเชื้อโรคที่มองไม่เห็นแต่ทำได้อย่างดีเยี่ยม
“อย่างไรก็ตาม วันนี้ 28 พ.ค. ศูนย์ข้อมูลไวรัสโควิด-19 ของมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ ได้ระบุว่าผู้เสียชีวิตในสหรัฐอเมริกา เพิ่มเป็น 1 แสนกว่าศพ ยอดสะสมผู้ติดเชื้อกว่า 1 ล้านคน คิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อทั่วโลก จึงอยากให้นายวิโรจหาข้อมูลข่าวสารเพื่อจะได้รู้เท่าทันเหตุการณ์ ไม่ใช่คิดเองเข้าใจเอง โดยไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเพราะเป็นห่วงนายวิโรจน์อาจเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ไม่เป็นจริงให้กับประชาชน”