ผู้ช่วย รมต.ยุติธรรม ชี้แชร์ลูกโซ่ระบาดหนัก ย้ำปฏิรูปกฎหมายเอาเงินคืนเหยื่อ

วันนี้ (3 มิ.ย.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า คดีแชร์ลูกโซ่จะไม่มีวันหมดในสังคมไทยถ้าไม่ฉีดยาแรง โดยรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา มีคนตกเป็นเหยื่อคดีแชร์ลูกโซ่จำนวนมากจำนวนมากจากข่าวที่ปรากฏ ยิ่งในช่วงวิกฤตโควิด-19 ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเพราะคนอยู่บ้านได้และใช้สื่อในโลกออนไลน์ต่อเนื่อง

ล่าสุดพบว่า มีมิจฉาชีพไลฟ์สดชักชวนประชาชนให้ร่วมลงทุนเหมือนกรณีแชร์แม่มณีและมีคนหลงเชื่อหลายราย ทั้งนี้ นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ได้มาปรึกษาตนทราบว่าชาวบ้านในพื้นที่ถูกหลอกลงทุนแชร์ลูกโซ่และอยากให้ลงไปช่วยเหลือจึงแนะนำว่าให้นำปัญหาที่เกิดขึ้นจากคดีแชร์ลูกโซ่ให้นำมาหารือในสภาหรือพาผู้เสียหายมาร้องทุกข์ที่กระทรวงยุติธรรม ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ปัญหาแชร์ลูกโซ่เป็นวาระแห่งชาติ ตั้งแต่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2560

นายสามารถ กล่าวอีกว่า ตนอยู่กับผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อขบวนการแชร์ลูกโซ่มาโดยตลอดเข้าใจความรู้สึกทุกคนดีและทั้งนี้ตนได้เขียนหนังสือถึง 4 เล่มเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว รวมทั้งเดินทางไปบรรยายให้ความรู้กับประชาชนในพื้นที่ที่เคยเกิดคดีแชร์ลูกโซ่มาแล้ว 15 จังหวัด ทราบดีว่าปัญหาแชร์ลูกโซ่เป็นเรื่องใหญ่และเคยเน้นย้ำว่าเป็นปัญหาใหญ่ยิ่งกว่ายาเสพติด เพราะผู้เสียหายบางคนไม่ทราบด้วยว่าการลงทุนนั้นๆ เป็นแชร์ลูกโซ่ อาทิ การเลี้ยงกุ้งก้ามแดง การปลูกมันเทศญี่ปุ่น การซื้อทัวร์ไปต่างประเทศ การลงทุนสกุลเงินดิจิทัล และ ฌาปนกิจสงเคราะห์ ก็สามารถเป็นแชร์ลูกโซ่ได้ ดังนั้น ทุกอย่างสามารถดำเนินกิจการให้เป็นแชร์ลูกโซ่ได้ทั้งหมด ในประเทศแอลแบเนียเคยมีแชร์ลูกโซ่แฝงมาถึง 10%ของGDPทั้งประเทศ
จนสุดท้ายล่มสลายเกิดการจลาจล
 

“ผมเคยกล่าวแล้วว่าไม่มีกิจการใดๆในโลกที่ทำให้คนรวยกลายเป็นคนจนในชั่วพริบตา นอกจากการเล่นแชร์ลูกโซ่เพราะนำเงินมาลงทุนแบบหมดเนื้อหมดตัว ไปกู้หนี้ยืมสิน แถมบางคนไปชักชวนพ่อแม่พี่น้องคนรู้จักมาร่วมลงทุนและอาจกลายเป็นผู้ต้องหาอีก ขบวนการแชร์ลูกโซ่ อยู่ในสังคมไทยผ่านมาแล้วมากกว่า 30 ปีตั้งแต่สมัยคดีแชร์แม่ชม้อย แต่ปัญหาดังกล่าวก็ยังไม่จบสิ้นเสียที”

นายสามารถ กล่าวต่อว่า  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ พปชร. ก็เคยให้ ส.ส.ของพรรคฯ ยื่นกฎหมายปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคดีแชร์ลูกโซ่ และเรื่องนี้ทางสภาได้เสนอเรื่องให้นายกรัฐมนตรีแล้ว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้ตอบไปทาง สลน. ว่าไม่สามารถดำเนินการได้โดยลำพัง จะต้องมีกฎหมายเฉพาะที่เข้ามาป้องกันช่วยเหลือประชาชนให้ได้ทรัพย์สินคืนด้วย เช่น คดีแชร์โชกุน ข่าวดังเมื่อปี 60 ผ่านมา 3 ปีแล้วผู้เสียหายก็ยังไม่ได้รับเงินคืน หรือ คดีน้ำมันตะเกียงหอมระเหย จับกุมคนร้ายตั้งแต่ปี 55 แต่ปัจจุบันผู้เสียหายก็ยังไม่ได้เงินคืน โดยตนมีหนังสือเสนอ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้พิจารณาเรื่องกฎหมายแชร์ลูกโซ่ต้องมีการพัฒนากฏหมายให้ทันสมัย

นายสามารถ กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะทำงานศูนย์ร้องทุกข์ พปชร. อาทิ นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา เขต 2  เคยติดตามกฏหมายแชร์ลูกโซ่ ต่อแผนการปฏิรูปประเทศด้านกฏหมายว่าทำไมถึงไม่มีกฏหมายปราบปรามแชร์ลูกโซ่, นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา เขต 3 เคยหารือปัญหานี้ในสภาแล้วไม่ต่ำกว่า2ครั้ง นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม.เขต 30 จะนำปัญหาที่ล่าสุดได้รับเรื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ถูกหลอกลวงให้ลงทุนในการเปิดบริษัทแล้วแอบอ้างชักชวนลงทุน และ นายภูดิท อินสุวรรณ์ ส.ส.พิจิตร เขต 2 เคยยื่นญัตติให้มีการตั้งกรรมาธิการศึกษาปัญหาแชร์ลูกโซ่ และ เคยพาชาวบ้านไปร้องทุกข์ต่อ ผบ.ตร. ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทุกคนต่างมีความตั้งใจผลักดันกฎหมายปราบปรามแชร์ลูกโซ่อย่างต่อเนื่อง

ซึ่งคิดว่าในวาระการประชุมสภาครั้งหน้าเรื่องปัญหาแชร์ลูกโซ่ต้องนำมาร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ปัญหาการฉ้อโกงประชาชนนับเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่พวกตนยังเป็นห่วงเรื่องงบประมาณ เช่น พ.ร.บ.โอนงบฯ พ.ร.ก.กู้เงิน ที่จะนำมาเยียวยาให้กับประชาชน เกรงว่าชาวบ้านจะถูกหลอกให้ลงทุนแชร์ลูกโซ่อีก ส่งผลให้เม็ดเงินที่จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นไม่สามารถเข้าอยู่ในระบบเศรษฐกิจได้แต่กลับถูกมิจฉาชีพเข้ามาหลอกลวงนำเงินออกนอกระบบไป เพราะส่วนใหญ่แชร์ลูกโซ่จะเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ
 
“ปัญหาแชร์ลูกโซ่มีทั่วโลก แต่ละประเทศมีมาตรการป้องกันแตกต่างกัน เช่น ประเทศจีนมีหน่วยงานเฉพาะปราบปรามเรื่องนี้โดยตรง มีมาตรการคืนเงินชัดเจน มีมาตรการยึดทรัพย์คนร้ายชัดเจนและเร่งเฉลี่ยคืนทรัพย์สินให้ผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม ผมขอยืนยันว่าจะเคียงข้างผู้เสียหายทุกคนและพร้อมแก้ปัญหา ซึ่งคนไทยจะต้องไม่ถูกโกงและคนถูกโกงต้องได้เงินคืน รวมถึงประชาชนที่เคยร่วมเสนอกฎหมายจำนวน 500,000 รายชื่อนั้น ผมยังจดจำได้เสมอ "แต่ในอดีตคดีแชร์บลิชเชอร์ใช้เวลาถึง 34 ปี" ส.ส.ศาสตราก็เคยพูดในสภาในช่วงอภิปรายกฏหมายปฏิรูป ดังนั้นผมเป็นกำลังใจให้ทุกคนมีกำลังใจกำลังกายที่เข้มแข็งแล้วผ่านไปด้วยกัน นาย สามารถ กล่าวทิ้งท้าย