เสี่ยแฮงค์ ย้ำอีกครั้ง 'นฤมล' เป็นแค่หัวหน้าเศรษฐกิจพรรคเท่านั้น
ดราม่า "นฤมล ภิญโญสินวัฒน์" จะมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ทำให้พปชร.เป็นเป้าสายตาอีกครั้ง เดือดร้อนถึง "เสี่ยแฮงค์" ต้องชี้แจงอีกครั้งในวันนี้ว่าเป็นแค่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคเท่านั้น
แม้ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐจะจบลงแล้ว ภายหลังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค แต่ดูเหมือนว่าจะมีดราม่าควันหลังกันเล็กน้อย เนื่องจาก นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคคนใหม่ และโฆษกรัฐบาล ถูกมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เพื่อดึงคนดังเข้ามาร่วมงาน
โดยประเด็นที่ว่านี้มาจากคำพูดของ 'อนุชา นาคาศัย' เลขาธิการพรรคคนใหม่เองเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.
"หัวหน้าพรรคสั่งการให้ออกนโยบายแก้ปัญหาของประเทศ เราทำได้แน่ เพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้น ขอให้คอยดู ยืนยันด้วยความมั่นใจว่าจะนำพาประเทศ สังคม เศรษฐกิจ การเมืองสู่ความเจริญ เพื่อทำให้ประชาชนกินดี อยู่ดี พรรคเราทำได้แน่นอน เราทำงานคู่ขนานเพื่อผลิตนโยบาย มีนักวิชาการ นักธุรกิจ คนรุ่นใหม่ ช่วยกันคิดและนำเสนอถึงรัฐบาล และนายกฯ มั่นใจว่าดีแน่ จะได้เห็นสิ่งดีๆ เกิดขึ้น เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นแน่นอน โดยโฉมหน้าทีมเศรษฐกิจใหม่ของพรรค จะนำโดย นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และคนมีชื่อเสียงของประเทศ ขอให้รอตกผลึกอีกครั้ง"
เดือดร้อนถึง "เสี่ยแฮงค์" ต้องชี้แจงอีกครั้งในวันนี้ว่าเป็นแค่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคเท่านั้น
พรรคพลังประชารัฐมีความจำเป็นที่ต้องทำงานให้ประชาชนหลายด้านอย่างเร่งด่วน และทำงานเชิงรุก ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นความต้องการของพรรคพลังประชารัฐที่ต้องตั้งทีมขึ้นมา ทั้งด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจ และด้านการเมือง ซึ่งในแต่ละด้านจำเป็นต้องมีบุคคลจากทุกภาคส่วนเข้าร่วม ทั้งนักวิชาการ นักการเมือง นักธุกิจ คนรุ่นใหม่ โดยในด้านเศรษฐกิจนั้นถือเป็นความเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ จึงได้แต่งตั้งนางนฤมล เป็นทีมเศรษฐกิจของพรรค ในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคและนักวิชาการ ส่วนด้านอื่นๆ นั้นจะเปิดเผยรายชื่ออีกครั้ง
"ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐต้องเร่งผลิตนโยบายเร่งด่วนเพื่อเยียวยาหลังโควิดลงสู่รากหญ้าซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจ เพื่อจะสะท้อนไปยังนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลเพื่อพิจารณา การตั้งนางนฤมลขึ้นมาเป็นทีมเศรษฐกิจนั้นยืนยันว่าเป็นการคิดนโยบายให้กับพรรค ไม่ใช่ตั้งขึ้นมาคุมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล"
สำหรับเส้นทางการเมืองของอาจารย์แหม่มเดิมทีก่อนหน้านี้ได้รับเลือกเป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ แต่เมื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโฆษกรัฐบาล จึงต้องลาออกจากตำแหน่งส.ส.
สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีสถิติศาสตรบัณฑิต (คณิตศาสตร์ประยุกต์) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนไปศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (คณิตศาสตร์ประยุกต์) มหาวิทยาลัยรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์ประยุกต์) และปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (การเงิน) จากวิทยาลัยวอร์ตันแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ตลอดการทำงานในตำแหน่งโฆษกกว่า 1 ปีที่ผ่านมา มักจะไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นตอบโต้ทางการเมือง แต่จะเน้นการชี้แจงเฉพาะนโยบายและแนวทางการทำงานของรัฐบาลเท่านั้น
"เราอยู่กับธรรมชาติของผู้ที่แสดงออกทางความเห็นทางการเมือง ก็ต้องยอมรับความเห็นต่างแค่นั้น ไม่ต้องรู้สึกแบบว่าทำไมเขาเห็นไม่เหมือนเรา เพราะไม่แปลกที่คนจะเห็นต่างในสังคม ถ้าเป็นเรื่องข้อเท็จจริงก็ไม่มีปัญหา ถ้ามีตัวเลขและข้อมูลอยู่ก็ชี้แจงไป"
"แต่ถ้าเป็นอารมณ์ความรู้สึกเกี่ยวกับทางการเมืองบ้าง เราก็คงพยายามชี้แจงในเชิงสร้างสรรค์ ให้มองเห็นอีกมุมหนึ่งว่ายังมีอีกมิตินะ ทำไมครม.ถึงตัดสินใจแบบนี้ คือทุกอย่างมันมีสองด้านหมด จะพยายามดึงอีกมุมหนึ่งมาให้เห็น แต่คงไม่ไปตอบโต้แบบว่าเธอแทงมา ฉันแทงกลับ อันนั้นเป็นการเมืองแบบเก่าที่ไม่สร้างสรรค์ เรื่องเหล่านี้จะไม่ออกจากตัวเองแน่นอน หวังว่าทีมโฆษกที่จะเกิดขึ้นจะไปในทิศทางเดียวกัน เพราะท่านนายกฯ ให้แนวทางไว้ว่าเราต้องตอบแบบสร้างสรรค์"
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นับเป็นบุคคลหนึ่งที่มีข่าวมาตลอดว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นรัฐมนตรี โดยเฉพาะในตำแหน่งรมช.คลังหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งผลสุดท้ายจะลงเอยอย่างไรอีกไม่นานจะได้เห็นบทสรุป