ปรับ ครม. ลากยาว 'ส.ค.' ส.ส.พปชร.กดดัน 'สมคิด' เปิดทางทีมเศรษฐกิจใหม่

ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ถูกจับตาหลังการปรับโครงสร้างผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ชุดใหม่ ซึ่งมีความพยายามเคลื่อนไหวให้ปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจของพรรค ล่าสุดมีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ยังไม่มีท่าทีจะปรับ ครม.เร็วๆ นี้ และยังไม่หารือกับใคร เนื่องจากต้องใช้เวลาในแก้ปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อยู่ แม้จะสถานการณ์จะคลี่คลายไปมาก แต่ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5 ซึ่งเป็นกิจการที่สุ่มเสี่ยง หากเสียสมาธิกับการปรับครม. อาจจะส่งผลต่อการแก้ปัญหาโควิด-19

“การปรับครม.อย่างเร็วที่สุดจะเริ่มคุยกันในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ไปจนถึงต้นเดือนสิงหาคม ขณะนี้รัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งจึงต้องเร่งสร้างผลงาน เพื่อรอให้นายกฯ ประเมินว่า จะมีการปรับครม.หรือไม่ และหากจำเป็นต้องปรับครม.จะต้องปรับในส่วนใด” แหล่งข่าว ระบุ

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ไม่มีตำแหน่งในกก.บห.พรรคชุดใหม่ว่า “ท่านก็ทำงานอยู่กับผมดีมาตลอด และก็มีการสั่งงานในห้องประชุมแล้ว ทำไมต้องคุย เป็นเรื่องของพรรค” 

ส่วนกระแสข่าวว่ามีข้าราชการในหน่วยงานใส่เกียร์ว่าง เพราะจะเปลี่ยนนายใหม่แล้วนั้น นายกฯกล่าวว่า “ใครว่าง ถ้าใครว่างก็ต้องลงโทษไป เพราะทุกคนต้องทำงานจนถึงวันสุดท้าย ซึ่งไม่ว่าใครจะเป็นรัฐมนตรีหรือเป็นอะไรก็ตามก็ต้องทำงานเพราะเป็นข้าราชการของรัฐไม่เกี่ยวกัน” 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปลี่ยนม้ากลางศึกแบบนี้จะดีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมยังไม่ได้พูดอะไรสักอย่างเลย คุณก็พยายามถามนำอยู่นั่นแหละ ไม่ตอบแล้ว พอแล้ว ถามเป็นอยู่อย่างเดียว” เมื่อถามว่า นายกฯเบื่อไหมกับกระแสข่าวการปรับครม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่เบื่อสนุก”

“บิ๊กป้อม”ตั้ง9รองหัวหน้าพรรค

ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวถึงตำแหน่งต่างๆ ในพรรคว่า ขณะนี้รายชื่อรองหัวหน้าพรรค 9 คน เรียบร้อยหมดแล้ว ส่วนจะเป็นไปตามข่าวหรือไม่ ตนไม่ได้ดู แต่ได้เซ็นเรียบร้อยแล้ว และบรรยากาศภายในพรรคเรียบร้อยดี ส่วนการตั้ง 9 รองหัวหน้าพรรค เป็นการสลายขั้วภายในพรรคหรือไม่นั้น ตนไม่รู้ว่าขั้วไหน ขณะที่ตำแหน่งโฆษกพรรคนั้น เตรียมไว้แล้ว ไม่จำเป็นต้องบอก

สำหรับนโยบายด้านเศรษฐกิจ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องรอให้มีการเขียนขึ้นใหม่ก่อน แต่จะเน้นในเรื่องเศรษฐกิจฐานรากที่จะต้องดีขึ้น 

เมื่อถามว่า จะต้องประสานงานกับนายสมคิด จาตุพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้งานต่อเนื่องหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “อันนี้เป็นเรื่องของพรรค ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล”

เมื่อถามถึงผู้ที่จะมานำทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องการนำทีมเศรษฐกิจ แต่เป็นการเขียนนโยบาย ซึ่งไม่ใช่ชื่อของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเหรัญญิกพรรค ที่จะมานำทีม โดยนางนฤมลอยู่ในทีมเขียนนโยบายของพรรค มีทีมงานอีกหลายคน

ส่วนกรณีที่นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้ข่าวนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เป็นการพูดเรื่องภายในพรรค ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ต้องแยกแยะหน่อย”

หาตำแหน่งให้อุตตม-สนธิรัตน์ทำงาน

เมื่อถามถึงบทบาทของ นายอุตตม สาวนายน อดีตหัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตเลขาธิการพรรค แต่ยังคงเป็นสมาชิกพรรคนั้น จะได้มาช่วยงานในส่วนใด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เดี๋ยวดูก่อนว่าให้ช่วยอะไรในพรรค 

ต่อข้อถามถึงกระแสข่าว 4 กุมาร จะลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการสอบถามหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่ๆๆ”

เมื่อถามต่อว่า การเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.ตั้งความหวังอนาคตของพรรคหรือยัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อยากให้ประชาชนอยู่ดีกินดี อยากให้เศรษฐกิจฐานรากดี

“สนธิรัตน์”กั๊กยังไม่ตัดสินใจตั้งพรรค

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน กล่าวถึงกระแสข่าว “กลุ่ม 4 กุมาร” จะออกไปตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่หรือไม่ ว่า ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ และยังไม่ใช่เวลาที่จะตัดสินว่าจะอยู่ร่วมงานกับพรรค พปชร.ต่อหรือไม่ 

ส่วนจะถูกปรับออกจากตำแหน่ง รมว.พลังงานหรือไม่นั้น นายสนธิรัตน์ ตอบว่า ตนยังไม่ได้หารือกับนายกฯเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งสำคัญ ภายในพรรคทำให้เสียสมาธิทำหน้าที่รัฐมนตรีหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ก็อย่าเสียสมาธิ เราต้องแบ่งแยกหน้าที่ที่เรารับผิดชอบอยู่ ซึ่งต้องทำให้เต็มความสามารถ ส่วนเรื่องอะไรต่างๆก็อย่าเสียสมาธิ มองให้เป็นเรื่องธรรมดา

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคคนใหม่ เพื่อประสานการทำงาน ไม่ให้มีรอยต่อภายในพรรคแล้วหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนก็ได้ให้กำลังใจนายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐตั้งแต่วันเลือกตั้งกรรมการลงบริหารพรรคแล้วพร้อมกับบอกว่าอะไรที่ตนสามารถสนับสนุนได้ก็ยินดี

ส.ส.บี้“สมคิด”เปิดทางคนใหม่

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร. กล่าวว่า พรรคพปชร.คิดเตรียมคนนอกมาร่วมทีมเศรษฐกิจของพรรค แต่ยังไม่อยากเปิดเผยชื่อ แต่ติดที่ นายสมคิดมีทฤษฎีที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ในตอนนี้แล้ว จึงทำให้คนใหม่ไม่สามารถเข้ามาได้ ตนคิดว่าถ้านายสมคิดออกไป ก็จะทำให้คนใหม่เข้ามาได้อีกเยอะ โดยเฉพาะการทำงานด้านเศรษฐกิจ

ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนเรื่องทีมเศรษฐกิจก็ไม่ใช่ตำแหน่งรองนายกฯ เพียงแค่ตำแหน่งเดียว เชื่อว่านายกฯ จะพิจารณาในตำแหน่งอื่นๆ ด้วย เพื่อให้คนเก่ง มีชื่อเสียง มีฝีมือเข้ามาทำงาน พรรคพปชร.ก็ยินดีที่จะให้คนนอกที่มีฝีมือเข้ามาทำงาน

นายภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพปชร. กล่าวว่า หน้าที่ของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จะต้องเป็นผู้บริหารจัดการให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าต่อไป ในทิศทางไหน อย่างไรให้ดีขึ้น ไม่ใช่ว่า ทำไม่ได้ก็เสนอให้ยุบสภา ตนว่ามันไม่ถูกต้อง ตนลงพื้นที่มาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง มาจนถึงปัจจุบัน เวลาที่ลงพื้นที่ก็จะโดนประชาชนต่อว่าตลอดว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเมืองและในชนบท