ชาวนายิ้มแก้มปริ! 'จุรินทร์' ดันประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวผ่านบอร์ดนบข. เริ่ม 1ก.ย.นี้
ชาวนายิ้มแก้มปริ! "จุรินทร์" ดันประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวผ่านบอร์ด นบข. เริ่ม 1ก.ย.63
เมื่อวันที่ 17 ก.ค.63 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2563 ที่ห้องประชุมภักดีบดินทร์ ทําเนียบรัฐบาล เป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.)ที่ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้มีมติเห็นชอบให้มีการประกันรายได้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในฤดูการผลิตที่จะมาถึงนี้ รายละเอียดหลักการทั้งหมดก็เป็นไปทางเดียวกับที่ได้ประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวมาเมื่อปีที่ผ่านมาทั้งชนิดของข้าวทั้ง 5 ชนิด และในเรื่องของวงเงินประกันรายได้ก็เช่นเดียวกัน โดยทั้งหมดนี้จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไปจนกระทั่งสิ้นฤดูการผลิตประมาณเดือนพฤษภาคมปีหน้า นี่คือประกันรายได้
นอกจากนั้นก็มีมาตรการเสริมในเรื่องข้าว ประการที่หนึ่งจะให้มีการชะลอการขายข้าว ถ้าสมมุติเป็นระยะเวลาที่ข้าวออกมาก ซึ่งจะไปกดราคาตลาดของข้าวถ้าเป็นเกษตรกรเก็บข้าวไว้ไม่ขายจะมีเงินชดเชยให้ 1500 บาทต่อตัน ถ้าเป็นสถาบันเกษตรกรก็จะมีเงินให้ 1,500 บาทเหมือนกันแต่สถาบันจะได้ 1,000 บาทและเกษตรกรจะได้ 500 บาท และจะช่วยในเรื่องของเงินกู้โดยรัฐบาลจะช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 สำหรับสถาบันเกษตรกรและโรงสี ที่ไปซื้อข้าวมาเก็บไว้ในช่วงที่ข้าวออกมากเพื่อไม่ทำให้ข้าวราคาตกโดยจะช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ส่วนมาตรการเสริมสุดท้ายสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนั้นจะช่วยในเรื่องของค่าบริหารจัดการและการปรับปรุงคุณภาพ รายละไม่เกิน 20 ไร่ ไร่ละ 1,000 บาท
" ซึ่งในอดีตนั้นเราแบ่งออกเป็น 2 ก้อน ก้อนที่หนึ่งก็คือต้นทุน500บาท กับเรื่องของค่าเก็บเกี่ยว 500 บาท ซึ่งในอดีตนั้นก็มีปัญหามาโดยตลอดเพราะค่าเก็บเกี่ยวบางครั้งเวลาเกิดภัยพิบัติไม่มีข้าวให้เก็บเกี่ยวก็เป็นประเด็นปัญหาว่าควรจะได้ 500 บาทหรือไม่ สุดท้ายจึงใช้วิธีเอามารวมกันให้ไร่ละ 1,000 บาทแต่ไม่เกิน 20 ไร่ ซึ่งเรียกว่าค่าบริหารจัดการและปรับปรุงคุณภาพ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร" นายจุรินทร์ กล่าว
รายงานข่าว ระบุด้วยว่า มติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 โดยกำหนดราคาเป้าหมายและปริมาณต่อครัวเรือนเท่ากับปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยข้าว 5 ชนิดดังนี้ คือ
- ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน
- ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
- ข้าวเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน
- ข้าวหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน
- ข้าวเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
รายงานข่าวระบุว่าในที่ประชุมนบข.วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในส่วนของการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ต้องไปติดตามว่าผลการลงทะเบียนเป็นอย่างไรบ้างเพื่อให้ภาครัฐได้ไปบริการจัดการในหลายด้าน ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้นายก ได้แจ้งกับที่ประชุมว่า ชาวนาพิจิตร พอใจกับข้าว กข43 ซึ่งได้ราคาดี และกล่าวชื่นชมนายจุรินทร์สำหรับโครงการเกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด ที่มีการเปิดเสนอส่วนงานด้านอาหารไทยอาหารโลกเมื่อวานนี้โดยบอกว่าติดตามชมอยู่และเป็นเรื่องดีที่ดูแลตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง