ตำรวจเชียงใหม่ ยันไม่ได้ปิดชั้น 2 ร้านกาแฟดัง

ตำรวจเชียงใหม่ ยันไม่ได้ปิดชั้น 2 ร้านกาแฟดัง

ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ยืนยันไม่เคยปิดชั้น 2 ร้านกาแฟดังกลางเมืองเชียงใหม่ ซุ่มดูแฟลชม็อบท่าแพ ตามที่ อดีตส.ส.อนาคตใหม่อ้าง ชี้แกนนำผู้ชุมนุมยังไปนั่งดื่มกาแฟ รวมถึงประชาชนทั่วไปก็ยังเข้าไปใช้บริการได้ตามปกติ

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่ปัจจุบันเป็นกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ได้โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวพร้อมภาพผู้ชุมนุมที่ข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และร้านกาแฟสตาร์บัคสาขาประตูท่าแพ พร้อมข้อความระบุว่า

“ขอตั้งข้อสังเกตระหว่างนั่งในร้านสตาร์บัคตรงข้ามลานท่าแพ ช่วงเย็นวานที่ผ่านมา ดิฉันเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินขึ้นลงบันไดหลายนาย ทีแรกเข้าใจว่ามาใช้ห้องน้ำชั้นสอง แต่มาทราบภายหลังว่าชั้นสามของสตาร์บัคส์ท่าแพนั้น ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใช้งานทั้งชั้น ไม่เปิดให้ลูกค้าขึ้นไป พูดง่ายๆคือถูกปิดโซนพื้นที่บริการชั้น 3 ของร้านทั้งหมดและปิดไฟมืดทั้งฟลอร์ จะว่าตำรวจขี้นไปดื่มกาแฟก็คงไม่ใช่ โดยพื้นที่ชั้นสามของร้านมีส่วนต่อระเบียง ที่สามารถมองลงมาเห็นลานท่าแพทั่วทั้งบริเวณ

ข้อสังเกตที่หนึ่ง ขอถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ การขี้นไปใช้พื้นที่ชั้นสามของร้านโดยมีพฤติกรรมซุ่มมอง จับตาประหนึ่งตามจับผู้ร้ายในพื้นที่เอกชนนั้น เป็นการกระทำที่เกินกว่าหน้าที่ และถือเป็นการละเมิดสิทธิและทำให้เกรงกลัวได้หรือไม่? การขึ้นไปซุ่มมองในที่มืดไม่ให้มีใครสังเกตเห็นจากจุดสูงเหนือพื้นที่ชุมนุมนั้น เราทราบกันดีว่าเคยเกิดเหตุการณ์ไม่มีที่มาและไม่คาดคิดมาแล้ว

และขอถามต่อไปอีกว่า ท่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงกลัวประชาชนที่ปราศจากอาวุธ ที่มาชุมนุมโดยสงบได้อย่างไร ในการรวมตัวกันเพื่อแสดงออกครั้งนี้ ดิฉันเห็นเพียงตุ้กตาไก่ยางสีเหลืองประมาณ 20-30 ตัว ที่จะตะโกนร้อง โอ้กๆๆ เมื่อตำรวจใช้เสียงประกาศกับผู้มาชุมนุม (มีภาพประกอบตุ้กตาไก่เหลือง) ในขณะที่ตำรวจมากันแบบจัดเต็ม หลายชุด หลายหน่วย ทั้งในเครื่องแบบ นอกเครื่องแบบ ทั้งชายและหญิง ดิฉันขอถามอีกครั้งไปยังผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทุกคน "ช้าๆชัดๆ" ว่า "พวกท่านกลัวอะไรกัน (นักหนา) หรือ"

ข้อสังเกตที่สอง ขอถามไปยังสตาร์บัค ว่าการยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดโซน ปิดไฟและใช้ชั้นสามของร้านเป็นที่สอดส่องกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น อนุมานได้ว่าสตาร์บัคสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐคุกคามสิทธิและเสรีภาพของประชาชนใช่หรือไม่?”

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปที่ พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ โดย พ.ต.อ.ภูวนาท ได้กล่าวว่า ตามที่มีโพสต์หรือข่าวที่ออกไปว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.เมืองเชียงใหม่ ไปปิดชั้น 2 ของร้านกาแฟStarbucksท่าแพนั้น ไม่เป็นความจริง ทางตำรวจไม่เคยไปใช้อำนาจในการปิดเพื่อใช้สถานที่ เพียงแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปถ่ายภาพมุมสูงเท่านั้น ซึ่งระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ในร้านมีประชาชนและลูกค้าทั่วไปมาใช้บริการได้ตามปกติ รวมถึงชั้น 2 ที่เจ้าหน้าหน้าที่ขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ ก็ยังมีลูกค้านั่งดื่มกาแฟอยู่ตามปกติ เห็นแกนนำของผู้ชุมนุมไปซื้อกาแฟได้ตามปกติ จึงขอยืนยันว่าไม่ได้มีการปิดชั้น 2 ตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด

“สำหรับการชุมนุมในครั้งที่ผ่านมา เรื่องของการดำเนินคดีอยู่ระหว่างดำเนินการ ตามขั้นตอนเพราะแกนนำในครั้งนี้ เป็นแกนนำในชุดเดิมที่เคยเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว” ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าว

ผู้สื่อข่าวยังได้รายงานเพิ่มเติมจากในพื้นที่ว่า โดยปกติแล้วร้านกาแฟสตาร์บัคสาขาท่าแพ เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง จะมีลูกค้าและประชาชนทั่วไปไปใช่บริการตามปกติ โดยชั้น 2 จะสามารถมองเห็นข่วงประตูท่าแพจากมุมสูงและเห็นภาพกว้าง จึงมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปถ่ายรูปข่วงประตูท่าแพเป็นประจำ นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลหรือที่มีการจัดงานใหญ่ที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ เจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปสังเกตุการณ์ดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นประจำทุกงาน