'ก้าวไกล-กบฎ ปชป.' หักเหลี่ยมปิดสวิทต์ ส.ว.
“ในระหว่างห้าปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ การให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการตามมาตรา 159 ..
เว้นแต่การพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 159 วรรคหนึ่ง ให้กระทำในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา และมติที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 วรรคสาม ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา”
บทบัญญัติมาตรา 272 แห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นหนึ่งเงื่อนปมสำคัญที่ถูกหยิบยกมาเป็นเงื่อนไขในการปลุกระดมมวลชน โดยเฉพาะการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนักศึกษาในวันที่19ก.ย.นี้ ที่มีการชูแคมเปญในการเดินหน้าล้างมรดกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และรัฐบาล ด้วยการ“ปิดสวิตซ์ส.ว.”
สอดรับกับท่าทีจากฟากฝั่งการเมืองทั้งในส่วนของส.ว.ก่อนหน้านี้มีการตั้งกลุ่ม “60ส.ว.อิสระ” พร้อมประกาศพร้อม “ทุบหม้อข้าว” ด้วยการ“หั่นอำนาจ”การโหวตนายกรัฐมนตรีตามที่ระบุไว้ โดยผ่านกลไกการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา
ไม่ต่างจากฟากฝั่งการเมืองทั้ง “พรรคก้าวไกล” ซึ่งประกาศแยกทางกับ “พรรคเพื่อไทย” ไปจับมือ “16ส.ส.ประชาธิปัตย์” อาทิ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ,เทพไท เสนพงศ์ส.ส.นครศรีธรรมราช , พนิช วิกิตเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ตั้งตนเป็น “กบฎปชป.” ร่วมลงชื่อกับญัตติพรรคก้าวไกลเสนอร่างแก้ไขมาตรา272 แยกทางกับ “กลุ่มส.ส.” ที่ร่วมลงชื่อในญัตติที่รัฐบาลเสนอโดยชูประเด็นตั้งส.ส.ร.200 คน เพื่อสะเดาะกุญแจในมาตรา256
นอกเหนือปชป.ที่ร่วมลงชื่อกับญัตติพรรคก้าวไกล ยังเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะ“เสี่ยโต้ง” นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ 1เสียงจากภูมิใจไทย ซึ่งเคยเป็นส.ส.ฝั่งรัฐบาลเพียงหนึ่งเดียวที่ลงมติ“งดออกเสียง”เมื่อครั้งลงมติ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกนรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลในเรื่องคำมั่นสัญญาที่จะเลือก “หัวหน้าหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ เพียงคนเดียว
ในส่วนของปชป.นั้นการเลือกเดินเกมเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรกับการ “เล่นสองหน้า”เพื่อเก็บแต้มทั้งจากมวลชนตามที่เคยประกาศไว้ในสมัยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นหัวหน้าพรรค ว่า “ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ” ด้วย3เหตุผลคือ 1.ทิศทางพัฒนาไม่ชัดเจน 2.การปราบโกงยังมีช่องโหว่ และ 3. ที่มา สว. เป็นประเด็นขัดแย้งในอนาคต
ขณะเดียวกันการเลือกตั้งที่ผ่านมาปชป.ชูเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายพรรคและเป็นเงื่อนไขสำคัญในการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ครั้นจะแยกทางกัน ณ เวลานี้ ก็ยังไม่ถึงเวลา
เมื่อพลังประชารัฐและรัฐบาลไม่เอาด้วยเรื่องปิดสวิตซ์ส.ว. จึงไม่แปลกที่กลุ่มส.ส.ปชป.กลุ่มนี้จะเลือกที่จะ “หักเหลี่ยม” แล้วหันมาร่วมลงชื่อในญัตติของพรรคก้าวไกลแทน!!